เปิด10บ่อนกลางกรุง'พล.ต.อ.'เอี่ยว
เปิด10บ่อนกลางกรุง "พล.ต.อ.-นักการเมือง"อยู่เบื้องหลังบ่อนลอยฟ้าย่านฝั่งธน
3ก.ค.2555 หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย พร้อมพวกประมาณ 30คน พาสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบบ่อนการพนันภายในซอยเพชรบุรี 5 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.นั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนักพนันอาชีพส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ข้อมูลบ่อนที่ นายชูวิทย์ออกมาแฉก่อนหน้านี้และบ่อนพนันที่เข้าไปตรวจสอบในซอยเพชรบุรี5ต่อเนื่อง7นั้นมีอยู่จริงและลับลอบเปิดเล่นมานานแล้ว และพบว่า บ่อนพนันในพื้นที่ กทม.นั้นมีมากกว่า 100 แห่งเป็นบ่อนขนาดใหญ่แบบถาวร 10 แห่ง บ่อนขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 60 แห่งและเป็นบ่อนวิ่งกว่า 100 แห่ง
"สำหรับ10บ่อน ขนาดใหญ่ที่เปิดเย้ยกฎหมายมีนายตำรวจระดับ พล.ต.อ.และนักการเมืองอยู่เบื้องหลังคือ บ่อนลอยฟ้าปิ่นเกล้าซอยทางเข้าโรงพยาบาล บ่อนเตาปูน บ่อนนกเขาภายในชุมนุมตลาดกม.11 บ่อนกิ่งเพชรระหว่างซอยเพชรบุรี5-7 บ่อนออตใต้ล่าสุดย้ายมาเปิดบริเวณหลังตลาด อตก.มีอาหารและเครื่องดื่มบริการอย่างดี บ่อนบ้านฟ้าย่านรามอินทราเปิดบริการแบบคาสิโนโดยพนักงานใส่สูทผูกไทน์มี เครื่องดื่มและอาหารเสริฟตลอดเวลาเป็นอาคารขนาดใหญ่คล้ายโรงแรมรับเฉพาะกลุ่มวีไอพีและนัก เล่นกระเป๋าหนัก บ่อนเจ๊เพี๊ยะ บ่อนเจ๊ไฝ บ่อนเครือข่ายส.สมหมาย บ่อนเครือข่ายเฮียตือมังกรทอง" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
นอกจากนี้ยังมีบ่อนเล็กบ่อนน้อยและบ่อนวิ่งอีกหลายแห่งมีทั้งป๊อกแปดเก้า กำถั่วไฮโล อยู่ตามตรอกซอกซอยตึกแถวบ้านเช่าต่างๆรวมถึงชั้นบนร้านนวดแผนโบราณและชั้นบน โต๊ะสนุกเกอร์ อย่างไรก็ตามได้รับการยืนยันจากนักเล่นพนันนว่า บ่อนขนาดใหญ่โดยเฉพาะบ่อนลอยฟ้า ย่านตลิ่งชันนั้นมีการลักลอบเปิดเล่นอยู่อย่างต่อเนื่องบนชั้น 9 ของตัวอาคารเปิดรับนักเล่นเฉพาะวีไอพีโดยมีพนักงานตรวจเงินสดและทรัพย์สิน ที่ติดตัวมาหากมียอดต่อคนไม่ถึง 5 หมื่นบาทตามวงเงินที่บ่อนกำหนดไว้จะไม่ อนุญาตให้เข้าไปอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันนักเล่นแอบแฝงที่เป็นสายให้ ตำรวจโดยนักเล่นพน่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าอยากรู้ว่าบ่อนพนันมีที่ ไหนบ้างไม่ต้องถามคนเล่นหลอกถามตำรวจท้องที่ดีกว่าพวกนี้เขาจะรู้ดี
ด้านแหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ยอมรับว่า บ่อนกลางกรุงนั้นมีจำนวนมาก และเป็นบ่อนที่เปิดรับลูกค้ากระเป๋าหนัก มีทั้งที่เจ้าของบ่อนเปิดบ่อนเองโดยส่งส่วยให้กับตำรวจ ซึ่งส่วยนั้นจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายวันก็ได้ตามแต่ข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้ ที่ดูแลพื้นที่ หากเป็นบ่อนใหญ่มีนักพนันเข้ามาเล่นจำนวนมากก็จ่ายหนัก ซึ่งการเก็บส่วยขึ้นอยู่กับขนาดของบ่อนและจำนวนผู้เข้ามาเล่น มีทั้งบ่อนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง บ่อนขนาดเล็ก หรือบางบ่อนตั้งวงกันในตลาดเลยทีเดียว มีอาหาร เครื่องดื่ม เด็กเสิร์ฟคอยให้บริการอย่างดี ถ้าเป็นบ่อนในตลาดแถวๆดอนเมือง บางเขน สะพานใหม่ นักพนันส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านทั่วไปแม่บ้านหรือข้าราชการเกษียณ อย่างนี้เรียกว่าบ่อนขนาดกลางวงเงินพนักอยู่ที่ระดับหลักแสน แต่ถ้าอยู่ในย่านเมืองก็มี เขตพญาไท ราชเทวี บ่อนจะเป็นบ่อนใหญ่เปิดตึกเล่นกันเลย ที่ดังๆคือ บ่อนเจ๊เพลี้ย บ่อนกิ่งเพชร บ่อนเตาปูน
สำหรับบ่อนซึ่งเป็นที่รู้จักกันของนักพนันในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ที่ถูกตำรวจกวนจนต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆปิดๆเปิดๆเป็นระยะเพื่อติดตามความ เคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่คือ”บ่อนเจ้ไฝ”และบ่อนใหญ่ของ “เฮียอ๋า”แขวง ช่องนนทรีที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบไม่ขยับแต่นครบาลเข้าจับครั้งใดมักจะ ไม่ค่อยได้นักพนันและของกลาง เพราะมักมีพรายเข้าไปกระซิบ ช่วงไหนตำรวจมีความเข้มงวดบุกเข้าทลายอย่างต่อเนื่อง บ่อนจะปิดตัวไปช่วงสั้นๆ
จากผลการเรื่อง “เศรษฐกิจการพนันกับปัญหาสาธารณะ” โดย ศ.ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานหลักสูตรปริญญาเอก สาขาการพัฒนาธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ระบุว่า เฉพาะบ่อนการพนันในพื้นที่กรุงเทพฯมีเงินสะพัดปีละ 1.8 แสนล้านถึง 2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 3.8หมื่นล้านถึง 4หมื่นล้านบาท และในจำนวนนี้จะเป็นการจ่ายส่วยให้กับตำรวจ เพื่อแลกกับการเปิดบ่อนประมาณ 5-20%ของรายได้ หรือคิดเป็นเงิน 2,000- 8,000 ล้านบาท
จากข้อมูลพบว่าประเทศมีบ่อนเปิดให้บริการกว่า 7 แสนถึง 1 ล้านแห่ง โดยมีบ่อนขนาดใหญ่ 75 แห่ง บ่อนขนาดกลางและบ่อนวิ่งอีกกว่า 780 แห่ง ที่เหลือเป็นบ่อนย่อยตามงานศพ ส่งผลให้มีเงินสะพัดจากบ่อนทั่วประเทศปีละ 6.4 แสนล้านบาท ถึง 8.2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรของเจ้ามือ 9 หมื่นล้านบาท
"อย่างไรก็ตามหากตำรวจยังเพิกเฉยไม่ทำตามกฎหมายอย่างจริงจังมีการเรียกรับส่วยและไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ วัฎจักรของบ่อนการพนันจะเป็นไปในลักษณะนี้ต่อไป โดยทุกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปราบปรามบ่อนก็จะปิดตัวลงชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ศ.ดร. สังศิตระบุ