
จับหนึ่งในทีมฆ่า..'ใบสั่ง'จากคุก
จับหนึ่งในทีมฆ่า..'ใบสั่ง'จากคุก : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ
หลังจากชุดสืบสวนของ กก.สส.บก.น.7 จับกุม นายเอกชัย จองเดิน อายุ 29 ปี และ น.ส.วิภาวดี ผลสวัสดิ์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า 186,000 เม็ด ยาไอซ์ 4 กิโลกรัม บริเวณเช่าบ้านเลขที่ 5 ซอยวัดราชาธิวาส ถนนสามเสน 9 แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนให้การซัดทอดว่า อยู่ในเครือข่ายของ นายอดิศร ศรีสุข อายุ 29 ปี ?!!
ต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน นายอดิศรถูกลอบยิงพร้อมเพื่อนอีก 2 คนเกือบเสียชีวิต ภายในหมู่บ้านตะวันนา แยก 5-1 ซอยวิภาวดีรังสิต 32 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้น นายทัศนนท์ พงษ์อาสา อายุ 28 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง 8 นัด เสียชีวิตภายในท่ารถตู้โดยสารประจำทางเพชรบุรี-กรุงเทพฯ ถนนมาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
ข้อมูลการสืบสวนพบว่า ทั้ง 3 คดีมีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ แล้วน่าจะเกิดการหักหลังเกี่ยวกับการ "ยักยอก" ยาเสพติด ทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังเร่งหาความจริงแล้วเกิดการฆ่าตัดตอนเพื่อปิดปากไม่ให้สาวถึงตัวผู้บงการ
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ร่วมกันสั่งการให้ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภ.7 และ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. จัดชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบก.สส.ภ.7, พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล, พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รองผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวน ออกหาข้อมูลจับคนร้ายที่ก่อเหตุ
ชุดสืบสวนนำข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดวิเคราะห์หาความเชื่อมโยง รวมถึงคำให้การของนายอดิศร และเพื่อนอีก 2 คนที่รอดชีวิตมาตรวจสอบ พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายอดิศรและเพื่อน โดยมีนายทัศนนท์น่าจะเป็นผู้ชี้เป้าแจ้งความเคลื่อนไหวของนายอดิศร หลังจากคนร้ายลงมือสังหารนายอดิศร แต่ทำงานพลาด เพราะเหยื่อไม่เสียชีวิต ทำให้นายทัศนนท์ถูกลวงมาฆ่าปิดปาก
"หลังจากได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากนายอดิศร ส่วนเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้นชุดสืบสวนเชิญพยาน ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดนายทัศนนท์ให้ข้อมูลจนทราบแน่ชัดว่าเหตุที่เกิดต่อเนื่องเกิดจากการหักหลังในเรื่องยาเสพติด ผู้อยู่เบื้องหลังกล่าวหาว่านายทัศนนท์มีส่วนในการหักหลังชี้เป้าให้ชุดสืบสวนจับเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งนายทัศนนท์บอกว่าไม่ได้ทำ แต่น่าจะเป็นนายอดิศร ทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังบังคับให้นายทัศนนท์ชี้เป้าให้ทีมสังหาร แต่เมื่อทีมสังหารทำงานผิดพลาด นายทัศนนท์จึงถูกฆ่าปิดปาก" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน ระบุ
ชุดสืบสวนพยายามเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลจากสายลับจนกระทั่งทราบว่า ทีมสังหารนายทัศนนท์ และคดีพยายามฆ่านายอดิศร คือ นายศักรภพน์ หรือศักดิ์ คล้ายคลึง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 ต.หนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทำหน้าที่มือปืน นายนภดล หรือต้อ หินชีระนนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/3 หมู่ 9 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี คนรับงานและจัดหารถจักรยานยนต์ และ นายศราวุธ หรือพีส เสียงใหญ่ อายุ 27 ปี ชาว อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
ทันทีที่ศาลอนุมัติหมายจับชุดสืบสวนสามารถติดตามกระทั่งตามจับกุมนายศราวุธ ได้ที่บ้านพักใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ การสอบสวน นายศราวุธ ให้การรับสารภาพในคดีที่เกิดขึ้นทั้งสองคดี
"ผมพานายศักรภพน์ไปยิงนายทัศนนท์ ที่ท่ารถตู้ประจำทางสายเพชรบุรี-กรุงเทพฯ จริง เนื่องจากต้องการฆ่าปิดปาก เพราะนายทัศนนท์ร่วมก่อเหตุยิงนายอดิศร ตามคำสั่งของผู้จ้างวาน ก่อนเกิดเหตุนั่งรถยนต์มาจอดแถวๆ จ.นนทบุรี จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่เกิดเหตุ โดยนายทัศนนท์เป็นผู้ชี้เป้า หลังจากนั้นหลบหนีไปนอนแถวๆ พื้นที่ราษฎร์บูรณะ จากนั้นทราบว่านายอดิศรไม่เสียชีวิตและนายทัศนนท์ถูกเพ่งเล็งอาจเปิดปากทำให้ถูกจับทั้งหมด จึงลวงมาฆ่าปิดปาก" นายศราวุธ รับสารภาพ
นายศราวุธ ยังให้การอีกว่า นายนภดลเป็นผู้รับงานฆ่าทั้งสองคดี ซึ่งในคดีของนายอดิศรราคา 4 แสนบาท ส่วนคดีของนายทัศนนท์ราคา 3 แสนบาท ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนีจนกระทั่งถูกจับในที่สุด
......................
(หมายเหตุ :จับหนึ่งในทีมฆ่า..'ใบสั่ง'จากคุก : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ)