'ตู่'โดนอีก!ศาลรธน.ร้องถอนประกัน | คมชัดลึก

               เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายจตุพร  พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. และจำเลยคนสำคัญในคดีร่วมกันก่อการร้าย เปิดเผยว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มอบอำนาจให้นายสมฤทธิ์ ไชยวงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อให้มีคำสั่งถอนคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวนายจตุพรในคดีก่อการร้าย  โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายจตุพรขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีกล่าวหาการตีความของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ บริเวณหน้ารัฐสภา ถนนอู่ทอง

               นายวิญญัติ กล่าวว่า สงสัยว่าศาลรัฐธรรมนูญเอาอำนาจอะไรมายื่น เพราะอำนาจหน้าที่ในการถอนประกันเป็นของอัยการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี เช่น พยานในคดี เเต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับอ้างว่า การปราศรัยมีลักษณะพาดพิง และยังยกกรณีของนายยศวริศ ชูกล่อม  หรือเจ๋ง ดอกจิก ที่เปิดเผยเบอร์โทรศัพท์และสถานที่อยู่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและครอบครัวบนเวทีปราศรัยมาประกอบด้วยทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยศาลอาญารับคำร้องไว้และให้ออกหมายเรียกให้นายจตุพรมาสอบถามข้อเท็จจริงในวันที่ 23 ก.ค. เวลา 9.00น.  ทั้งนี้ในวันนั้นนายจตุพรจะเดินทางมาตอบคำถามด้วยตนเอง และตนก็ได้มีการจัดเตรียมพยานไว้บางส่วนแล้วแต่ยังระบุไม่ได้ว่ามีใครบ้าง

               นายวิญญัติ ยังตั้งข้อสังเกตุอีกว่า มีคนขึ้นเวทีปราศรัยหลายคนทั้งนาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายยศวริศ แต่กลับยื่นขอถอนประกันตัวนายจตุพรแค่คนเดียว

               ขณะที่นายจตุพร แถลงข่าวร่าวมกับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  พร้อมเปิดเผยเอกสารการขอถอนประกันว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.10 น. มีตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญไปยื่นเพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวของตนในคดีก่อการร้ายที่ศาลอาญา แต่ที่สงสัยมีอำนาจในการดำเนินการหรือไม่ เพราะตามกระบวนการต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดตามขั้นตอน เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นพยานหรือโจทก์ในคดีนี้

               เวลานี้ศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าตัวเองเป็นใครจึงกระทำการขยายอาณาเขต ซึ่งการที่ตนได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีการรับคำร้องให้ระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น ตามมาตรา 68 นั้น ไม่เกี่ยวกับคดีก่อการร้าย จึงแน่ใจว่ารัฐธรรมนูญได้มอบหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญทำเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 23 ก.ค. นี้ ศาลอาญาจะนัดสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็จะไปตามนัดหมายและไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ถือว่าความอยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว และตนยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเข้าข่ายแจ้งความเท็จ
 
               นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดงนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เมื่อดูเนื้อหาการปราศรัยจะเห็นว่า นายการุณ ไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่คู่แข่งขันนำไปแจ้งความคดีหมิ่นประมาท และอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้วถือให้คดีเป็นที่ยุติ แต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา กกต.กลับหยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง และกกต.อยู่ไม่ครบองค์ประชุม 5 คน เนื่องจากนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ติดภารกิจใน จ.ชลบุรี แต่ก็ยังมีการลงมติ ซึ่งเสียงที่ออกมา นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.เห็นควรเป็นใบแดง แต่นายวิสุทธิ์ โพธิ์แท่น นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เห็นควรเป็นใบขาว แต่นายอภิชาติยืนยันจะให้มีการโหวตอีกครั้งให้ได้และใช้อำนาจประธานกกต.โหวตอีกครั้ง เท่ากับเป็นการโหวตคนเดียว 2 เสียง ทั้งที่ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องโหวต ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมไม่รอให้นายสมชัย กลับมาจากภารกิจในต่างจังหวัดก่อน รอไปก่อนมันจะตายหรืออย่างไร
 
               นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ตนลงสมัครรับเลือกตั้งแทน นายการุณ ว่าตอนนี้หลายคนคงคิดว่าจะเอานายการุณ ไว้เป็นส.ส.ดี หรือให้นายจตุพร เข้าไปดี หากนายการุณ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาให้หลุดจากตำแหน่งจริง ตนก็จะเข้าไปเป็นแทน แต่ตอนนี้เมื่อชั่งน้ำหนักดู ยังอยากให้นายการุณ เป็นส.ส.ต่อไปดีกว่า เรื่องดังกล่าวเคยมีกรณีตัวอย่าง นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ที่ต้องคดีใบแดง โดยมีภาพถ่ายประกอบหลักฐานชัดเจน ยังไปหลุดในชั้นศาลได้

"สมชัย"ปัดตอบคำถามมติแจกใบแดง"การุณ"

               ขณะที่นายสมชัย กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกกต. 4 คน มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ใบแดง) นายการุณภายหลังมีรายงานข่าวว่านายสมชัยไม่ได้เข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดภารกิจต่างจังหวัด โดยนายสมชัย ให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวผ่านมาแล้ว ตนไม่อยากให้เป็นประเด็นอะไรอีก

 

นปช.นัดชุมนุม24มิ.ย.ภายใต้ชื่อ“80ปียังไม่มีประชาธิปไตย”

               ทั้งนี้นางธิดา  ถาวรเศรษฐ  ประธาน นปช. นายจตุพร นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. พร้อมแกนนำร่วมกันแถลงข่าว โดยนางธิดา กล่าวว่า ขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์บ้านเมืองที่น่าเป็นห่วง แม้เราจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและฝ่ายอำนาจนิติบัญญัติพยายามทำงานของตัวเอง แต่ขณะนี้ได้เกิดวิกฤตแห่งอำนาจที่สืบเนื่องมาจากการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอำมาตยาธิปไตย ที่ทวีความเข้มข้นขึ้น ซึ่งประชาชนต้องร่วมกันต่อสู้ต่อไปเพราะเราต่อสู้มา 80 ปีแล้ว ไม่ใช่เพียง 6 ปี ดังนั้นคำขวัญการจัดงานรำลึกในวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งคนเสื้อแดงจะจัดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงมีคำขวัญว่า “80 ปียังไม่มีประชาธิปไตย” การต่อสู้ทุกครั้งของเรามาด้วยเหตุผลนี้ และจะเดินบนเส้นทางนี้ต่อไปจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง

               นางธิดา กล่าวต่อว่า สำหรับการรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นการต่อสู้ในระบบโดยสันติวิธี แม้รู้ว่าผู้มีอำนาจคงไม่ถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่การรวบรวมรายชื่อเพราะต้องการให้ประชาชนแสดงตัวให้ศาลรัฐธรรมนูญรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีกต่อไป ทั้งนี้การจัดงานวันที่ 24 มิ.ย. ถือเป็นการต่อสู้ครั้งใหม่ของ นปช. อย่างจริงจังมากขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดรัฐประหารจึงขอให้ประชาชนมาร่วมงานกันให้มาก อย่างไรก็ตามกิจกรรมในวันดังกล่าวจะมีการปราศรัยจากแกนนำนปช. และนักวิชาการ รวมทั้งจะมีการตั้งโต๊ะล่าชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้แล้ว 5 หมื่นชื่อ คาดว่าในวันที่ 24 มิ.ย. จะได้รายชื่อถึง 1 แสน
 
               นางธิดา กล่าวว่า ในการเดินทางไปให้การต่อศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ตนได้เตรียมทำคำแถลงภาษาอังกฤษจำนวน 7 หน้าพร้อมหลักฐานภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไปแสดงต่อศาล เพื่อให้ต่างชาติได้ดูภาพแห่งความโหดร้ายการวางแผนฆ่าประชาชนอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ว่าเราไม่ประสงค์ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่โลกนี้ไม่ได้ล้าหลัง ดังนั้นอาชญากรรมภายในประเทศควรต้องถูกเปิดเผยต่อสังคมโลก และเรียกร้องความยุติธรรมระหว่างประเทศได้ด้วยไม่ใช่ปิดประเทศ ปิดประตูตีแมว ฆ่าคนเสื้อแดงได้อย่างที่เคยทำ
 
               ด้านนายวรวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์พยายามเสี้ยมคนเสื้อแดงให้เข้าใจผิดพรรคเพื่อไทย หากทำสำเร็จพรรคเพื่อไทยก็จะไม่มีกำแพง ดังนั้นกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ก็จะทำลายพรรคเพื่อไทยได้ง่าย แล้วให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม จึงขอฝากตุลาการทั้งหลายว่าอย่าทำในสิ่งที่เคยทำ เพราะประเทศจะหาความสงบไม่ได้ เหมือนเป็นการรัฐประหารซ้ำซ้อนโดยใช้กระบวนการตุลาการภิวัฒน์
 
               นายวรวุฒิ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 มิ.ย. นปช.จะมีการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 12.00- 24.00 น. เนื่องในวันครบรอบ 80 ปี การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีคำขวัญการจัดงานว่า “80ปีไม่มีประชาธิปไตย” ส่วนวัตถุประสงค์การจัดงานนั้น เพื่อรำลึกถึงวีรชนในวาระเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ปี 2475 - 19 พ.ค. 2553 ซึ่งเป็นครั้งหลังสุดที่ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ พร้อมกับเป็นการยืนยันว่า นปช. จะต่อต้านการรัฐประหาร ทั้งโดยกองทัพและอำนาจตุลาการทุกรูปแบบ
 
               อย่างไรก็ดีเมื่อถึงช่วงที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. เริ่มแถลงข่าวได้พูดอย่างมีอารมณ์ด้วยน้ำเสียงที่ส่งเสียงดังว่า “เราไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญหัว...”ซึ่งเมื่อถึงช่วงนี้ทำให้นายวรวุฒิ ถึงกับต้องคว้าไมค์มาแถลงข่าวพร้อมกับเบรกว่าขอแก้ข่าวหน่อย เดี๋ยวศาลจะเข้าใจผิด ที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ พูดหมายถึงหัวควายนะครับเป็นภาษาอีสาน จากนั้นก็มีแกนนำนปช.คนอื่นมาแถลงข่าวในประเด็นอื่นแทนทันที