
'พบ2พี่น้องยอดกตัญญู'ช่วยพ่อขายของทุกเช้า
พี่สาววัย 14 ออกจากโรงเรียนแค่ ป.6 น้องชาย ป.6 ตื่นตี 5 มาช่วยพ่อขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ทุกเช้าที่ตลาดโคกมะตูมเมืองพิษณุโลก นักเรียน ร.ร.บ้านห้วยโป่งปลื้มมูลนิธิเพื่อคุณภาพชีวิตสานฝันสร้างห้องสมุด-โรงครัว
26มิ.ย.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับรายงานว่าบริเวณหน้าตลาดสดเทศบาล 4 ตลาดโคกมะตูม อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีสองพี่น้องจอมขยัน ยอดกตัญญู ได้ออกมาช่วยผู้เป็นพ่อขายปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ทุกเช้า ตั้งแต่ตี 5 ทุกวัน กระทั่งถึงเวลาใกล้โรงเรียนเข้า ผู้เป็นน้องชายก็จะขี่จักรยานไปโรงเรียน จึงเดินทางไปที่บริเวณหน้าห้างทองแม่ยินดีตลาดโคกมะตูม พบครอบครัวนี้กำลังขายปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ให้ลูกค้า โดยผู้เป็นพ่อทำหน้าที่นวดแป้ง ตัดชิ้นปาท่องโก๋ ลูกสาววัย 14 ทำหน้าที่ทอดปาท๋องโก๋ ส่วนลูกชายวัย 12 ทำหน้าที่ตักน้ำเต้าหู้และขายปาท่องโก๋ให้กับลูกค้า
หัวหน้าครอบครัวขายปาท๋องโก๋ชื่อนายวิทยา เพชรพงษ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 278/1 ถ.บรมไตรนารถ 2 ( ชุมชนอภิชาตบุตร ) ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ลูกสาวชื่อดญ.กุลสตรี เพชรพงษ์ หรือ น้องแป้ง อายุ 14 ปี จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ลูกชายชื่อดช.อาทิตย์ เพชรพงษ์ หรือ น้องปาล์ม อายุ 12 ปี เรียนชั้นป.6 โรงเรียนสิ่นหมิน
สอบถามนายวิทยาทราบว่า ได้ประกอบอาชีพทอดปาท๋องโก๋และน้ำเต้าหู้ที่ตลาดโคกมะตูมมาตั้งแต่ปี 2536 แล้ว จากนั้นตนก็มีครอบครัวและมีลูกทั้งสองคน ช่วงต้นของครอบครัวไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งสองปีก่อน ภรรยาตนแยกทางไปจากครอบครัว ช่วงนั้นน้องแป้งลูกสาวคนโตกำลังจะเรียนจบป.6 ฝ่ายแม่ก็นำเงินเก็บจากครอบครัวทั้งหมดไปด้วย ประกอบกับไม่มีใครช่วยตนทำปาท่องโก๋เลี้ยงครอบครัว ทำให้น้องแป้งต้องหยุดการเรียนแค่ชั้นป.6 และมาช่วยตนขายของอย่างนี้ได้ 2 ปีแล้ว
จากนั้นทั้งน้องแป้งและน้องปาล์ม ลูกชายคนเล็กก็จะออกมาช่วยตนขายของที่ตลาดโคกมะตูมทุกวันโดยตนจะตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 มาเตรียมของ และช่วงตี 5 ก็จะเริ่มปลุกน้องแป้งให้มาช่วยกัน ช่วงเวลาประมาณ 05.45 น.ก็จะปลุกน้องปาล์ม ให้เตรียมตัวแต่งชุดนักเรียน และออกมาขายของพร้อมกันสามคนพ่อลูก น้องแป้งจะทำหน้าที่ทอดปาท่องโก๋ น้องปาล์มจะทำหน้าที่ขาย จะขายตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-09.00 น. เวลาประมาณ 07.30 น.น้องปาล์มก็จะขี่รถจักรยานไปโรงเรียน ในทุกวันตนยังขาย ปาท๋องโก่ตัวละ 1 บาท น้ำเต้าหู้ถุงละ 4 บาท สังขยา ถุงละ 5 บาท รายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้ ระยะหลังของขายไม่ค่อยดี เนื่องจากมีตลาดอื่น ๆ เกิดขึ้นมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าสองพี่น้องจะต้องทำงานหนักทุกวัน ผู้พี่ขาดโอกาสในการศึกษาต่อ ผู้เป็นน้องชายก็ต้องทำงานไปด้วยและเข้าเรียนไปด้วย แต่ทั้งคู่ก็มีอัธยาศัยเป็นมิตรกับลูกค้าที่มาอุดหนุนอย่างดี บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโคกมะตูม ต่างให้ความเอ็นดูกับการตั้งใจทำมาหากินของสองพี่น้องคู่นี้ และให้การอุดหนุนซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก่ ด้วยดี
น้องแป้งเล่าว่า ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปเรียนต่อชั้นม.1 แต่ช่วงนี้ขอช่วยพ่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวก่อน ส่วนน้องปาล์ม บอกว่า ดีใจมากที่ได้มาช่วยพ่อทุกวัน ไม่ได้อายใคร เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนบางคนก็มาเห็นตนช่วยพ่อขายของก็อุดหนุนกันดี ตนและพี่สาวก็มาทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไร
มูลนิธิเพื่อคุณภาพชีวิตหนุนงบสร้างห้องสมุด-โรงครัวร.ร.บ้านห้วยโป่ง
นายสุพีร์ สังหรานนท์ บรรณาธิการข่าวเครือเนชั่นภาคเหนือ เป็นตัวแทนมูลนิธิเพื่อคุณภาพชีวิตเดินทางเข้ามอบเงินและอุปกรณ์การศึกษาให้กับโรงเรียนบ้านห้วยโป่ง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน เป็นเงินสนับสนุนสร้างห้องสมุด 50,000 บาท ปรับปรุงโรงครัว 35,000 บาทและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และ ปรินเตอร์จำนวน 7 ชุด โดยมีนายธนาชัย บุตรศาสตร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นตัวแทนรับมอบร่วมกับ บุคลากรครูและนักเรียนอีก 39 คน
นายธนาชัย กล่าวว่า โรงเรียนบ้านห้วยโป่งมีนักเรียนทั้งหมด 39 คน มีครู 3 คน ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนต้องประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณในการจัดสร้างห้องสมุด ปรับปรุงโรงอาหารที่ชำรุดมานาน รวมทั้งขาดแคลนอุปกรณ์การศึกษา ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มีผลต่อการพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาและคุณภาพชีวิตกับเด็กในโรงเรียนที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ทางโรงเรียนจึงทำโครงการขอสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์การเรียนการสอนไปยังมูลนิธิเพื่อคุณภาพชีวิตและต้องขอบคุณมูลนิธิที่ให้โอกาส โดย ในส่วนของคอมพิวเตอร์ที่ได้รับจะช่วยให้เด็กยากจนได้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลความรู้ผ่านระบบสารสนเทศที่ทันสมัยรวมทั้งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนตเพื่อให้มีความรอบรู้ทางด้านการศึกษาและโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ไปอย่างรวดเร็ว
ด้านนายประเสริฐ ศรีสืบ ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อคุณภาพชีวิต กล่าวว่า มูลนิธิเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีนายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธิมีเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ยากไร้และขาดแคลน ในด้านต่าง ๆ ทั้งโรงเรียน นักเรียน และชุมชน นอกจากนี้ทางมูลนิธิยังเห็นคุณค่าของน้ำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ สุดในการดำรงชีวิตทั้งการอุปโภคบริโภคจึงเน้นไปที่การช่วยเหลือและสนับสนุนในเรื่องของการจัดหาน้ำ สะอาดและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน