ข่าว

ยิงจรวดถล่มมท.1"สมัคร สุนทรเวช"

ยิงจรวดถล่มมท.1"สมัคร สุนทรเวช"

17 พ.ค. 2552

17 เมษายน 2552 คนร้ายใช้อาวุธสงคราม ทั้งอาก้า เอ็ม 16 เอชเค และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่ม "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับบาดเจ็บ ผ่านไป 1 เดือนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะติดตามจับกุมมือปืนและผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีได้

เหตุการณ์ละม้ายคล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อนกับนักการเมืองชื่อดัง ผู้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของไทยในเวลาต่อมา

 ...18 มีนาคม 2520 "สมัคร สุนทรเวช" รมว.มหาดไทย เดินทางไปงานสัมมนาสันนิบาตเทศบาลเมืองลำปาง (ขณะนั้น) เสร็จแล้วช่วงหัวค่ำต้องไปให้สัมภาษณ์ในรายการ "พบประชาชน" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ลำปาง ตามคำเชิญของ "วิชิต หอมโกศล" ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต 2 เรื่องการพัฒนาท้องถิ่น  

 เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว มท.1 ลงมาทักทายพี่น้องประชาชนที่หน้าสถานี ที่มาคอยให้กำลังใจอย่างเนืองแน่น จากนั้นจึงจะไปงานเลี้ยงขันโตกที่นายกเทศมนตรี เทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ 400 คน จัดเลี้ยงต้อนรับ โดยสมัครขึ้นรถเมอร์เซเดสเบนซ์ของ พล.ต.ท.ประสงค์ ศักดิ์สุภา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดยมีรถ "ไสว ศิริมงคล" ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง "เทียม สุวรรณอัต" นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลำปาง และผู้สื่อข่าวตามไปเป็นขบวน

 ระหว่างที่ขบวนกำลังเคลื่อนออกจากสถานีโทรทัศน์ พล.ต.ท.ประสงค์ได้รับรายงานแจ้งเหตุฆาตกรรมห่างจากสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 ลำปางไปราว 5 กิโลเมตร จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบและสมัครก็ตัดสินใจในทันทีนั้นว่า จะไปดูที่เกิดเหตุด้วย ดังนั้น แทนที่จะตรงไปที่ ร.ร.ลำปางกัลยาณี สถานที่จัดเลี้ยงขันโตกขบวนรถจึงมุ่งหน้าไปคนละทางจากกำหนดเดิม

 ทันทีที่รถของ มท.1 เลี้ยวไปตามถนนก่อนถึงวัดป่ารวก จู่ๆ ก็มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น เริ่มแรกทุกคนเข้าใจว่าหม้อไฟฟ้าระเบิด แต่เพียงอึดใจเดียวก็มีเสียงดังตามมาติดๆ อีกครั้ง ตามติดมาด้วยแสงไฟสีส้มปนเขียว ตกห่างจากรถเบนซ์ไปไม่มากนัก ก่อนจะตามมาด้วยห่ากระสุนและเสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ แรงอัดและคมกระสุนทำให้กระจกรถแตกละเอียด ตัวถังได้รับความเสียหาย หลายชีวิตในรถไม่ทันตั้งตัวรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 ด้วยสัญชาตญาณมากกว่าอะไรทั้งสิ้น พ.ต.ต.กิตติโชติ แสงนิล นายตำรวจติดตามที่นั่งอยู่ด้านข้างผลักร่างสมัครลงกับพื้นแล้วใช้ตัวคร่อมปิดเอาไว้ เมื่อพายุกระสุนหยุดลง เหตุการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ รัฐมนตรีสมัครไม่ได้รับอันตรายจากคมกระสุนปืนแม้แต่เล็กน้อย มีเพียงบาดแผลจากเศษกระจกบาดที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น

  หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบหางจรวดตกอยู่ 2 หาง มีตัวอักษร บี.เอช.เอ.9-57 ซึ่งเป็นชิ้นส่วนจรวดเอ็ม 72 ต่อสู้รถถัง โดยตำรวจท้องที่และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รวมถึงทหารได้ร่วมวิเคราะห์เหตุการณ์ ก่อนจะสรุปตรงกันว่าคนร้ายประมาณ 3 คน ซุ่มอยู่บนฐานชั้น 2 เจดีย์วัดป่ารวก ซึ่งเป็นวัดพม่า ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปราว 200 เมตร ด้วยชัยภูมินี้คนร้ายจึงเห็นเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

 นอกจากนี้ บริเวณจุดซุ่มยิงยังพบก้นกรองบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์ตกอยู่เกลื่อนกลาด สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายมาดักรออยู่นานนับชั่วโมงก่อนจะสบโอกาสลงมือ เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางที่ขบวนรถของ มท.1 จะต้องผ่านไปตรวจสอบเหตุฆาตกรรม

 จากการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดสรุปได้ว่า กระสุนจากเครื่องยิงจรวดเอ็ม 72 ตกที่เพิงขายอาหารของชาวบ้าน ห่างจากจุดยิง 150 เมตร แต่เคราะห์ดีที่ขณะเกิดเหตุร้านปิดแล้วจึงไม่มีใครอยู่ในร้าน นัดที่สองตกห่างจากรถ รมว.มหาดไทย เพียง 10 เมตร ห่างจากจุดซุ่มยิง 200 เมตร ถูกกำแพงรั้วคอนกรีตของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ลำปางจนทะลุเป็นรูกว้าง ใกล้กันยังพบหลุมระเบิดกว้าง 1 คืบ ลึก 3 นิ้ว ซึ่งเกิดจากระเบิดมือขว้าง ส่วนลูกที่สามตกใส่บ้านชาวบ้านที่อยู่ติดกำแพงรั้วสถานีโทรทัศน์ ห่างจากจุดยิง 250 เมตร หัวระเบิดยังไม่ทำงานและท่อนหางจรวดตกห่างออกไป 10 เมตร

 คนในสังคมต่างก็ให้ความสนใจกับเหตุลอบสังหาร สมัคร สุนทรเวช อย่างมาก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์อุกอาจ เป้าหมายเป็นถึง รมว.มหาดไทย ผู้กำกับดูแล 76 จังหวัดทั่วประเทศและกรมตำรวจ ผู้บังคับบัญชาตำรวจกว่า 2 แสนนายทั่วประเทศ โดยทุกคนต่างพุ่งเป้าไปที่ศัตรูทางการเมือง ขณะที่ฝ่ายทหารก็ต้องให้ความกระจ่างเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ในกองทัพ กลับปรากฏใช้ในการลอบสังหารครั้งนี้

 พล.ต.สวัสดิ์ สงวนประเทศ ผบ.มทบ.7 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วย พ.อ.อรุณ สังขพงษ์ รอง ผบ. และ พ.อ.อรัญ เสนะวงศ์ เสนาธิการ ได้ร่วมกันชี้แจงเกี่ยวกับจรวดเอ็ม 72 ซึ่งผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกา และขณะนั้น มทบ.7 ยังคงมีใช้ประจำการอยู่ นอกจากนี้ ยังสามารถหาได้ตามแนวชายแดนไทย-ลาว ก่อนจะลงความเห็นว่าผู้ใช้หรือคนร้ายมีความชำนาญ ผ่านการรบในต่างประเทศมาแล้ว !?!
 การลอบสังหารช่วงหัวค่ำทำให้กำหนดการของ มท.1 ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมต้องขึ้นเครื่องบินของบริษัทเดินอากาศไทย มาเป็นขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากลำปางมาลงที่เชียงใหม่ แล้วต่อเครื่องบินของกองบินตำรวจกลับเข้ากรุงเทพฯ แม้จะผ่านช่วงร้ายๆ และวันหนักๆ มาทว่าสมัครก็ยังคงสงบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงอาการตระหนกตกใจและไม่ได้สั่งเพิ่มมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัย เพียงแต่เปรยกับนักข่าวว่า...

 "ผมอยากรู้นัก เขาทำผมทำไม ผมทำอะไรผิด ?"

 ในขณะที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก พร้อมกับปักใจเชื่อว่าสาเหตุมาจากเรื่องการเมือง เพราะช่วงนั้นมีการขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ขณะเดียวกันทุกคนต่างก็ยอมรับว่า รมต.สมัคร สุนทรเวช มีศัตรูทั้งสองฝ่าย จึงลงความเห็นไปในทางเดียวกับ พล.อ.ทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม ซึ่งอยู่ในทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตดุสิตกับสมัคร ซึ่งเชื่อมั่นว่ามาจากเรื่องการเมือง เพราะสมัครไม่ใช่พ่อค้าและคนที่ยิงก็ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เนื่องจากเหตุเกิดในเมืองย่านชุมนุมชน

 ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน เป็นทหารยศจ่าสิบเอก สังกัดกรมผสมที่ 7 ร.พัน 4 ลำปาง และพลทหารสังกัดกองร้อยชาวเขา อส.ที่ 12 ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ลำปาง โดยมี รมว.มหาดไทย ผู้ตกเป็นเป้าสังหารร่วมสอบด้วยตัวเอง แต่ทั้งสองก็ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบกับตำรวจไม่มีพยานหลักฐานหนักแน่นเพียงพอเอาผิดได้ สุดท้ายจึงต้องปล่อยตัวไป ไม่นานเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ เป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง และผู้คนในสังคมก็พากันลืมเลือน

 วันนี้ดูเหมือนว่าคดี "สนธิ" ที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ทำท่าว่ากำลังจะเดินตามรอยอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน !?!

 M 72
 จรวดเอ็ม 72 เป็นปืนต่อสู้รถถัง มีลักษณะเป็นแท่งกลมยาว 2 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้วครึ่ง บรรจุกระสุนหรือจรวดสำเร็จรูปมากับเครื่องยิง จึงใช้ยิงได้เพียงครั้งเดียว ก่อนยิงต้องดึงส่วนท้ายออกไป 1 ฟุต ทำหน้าที่เป็นศูนย์หน้าและศูนย์หลัง ไกปืนจะเด้งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ผู้ยิงต้องใช้มือหนึ่งจับปากกระบอก อีกมือเหนี่ยวไก ประทับยิง จรวดจะกระทบเป้าแล้วจึงระเบิด