
ขอความเป็นธรรมให้แป๊ะเจี๊ยะ
ขอความเป็นธรรมให้แป๊ะเจี๊ยะ : ว่ายทวนอารมณ์ โดยใบตองแห้ง [email protected]
ภาพเด็กนักเรียนบดินทรเดชาอดข้าวประท้วงเพราะไม่ได้ขึ้น ม.4 เป็นภาพที่น่าเห็นใจ สะเทือนใจ และควรสอบสวนให้ความเป็นธรรม ว่าการคัดเลือกเด็กเรียนต่อ ม.4 เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน กระแสสังคม กระแสสื่อ ก็ไม่ควรสร้างภาพด้านเดียวโดยโยนให้เป็นความผิดของแป๊ะเจี๊ยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ภาพทำนองว่าแป๊ะเจี๊ยะคือเก๋าเจี๊ยะ เข้าพกเข้าห่อผู้อำนวยการเสียเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งภาคีต่อต้านคอรัปชั่นอะไรนั่นไปยื่น ปปง.ให้ตรวจสอบทรัพย์สิน ผอ.โรงเรียนดัง 20 กว่าแห่ง
แป๊ะเจี๊ยะเป็นระบบกึ่งถูกกฎหมายที่ตาขยิบอยู่ในการศึกษาไทย เป็นความจริงที่อยู่ระหว่างบนโต๊ะกับใต้โต๊ะ ไม่สามารถฟันธงพิพากษาด้วยความคิดดัดจริตเคร่งศีลธรรม (ซึ่งสังคมไทยชอบนักหนา)
แป๊ะเจี๊ยะเกิดจากการที่รัฐไม่สามารถให้งบสนับสนุนโรงเรียนเพียงพอ โดยเฉพาะหลังปฏิรูปการศึกษาและนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ซึ่งก็มีด้านดีที่สร้างความเสมอภาค โรงเรียนสวนกุหลาบกับโรงเรียนหนองอีแหนบ ได้ค่าใช้จ่ายต่อรายหัวนักเรียนเท่ากัน แถมทุกรัฐบาลยังเห็นความสำคัญของการพัฒนาครู สนับสนุนให้ครูจ้างทำรายงานขอเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ 2 ระดับ 7 อาจารย์ 3 ระดับ 8 งบกระทรวงศึกษาฯ ส่วนใหญ่ เงินเดือนครูจึงเอาไปแดกซ์หมด แทบไม่เหลือซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน
ในขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาฯ ก็ยังลดอัตราครู ขนาดโรงเรียนลูกผม ซึ่งเป็นแค่โรงเรียนเกรดบี ครูเกษียณแล้วไม่มีอัตราบรรจุใหม่ ต้องใช้ครูอัตราจ้าง โดยใช้เงินของโรงเรียนเอง ตอนนี้มีร่วม 20 คนแล้ว
บรรดาโรงเรียนดังๆ โรงเรียนเก่าแก่มีชื่อเสียง หล่อสวยเลือกได้ จึงต้องใช้วิธีหาเงินนอกงบประมาณมาคงคุณภาพของตน ด้วยการเปิดรับเด็กห้องละ 40 คน แต่เปิดเทอมมามี 55 คน โดยส่วนใหญ่ สมาคมผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการ และโดยส่วนใหญ่ เงินจะเข้าบัญชีบริจาคโรงเรียน แต่แน่นอนเมื่อเป็นระบบที่ไม่สามารถขึ้นบนโต๊ะ มันก็มีช่องให้ทุจริต จนเคยมีข่าวคราวว่า ผอ.โรงเรียนดังเรียกตัวเลขครึ่งค่อนล้านเข้ากระเป๋า
แต่ถ้าเราเหมาว่า โรงเรียนที่หาเงินนอกระบบผิดทั้งหมด ก็ต้องถามว่าเป็นธรรมกับเขาไหม ถ้าเราบอกว่าควรสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ก็ดีครับ โรงเรียนสตรีวิทยาจะได้ลดความเหลื่อมล้ำลงมาเท่าโรงเรียนหนองหมาว้อ
บางคนอ้างว่าแป๊ะเจี๊ยะทำให้เงินซื้อได้ทุกอย่าง โทษทีเถอะ พี่น้องเอ๊ย เด็กสอบได้เตรียมอุดม มีซักคนไหมเป็นลูกเสื้อแดงหูหนาตาเล่อจากอุดรฯ แม่ทำนา พ่อขับแท็กซี่ ส่วนใหญ่ก็ลูกพ่อค้า หมอ ครู ข้าราชการ กวดวิชากันมาหัวหมอกหัวเหมย ช้างเผือกสมัยนี้เกิดในโรงเรียนกวดวิชาครูอุ๊ หมดสมัยแล้วที่จะเกิดในป่า
แม้แต่ที่บอกว่ารับเด็กพื้นที่ เด็กสวนกุหลาบมีซักกี่คนเป็นลูกแม่ค้าผักปากคลองตลาด บางคนบ้านไกลถึงท่าฉลอม แต่เอาลูกมายัดสำมะโนครัวบ้านญาติบ้านเพื่อนตั้งแต่แบเบาะ โรงเรียนบางแห่งต้องแก้ลำ พาเด็กเข้าห้องสอบสัมภาษณ์ แล้วหลบพ่อแม่ออกประตูหลัง ไหน ที่บอกว่าบ้านอยู่ข้างโรงเรียน พาครูเดินไปบ้านซิ ถ้าพาไปไม่ถูกสอบตก
เห็นไหมว่าต้องเล่นเล่ห์เพทุบายกันถึงเพียงนี้ เพื่อให้ลูกเข้าโรงเรียนดีๆ แต่ก็เห็นใจหัวอกพ่อแม่เหมือนกัน หลายคนบอกว่าไม่ได้อยากให้ลูกเรียนเก่งหรอก แต่ถ้าให้อยู่โรงเรียนวัดโคกสามง่ามข้างบ้าน ก็กลัวว่าซักวันลูกสาวจะได้เป็นนางเอกคลิปตบตีแย่งผัวกันในยูทูบ ส่วนลูกชายก็โตไปเรียนช่างกล โดนจิ้มพุงตายคารถเมล์
ประเด็นเด็ก ม.3 ขึ้น ม.4 เมื่อปีที่แล้ว รัฐมนตรี ปชป.มีนโยบายให้รับหมด ก็มี ผอ.บางท่านกล้าหาญโต้ ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเด็กบางคนไม่เหมาะจะเรียนสายวิชาการ แต่พยายามฝืนตามค่านิยมสังคม ความต้องการของพ่อแม่ (ซึ่งธรรมดานะ เป็นผมก็ไม่อยากให้ลูกจบ ม.3 บดินทรเดชาฯ แล้วไปเรียนพาณิชย์)
ผมไม่ได้บอกว่าแป๊ะเจี๊ยะถูกต้องชอบธรรม แต่มันเป็นการดิ้นรนเอาตัวรอดจากระบบที่มีปัญหา ของโรงเรียนดังและผู้คนที่มีฐานะพอจะดิ้นรนเอาตัวรอดได้ การวิพากษ์วิจารณ์จึงต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง บนบริบทของภาพใหญ่ ที่การศึกษาไทยเละเทะไปหมด ตั้งแต่เป้าหมายการศึกษา คุณภาพ หลักสูตร การบริหารจัดการ ฯลฯ ไม่ใช่สรุปอย่างมักง่ายแล้วไล่บี้หาแพะไม่กี่ตัวจบ
ถ้าไม่แก้ปัญหาทั้งระบบ เราก็มือถือสากปากถือศีลกันต่อไป คือปากด่าแป๊ะเจี๊ยะ แต่ถึงคิวลูกตัวเอง ก็วิ่งเต้นให้วุ่น ใครมีเส้นฝากได้มั่งวะ?