ตอร์เรสเฉือนโกเมซซิวรองเท้าทองคำ | คมชัดลึก

          หลังจากที่ "กระทิงดุ" สเปน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการฟุตบอลโลก ด้วยการเป็นชาติแรกในยุโรป ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลรายการสำคัญของโลกได้ 3 รายการติดต่อกัน เริ่มตั้งแต่ศึกลูกหนังยูโร 2008 ก่อนคว้าแชมป์โลก 2010 และล่าสุดคว้าแชมป์ยูโร 2012 ด้วยการเอาชนะ "อัซซูรี" อิตาลี ขาดลอย 4-0

 

          ล่าสุดยูฟ่าได้ประกาศผู้ที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ที่เลือกโดยฝ่ายเทคนิคของยูฟ่าออกมาแล้ว ซึ่งไม่มีการพลิกโผ เป็นของ อันเดรส อิเนสตา มิดฟิลด์วัย 28 ปี ของ "กระทิงดุ" สเปน ตามคาด ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศทีมยอดเยี่ยมประจำศึกยูโรครั้งนี้รวม 23 คน ปรากฏว่า มีนักเตะของสเปนติดทีมถึง 10 คน ขณะที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ของอังกฤษ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ของสวีเดน เป็นนักเตะเพียง 2 คน ที่ไม่ได้มาจากทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

          สำหรับทีมยอดเยี่ยมยูโร 2012 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู จิอันลุยจิ บุฟฟอน (อิตาลี), อิเคร์ กาซิยาส (เยอรมนี), มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมนี), กองหลัง เคราร์ด ปิเก (สเปน), ฟาบิโอ โคเอนเทรา (โปรตุเกส), ฟิลิปป์ ลาห์ม (เยอรมนี), เปเป้ (โปรตุเกส), เซร์คิโอ รามอส (สเปน), ฆอร์ดี อัลบา (สเปน), กองกลาง ดานิเอเล เด รอสซี (อิตาลี), สตีเวน เจอร์ราร์ด (อังกฤษ), ซาบี เอร์นานเดซ (สเปน), อันเดรส อิเนสตา (สเปน), ซามี เคดิรา (เยอรมนี), เซร์คิโอ บุสเกตส์ (สเปน), เมซุท โอซิล (เยอรมนี), อันเดรีย ปิร์โล (อิตาลี), ซาบี อลอนโซ (สเปน), กองหน้า มาริโอ บาโลเตลลี (อิตาลี), เชส ฟาเบรกาส (สเปน), คริสเตียโน โรนัลโด้ (โปรตุเกส), ดาวิด ซิลบา (สเปน)

          ในส่วนของรางวัลดาวยิงสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ ซึ่งมีผู้ทำได้ 3 ลูก เท่ากัน 6 คน คือ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ของสเปน, มาริโอ โกเมซ ของเยอรมนี, มาริโอ บาโลเตลลี ของอิตาลี, อลัน ซาโกเยฟ ของรัสเซีย, มาริโอ มานด์ซูคิช ของโครเอเชีย และคริสเตียโน โรนัลโด้ ของโปรตุเกส มีการตัดสินออกมาแล้วว่า ผู้ที่คว้ารางวัลนี้ไปครองได้แก่ "เอลนินโญ" เฟอร์นันโด ตอร์เรส ที่ลงมาเป็นตัวสำรองให้ทีมกระทิงดุในเกมนัดชิงชนะเลิศ และทำประตูที่ 3 ของตัวเองในทัวร์นาเมนต์ได้ในนาที 84 ทว่าสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นที่ทำให้ตอร์เรสได้รับรางวัลนี้ก็คือ การเปิดบอลให้ ฮวน มาตา เพื่อนร่วมทีมที่ลงมาเป็นตัวสำรองเช่นกัน ทำประตูปิดท้ายให้สเปนเอาชนะไปได้ขาดลอยในอีกไม่กี่นาทีถัดมา

          สำหรับกติกาในการตัดสินรางวัลดาวซัลโวสูงสุด กรณีที่มีผู้ทำได้เท่ากันมากกว่า 1 คน จะนับจำนวนที่ส่งให้เพื่อนทำประตู ซึ่งในกรณีดังกล่าว ตอร์เรส ที่ในศึกยูโรครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นแค่ตัวสำรอง ก่อนหน้านี้ยิงได้ 2 ลูก ในเกมรอบแรกนัดที่ 2 ที่สเปนเอาชนะไอร์แลนด์ 4-0 ส่งให้เพื่อนยิงได้ 1 ลูก ซึ่งเป็นสถิติเดียวกับ มาริโอ โกเมซ ของหัวหอกทีมอินทรีเหล็ก ดังนั้นจึงต้องวัดกันในกฎข้อต่อไป นั่นคือ ดูว่าใครใช้เวลาในการลงสนามน้อยกว่ากัน ซึ่งในกรณี ตอร์เรส ลงสนามไปทั้งสิ้นเพียง 189 นาที จากการลงเล่นทั้งหมด 6 นัดของทีมกระทิงดุ น้อยกว่าโกเมซ ที่ลงสนามไปทั้งสิ้น 282 นาที จากการลงสนาม 5 นัดของอินทรีเหล็ก ทำให้ได้รับรางวัลนี้ไปครองในที่สุด

          นอกจากนี้ ตอร์เรส ที่โชว์ผลงานได้ไม่ดีนักในการลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกให้ต้นสังกัด "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่ทำได้แค่ 6 ลูก จากการลงสนาม 32 นัด แต่ก็มีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ยังทำสถิติกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรได้ถึง 2 สมัย หลังเมื่อ 4 ปีก่อน เป็นผู้ซัดประตูให้ใให้สเปนเอาชนะเยอรมนีมาแล้ว

 

          สำหรับศึกยูโรครั้งนี้ มีการทำประตูทั้งสิ้น 65 ลูก โดยนอกจากผู้ทำได้ 3 ประตู 6 คนและ ยังมีนักเตะที่ทำได้ 2 ประตู 5 คน และทำได้ประตูเดียวอีก 37 คน

 

 

----------

(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : AP , AFP , EPA)

----------