
ฝันค้าง!สิงโตพ่ายดวลโทษอัซซูรี2-4
อังกฤษ ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2012 หลังพ่ายดวลจุดโทษ อิตาลี 2-4 เมื่อเสมอในเวลาแข่งขัน 120 นาที 0-0 ขณะที่แฟนผู้ดีเดินซึมออกจากสนามกรุงเคียฟ ด้านแฟนอิตาลีฉลองสุดเหวี่ยงกลางกรุงโรม
25 มิ.ย. 55 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 14 หรือ "ยูโร 2012" กลางดึกวันอาทิตย์ที่ 24 มิ.ย. รอบก่อนรองชนะเลิศ คู่สุดท้าย ระหว่าง "สิงโตคำราม" อังกฤษ กับ "อัซซูรี" อิตาลี
เริ่มเกมครึ่งแรกแค่ 3 นาที เป็นอิตาลีได้เสียวก่อน จากลูกยิงระยะไกลกว่า 30 หลาของ เด รอสซี่ ที่พุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย
เกมทั้งสองทีมเปิดแลกกันอย่างสนุก ผลัดกันบุกลุ้นประตู แต่ไร้สกอร์ในครึ่งแรกเสมอ 0-0
เกมครึ่งหลังยังเปิดแลกกันสวนกันไปมา แต่ทั้งสองทีมยังเหนียวแน่นไม่ยอมเสียประตูง่าย ๆ จบ 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป เกมทำท่าจะต้องลงเอยด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด และเป็นตามนั้น 120 นาที ทำประตูกันไม่ได้ เสมอ 0-0
อิตาลี เสี่ยงทายได้เป็นฝ่ายยิงจุดโทษก่อน และเป็น บาโลเตลลี ที่ซัดไม่เหลือ อิตาลี ขึ้นนำ 1-0
อังกฤษ ส่งสตีวี่จี กัปตันประเดิมสังหาร ไม่พลาด อังกฤษ ตีเสมอ 1-1
อัซซูรี จัด มอนโตลิโว่ เป็นเบอร์สอง ซัดออกข้างเหลือเชื่อ สกอร์เสมอ 1-1
สิงโต หวังคำราม และสำเร็จ หมูบิน รูนีย์ ซัดตุง ศิงโตคำราม ขึ้นนำ 2-1
ปีร์โล่ ทำหน้าที่ต่อให้ อิตาลี ชิพเหนือชั้น อิตาลี ตีเสมอ 2-2
แอชลี่ย์ ยัง วิ่งเข้าใส่ซัดเต็มข้อ บอลชนคานสนั่น อังกฤษ พลาดทำประตูขึ้นนำ เสมอ 2-2
อัซซูรี ให้ โนเชริโน่ แปบอลเสียบเสาเข้าไป เกมกลับมาเป็นอัซซูรี ขึ้นนำ 3-2
สิงโต ต้องยิงตามตีเสมอ แอชลีย์โคล สังหาร แต่ บุฟฟ่อน ปฏิเสธประตู เซฟติดมือ สิงโตพลาดตีเสมอ ยังตามอัซซูรี 2-3
เดียมานติ ปิดฉากเป็นคนสุดท้าย ให้อิตาลี ยิงเข้าไปเป็นประตู 4-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ พบ เยอรมนี พฤ. 28 มิ.ย.
บรรยากาศกรุงเคียฟสุดเหงาแฟนบอลอังกฤษเดินซึมออกจากสนาม
บรรยากาศบริเวณหน้าสนามกีฬาโอลิมปิค สเตเดียม ในกรุงเคียฟ ของยูเครน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความเงียบเหงา เมื่อแฟนบอลทีมสิงโตคำราม อังกฤษ พากันเดินออกจากสนามอย่างเซื่องซึม หลังจากทีมของพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายการดวลจุดโทษกับทีมชาติอิตาลี ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012
การแข่งขันคู่สุดท้ายของรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่าง อังกฤษ ทีมอันดับ 1 ของกลุ่ม D และอิตาลี ทีมอันดับ 2 กลุ่ม C ทั้งคู่พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน หวังเอาชนะใน
90 นาที แต่หลังจากบดแข้งกันหนักหน่วงและยาวนานจนถึงต่อเวลาพิเศษ โดยไม่มีใครทำประตูได้ ในที่สุด อิตาลีก็เป็นฝ่ายคว้าชัยในการยิงจุดโทษ และรอไปเจอกับทีมอินทรีเหล็กเยอรมนี ในรอบรองชนะเลิศ
แฟนบอลคนหนึ่ง บอกว่า นักเตะสิงโตคำรามโชคไม่ดีเอามาก ๆ ปัญหาเรื่องลูกจุดโทษเกิดขึ้นกับพวกเขามาโดยตลอด มันมีผลทางจิตใจไปแล้ว แต่ก็มีบางคนที่ไม่พอใจผลงานของนักเตะ ขณะที่แฟนบอลของอิตาลี เดินทางไปเชียร์ทีมของพวกเขาถึงสนามแข่งไม่มากนัก พวกเขายอมรับว่า การแข่งขันนัดนี้ไม่ได้สวยงามที่สุด แต่ก็ดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ที่เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ ซึ่งสำหรับอังกฤษนั้น นี่เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่พวกเขาต้องตกรอบการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ใหญ่
แฟนอิตาลี ฉลองชัยสุดเหวี่ยงใจกลางกรุงโรม หลังชนะดวลจุดโทษ
บริเวณใจกลางกรุงโรมของอิตาลีเมื่อคืนวันอาทิตย์ เต็มไปด้วยคลื่นมนุษย์และสีธงชาติคือ แดง ขาวและเขียว จากการที่แฟนบอลพากันออกไปเฉลิมฉลองชัยชนะให้กับทีมอัซซูรี่ ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโร หรือ ยูโร 2012 หลังจากเฉือนเอาชนะทีมสิงโตคำราม ด้วยการยิงจุดโทษไป 4-2
แฟนบอลหลายหมื่นคน ได้ไปรวมตัวอยู่ที่หน้าจอขนาดยักษ์ ในย่านเพียซซ่า ซาน ซิลเวสโทร ซึ่งแม้ขุนพลทีมอัซซูรี่จะเป็นฝ่ายครองเกมตลอดการแข่งขัน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะได้จนกระทั่งหมดเวลาในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งในนัดนี้ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูของอิตาลี กลายเป็นฮีโร่ เพราะสามารถป้องกันประตูจากฝีเท้าของแอชลีย์ โคล ไว้ได้
แฟนบอลอิตาลี พากันไปปักหลักรอชมการแข่งขันที่จตุรัสใจกลางกรุงโรมเป็นเวลาหลายชั่วโมงดื่มเบียร์ และร้องเพลง ท่ามกลางแสงแดดอบอุ่น พวกเขาเฝ้าจับจ้องหน้าจอด้วยความกระวนกระวาย ขณะที่การแข่งขันยืดเยื้อ เมื่อกองหน้าอิตาลีไม่สามารถทำประตูได้ มาริโอ บาโลเตลลี่และสตีเฟ่น เจอร์ราด ต่างก็ยิงลูกโทษให้ทีมของตัวเองเสมอกัน 1-1 แต่ริคคาร์โด มอนโตลิโวกลับยิงออกนอกกรอบประตู และเวย์น รูนีย์ ทำให้อังกฤษขึ้นไป 2-1 และอันเดรีย ปีร์โล่ ทำให้อิตาลีตามตีเสมอเป็น 2-2 แต่แอชลี่ย์ ยัง กลับยิงชนคาน และอันโตนิโอ โนเชริโน่ ทำให้อิตาลี ขึ้นนำ 3-2 และจานลุยจิ บุฟฟ่อน สามารถเซฟลูกยิงของ แอชลี่ย์ โคล ไว้ได้ และอเลสซานโดร เดียมานติ ยิงเข้าประตู ทำให้อิตาลีคว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเจอกับ เยอรมัน ที่สนามเนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงวอร์ซอว์ ของประเทศโปแลนด์ ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน
----------
(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพ : http://www.uefa.com/uefaeuro/)
----------