
คอนโด"หรู"ถึงคราวร่วง
เศรษฐกิจซบเซาทั่วโลกทำให้ราคาคอนโดมิเนียมหรูที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดรายรอบอาคารเปโตรนาส สัญลักษณ์กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ตกลงฮวบฮาบ
คอนโดเหล่านี้มาจากเงินของนักลงทุนกระเป๋าหนักชาวมาเลย์ ตลอดจนชาวต่างชาติจากเอเชีย และตะวันออกกลางที่ช่วยกันผุดอพาร์ตเมนต์กลางเมือง จนทำให้มีอาคารสูงเสียดฟ้าอย่างน้อย 28 แห่งขึ้นใจกลางเมือง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้คอนโดเหล่านี้ราคาตกลงมากถึง 30% ในขณะที่คอนโดหรูอีก 1 ใน 5 ยังขายไม่ได้
"สถานการณ์ไม่ดีเลย มีผู้ซื้อที่อยู่ในสถานะ "รอดูสถานการณ์" เยอะมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และผมเชื่อว่า ความคิดนี้ยังคงมีอยู่ในช่วงนี้ หากให้คาดการณ์เศรษฐกิจอึมครึมอย่างนี้ เราคงไม่เห็นสถานการณ์ดีขึ้นอย่างน้อยก็ในปีนี้" โรเบิร์ต อึ๊ง จากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ราฮิมแอนด์โค กล่าว
นอกจากยอดขายแล้ว สัญญาเช่าก็ลดลงด้วย บรรดาเจ้าของที่ดินต่างลดราคาค่าเช่าสุดแพงลง ด้วยความวิตกว่า คลื่นชาวต่างชาติในช่วงฤดูร้อนจะไม่หลั่งไหลมาอย่างที่คาด โดยราฮิมแอนด์โคยังเผยอีกว่า ราคาคอนโดหรูในกัวลาลัมเปอร์จะลดลงราวร้อยละ 15-20 ในปีนี้ หนึ่งในนั้นคืออาคารมาร์ค คอนโดหรูขนาด 607 ยูนิตที่เต็มไปด้วยภัตตาคารสุดเก๋ ห้องแสดงภาพศิลป์ และอยู่ห่างจากตึกแฝดเพียงไม่กี่ก้าว ซึ่งราคาตกถึงร้อยละ 30 โดยราคาที่ขายตอนบูมสุดขีดนั้นสูงถึงตารางฟุตละ 1,300 ริงกิต (ราว 1.3 หมื่นบาท) แต่ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 950 ริงกิตต่อตารางฟุต ทำให้ราคาคอนโดขนาด 3 ห้องนอนเหลือเพียง 2 ล้านริงกิต (ราว 20 ล้านบาท)
ส่วนราคาที่อาคารเมริตซ์ที่เคยสูงถึง 1,500 ริงกิตต่อตารางฟุตก็ร่วงเหลือ 1,000 ริงกิตต่อตารางฟุต บางห้องเหลือ 850 ริงกิตด้วยซ้ำ
"คำถามคือกำลังซื้อจะมาจากไหน แม้จะไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เราก็กังวลอยู่แล้วว่าจะมีความต้องการคอนโดหรูหรือเปล่า" อึ๊ง ฉี ติง นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์จากธนาคารเพื่อการลงทุนเมย์แบงก์ให้ความเห็น
นักลงทุนจากสิงคโปร์ และฮ่องกงเคยสนใจกัวลาลัมเปอร์ที่มีบ้านเป็นคอนโดดีไซน์หรูระดับโลก มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา สุดยอดทำเลหาใดเหมือน และที่สำคัญคือ ราคาสามารถหาซื้อได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ซื้อจากตะวันออกกลางที่มักหอบเงินมาประเทศมุสลิมแห่งนี้ที่พยายามอย่างหนักเพื่อปรับตัวเองให้เข้ากับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย
แต่สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเมื่อนักลงทุนต่างชาติที่เป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในมาเลเซียมากถึงครึ่งหนึ่ง ตกเป็นเหยื่อเศรษฐกิจซบเซา ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า อีกปัจจัยก็คือผู้ซื้อหลักหลีกเลี่ยงที่จะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในมาเลเซียเพราะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่พรรคฝ่ายค้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชนะใน 5 รัฐ และเป็นสูญเสียครั้งใหญ่ของพรรครัฐบาลที่ครองมาเลเซียมานานครึ่งศตวรรษ
ความกังขาเรื่องโครงการพัฒนาชั้นนำหลายแห่งที่อนุมัติโดยรัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังจะหมดวาระลง โดยเฉพาะในรัฐปีนัง ทางเหนือของประเทศทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจเรื่องนโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นชุดใหม่ที่เป็นของฝ่ายค้าน
"นักลงทุนจะระงับการตัดสินใจ ในขณะที่สายตาของนักพัฒนา พวกเขาก็ไม่รู้ว่านโยบายใหม่จะเป็นอย่างไร" โก๊ะ เทียน ซุย กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ซีเอช วิลเลียมส์ ทัลฮาร์ แอนด์ หว่อง อธิบายให้ฟัง
แต่ถึงจะขายไม่ออก ลดราคากระหน่ำ โครงการคอนโดหรูทั้ง 5 แห่งในเขตใกล้ตึกแฝดเปโตรนาส กลับไม่หยุดการก่อสร้างเลยสักแห่ง แถมยังจะแล้วเสร็จตามกำหนดการเดิมด้วยซ้ำ ขณะที่นักพัฒนาอสังหาฯ ก็มองในแง่ดีว่า เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ผู้ซื้อก็จะได้ประโยชน์จากข้อเสนอสุดคุ้มนี้ด้วย
"พื้นที่รอบอาคารเปโตรนาสยังคงเป็นพื้นที่ขายอันดับ 1 แถมยังสะดวกต่อนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุน เหมือนกับคุณไปฝรั่งเศสแล้วคุณสามารถซื้อบ้านอยู่ข้างหอไอเฟลได้นั่นแหละ" อึ๊ง ฉี ติง กล่าวทิ้งท้าย