'นายกฯ'พร้อมแจง'ฝ่ายค้าน'ยื่นซักฟอก | คมชัดลึก

                         31 ก.ค.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเตรียมรับมือฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าหัวข้ออะไร ซึ่งถ้าเป็นหัวข้ออะไรเราก็มีรายละเอียดและพร้อมที่จะชี้แจง

                         เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายตัวนายกฯเพียงคนเดียว นายกฯ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับหัวข้อเนื้อหาและข้อเท็จจริงด้วยว่ามีรายละเอียดอย่างไร ก็ถือว่าเป็นสิทธิของฝ่ายค้านในการตรวจสอบตามกลไกของระบอบรัฐสภาซึ่งเราก็ต้องทำหน้าที่ชี้แจงในข้อสงสัยต่างๆ และขบวนการของสภาก็จะตัดสินและประชาชนก็จะรับฟังจากข้อชี้แจงนี้ แต่เรียนว่าทุกอย่างมีเจตนาที่จะทำตามที่เสนอไว้ในนโยบายอยู่แล้ว และจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องการทำความเข้าใจต่างๆก็จะพยายามชี้แจงให้เข้าใจชัดเจนขึ้น

                         เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีการปรับครม.ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังเลย ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่

 

'นายกฯ' เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกด่วนปม3จ.ชายแดนใต้

                         น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงด่วน อาทิ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุบรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

 

'ยิ่งลักษณ์' ยันไม่มีปัญหาจ่ายเงินกองทุนสตรี

                         น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดตัวกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมกดปุ่มโอนเงินจัดสรรให้กับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั่วประเทศจังหวัดละ 20 ล้านบาท ซึ่งในนโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้นั้นจะมอบให้จังหวัดละ 100 ล้านบาท จะมีการทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร ที่เมืองทองธานี ว่า จะมีการทยอยโอนให้เพิ่มเติมซึ่งรัฐบาลจะคอยดูงบประมาณที่แต่ละจังหวัดขอเข้ามาไม่มีปัญหา ทั้งนี้การจ่ายเงินจะใช้วิธีการเฉลี่ยซึ่งในแต่ละจังหวัดจะไม่ได้ 100 ล้านบาทเท่ากัน อาจจะมีทั้งร้อยละ 80 และร้อยละ 20 โดยจะขึ้นอยู่กับขนาดของจังหวัดว่าถ้าเป็นจังหวัดใหญ่จะให้สูงสุดเท่าไหร่

                         เมื่อถามว่า จะใช้เวลานานหรือไม่กว่าจะจ่ายครบ 100 ล้านบาท นายกฯ กล่าวว่า ไม่นาน เพราะเริ่มต้นเราต้องการให้มีกลไกของคณะกรรมการในการดำเนินการให้เรียบร้อย ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมแล้ว เงินก้อนแรกก็พร้อมส่ง ไม่มีปัญหา เพราะงบประมาณก็มี

                         ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีใน จ.กรุงเทพฯมีประชากรมากจะมีการจัดสรรงบประมาณให้มากกว่า 100 ล้านหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้เรายังให้เท่านี้ก่อน เพราะเราเองต้องดูวัตถุประสงค์และอนาคตต้องดูในลักษณะต่างๆ เพราะนอกจากจะเป็นคำขอที่เกิดจากชุมชนแล้ว ก็ยังมีองค์กรต่างๆที่เป็นส่วนกลาง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เดียวกันในการเพิ่มศักยภาพของสตรีที่เราจะคอยช่วยเหลือ

                         เมื่อถามว่า กังวลว่าฝ่ายค้านจะเอากรณีการจ่ายเงินไม่ให้ครบ 100 ล้าน ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ไปอภิปรายโจมตีในสภาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรียนว่าเป็นความจริงใจ หากเราให้เงินเท่ากันก็น่าเห็นใจจังหวัดที่ใหญ่ เพราะบางทีจังหวัดใหญ่ก็ต้องได้รับงบประมาณเยอะ แต่งบประมาณเรามีจำกัดก็ไม่สามารถให้ทั้งหมดได้ จึงต้องมีการบริหารจัดการแบ่งงบประมาณ ซึ่งในตอนหาเสียงเราก็พูดคำว่าเฉลี่ย 100 ล้านบาทอยู่แล้ว

 

ซีอีโอหญิงปลุกพลังสตรีสร้างชาติ

                         น.ส.วันดี กุลชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสวนาในหัวข้อ "พัฒนาศักยภาพสตรี" ตอนหนึ่งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้นำเดินสตรีเป็นก้าวแรก ซึ่งต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกเราที่เป็นสตรีที่จะต้องก้าวร่วมไปสู่ความสำเร็จ ของงาน “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างรายได้ เพิ่มโอกาส เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชีวิตให้ของตัวเราเอง ครอบครัวของเรา ชุมชนของเรา และการฝึกอาชีพให้กับชุมชน ครอบครัว และผู้ด้อยโอกาส  เพราะเรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า สิ่งที่สำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การฝึกภาษา สิ่งที่เราฝึกอาชีพส่งผ่านเด็ก ผู้ด้อยโอกาส สตรี เราต้องเป็นผู้นำ เนื่องจาก วันนี้หันไปทางไหนก็จะเริ่มเห็นผู้หญิงเริ่มเป็นผู้นำ

                         น.ส.วันดี กล่าวถึงเรื่องของธุรกิจว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ถนนแห่งความสำเร็จจะเกิดได้ด้วยคือ เราต้องลงมือทำ ต้องไม่มีคำว่ายาก ต้องไม่มีคำว่าสาย ต้องไม่มีคำว่าช้า ไม่มีสายเกินไป ต้องมีความมุ่งมานะ อดทน ซึ่งจะทำให้เราเดินไปสู่เส้นทางเดียวเลย คือ “ถนนเส้นแห่งความสำเร็จ” และธุรกิจที่บริษัทตนเองทำคือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าไม่ เคยมีใครทำในภูมิภาคนี้ ต้องบอกว่ายากมาก และยากที่สุดคือการหาแหล่งเงินทุน

                         "อย่างไรก็ตามการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าเป็นพลังงานสะอาด เป็นพลังงานอนาคตที่จะส่งผ่านไปยังลูกหลาน ซึ่งพลังงานที่ใช้อยู่ทุกวันนี้มี 3 พลังงาน คือพลังงานธรรมชาติ แก๊ส ถ่านหิน และน้ำมัน นับว่าแพงและมีจำกัด อย่างแก๊สในอ่าวไทยใช้ 10-15 ปีก็หมดแล้ว  ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้า 70 % มาจากแก๊สธรรมชาติจากอ่าวไทย และซื้อไฟฟ้าจากพม่า หากพม่าเปลี่ยนใจไม่ขายพลังงานให้ เราก็จะไม่มีพลังงานใช้ ส่วนที่สองพลังงานทดแทนที่เหลือจากวัสดุการเกษตรที่ยังมีต้นทุนยากต่อการ บริหารจัดการ และพลังงานที่สาม มีชั่วกาลคือพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์ น้ำ และลม"  น.ส.วันดี กล่าวและว่า

                         ถ้าสามารถนำพลังงานเหล่านี้มาได้ นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะไม่มีต้นทุนเรื่องเชื้อเพลิง เช่นว่านี้จึงเป็นแรงบันดาลใจของตนอย่างมากในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทำ เชิงพาณิชย์ และยิ่งที่มีคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้  ยิ่งเป็นแรง บันดาลใจที่อยากให้ทำ ในที่สุด 3 ปีที่ผ่านพ้นมา นอกจากเราทำได้แล้ว ยังได้สร้างให้เกิดธุรกิจในชุมชนและภูมิภาค เกิดแรงงาน 2 แสนแรงงานในชนบท ยังได้สร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เริ่มแรกธุรกิจติดลบ ครั้งแรกชวนใครก็ไม่มา แต่วันนี้จากธุรกิจติดลบ ไปสู่การสร้างงานสร้างการลงทุนต่อเนื่องกว่า 3 แสนล้านบาท ถือเป็นความสำเร็จในฐานะที่เป็นผู้หญิง เพราะมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้