'บีม ศรัณยู'เซง!ถูกตุ๋นสั่งซื้ออะไหล่กว่า3แสน | คมชัดลึก

                เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 55 นายศรัญยู ประชากิจ หรือบีม อายุ 29 ปี ดารานักแสดงช่อง 3 และดีเจคลื่น 95.5 เวอร์จินฮิต พร้อมด้วย นายยอดชาย สงวนศฤงคาร อายุ 47 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท ย.รุ่งโรจน์กลการ 2001 จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บุญเลิศ อาคมวัฒนะ พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ว่าได้ถูกบริษัทก.สุวรรณพานิชย์จำกัดฉ้อโกงโดยบริษัทดังกล่าวได้สั่งซื้อสินค้าจากบริษัทของตนซึ่งจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และได้สั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ จำนวนเงิน 352,300 บาท แต่พอตนนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารกลับได้รับการปฎิเสธและธนาคารระบุว่าเช็คดังกล่าวมีมูคค่าแค่ 1 พันบาทเท่านั้น ตนจึงรีบเดินทางมาแจ้งความทันที

               นายศรัณยู กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวได้ร่วมกันเปิดบริษัทย.รุ่งโรจน์กลการ 2001 จำกัด ซึ่งเปิดขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ทุกชนิดซึ่งจะมีทั้งลูกค้าส่งและรายย่อยด้วย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทของตนได้รับโทรศัพท์สั่งซื้อของจากนายมงคล (ไม่ทราบนามสกุล)ว่า ต้องการสั่งซื้ออะไหล่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จำพวกหัวเทียน จานจ่ายและอื่นอีกหลายรายการร่วมเป็น จำนวนเงิน 352,300 บาทโดยจะจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คและนัดส่งของในวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งนายมงคลได้แฟกซ์สถานที่ส่งของมาให้โดยให้ส่งสินค้าทั้งหมดไปที่บริษัทก.สุวรรณพานิชย์จำกัด เลขที่ 219/14 ถ.บางไผ่-หนองเภางาย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
              "ตนจึงให้พนักงานส่งของของบริษัทไปส่งตามที่นายมงคลแฟกซ์เอกสารมาให้และรับแคชเชียร์เช็คกลับมา ก่อนจะนำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงศรี สาขาวรจักรและได้รับคำตอบจากทางธนาคารว่าเช็คดังกล่าวไม่สามารถแลกเงินได้เนื่องจากมีการปลอมแปลงจำนวนเงิน ซึ่งเช็คดังกล่าวมีมูลค่าแค่ 1 พันบาทเท่านั้นเอง ตนจึงรีบให้พนักงานกลับไปตรวจสอบที่บริษัทดังกล่าวแต่ปรากฎว่าบริษัทดังกล่าวได้ปิดตัวและย้ายหนีออกไปแล้ว" นายศรัญยู กล่าว

             นายศรัณยู กล่าวต่อว่า ที่ตนเดินทางมาแจ้งความในครั้งนี้นั้นไม่ได้เสียดายเงินแต่อย่างใด แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นๆที่มั่นใจว่าการขายสินค้าและรับเงินเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารซึ่งในทางธุกิจถือว่าปลอดภัยแล้วนั้น ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วซึ่งปัจจุบันนี้สามารถปลอมแปลงกันได้แล้วเหมือนของจริงมากๆเหมือนกับที่บริษัทของตนโดน