ติวเข้มสกัดคนเอเชียหนีเข้า'แคนาดา' | คมชัดลึก

              ปัญหา "คนเอเชีย" หลบหนีเข้าประเทศแคนาดา เป็นเสมือนหนามยอกอกของตำรวจแคนาดามายาวนาน ...จากคนเอเชียเพียงไม่กี่คน นับวันก็เริ่มทวีจำนวนมากขึ้น และเริ่มเป็นขบวนการใหญ่โต อย่างที่เคยเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมเมื่อปี 2553 มีผู้พยายามลักลอบขนคนเข้าสู่ประเทศแคนาดา ด้วยเรือขนาดใหญ่เพื่อขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศที่สาม จึงได้ร่วมกันลงขันให้นายหน้าจัดหาหนังสือเดินทางและวีซ่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทย และช่วยจัดหาเรือสินค้าขนาดใหญ่ ก่อนกระจายกันหมุนเวียนออกทะเลโดยเรือเล็กๆ ทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เพื่อไปรวมตัวกันที่เรือใหญ่ ซึ่งจอดอยู่กลางทะเลลึก
   
              เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทางการแคนาดา ต้องประสานความร่วมมือมายัง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เพื่อป้องกันเหตุทำนองนี้เกิดขึ้นอีก และกลายเป็นที่มาของการอบรมหลักสูตรการจัดการในคดีสำคัญ "Major Case Management-Team Commander Course" ที่เมืองเซมารัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
   
              โดยคณะตำรวจไทยที่เข้าร่วม นำทีมโดย พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.ท.สิรภพ วงษ์คำ สว.กก.1 บก.รน., พ.ต.ท.อุกฤต กัลยาณมิตร สว.กก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัชวาลย์ ดวงแก้วรอง รอง ผกก.5 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.ถนอมศักดิ์ รู้ยืนยง รองผกก.พิธีการและการรับรอง กองการต่างประเทศ เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้
   
              ตลอดทั้ง 7 วันในการติวเข้มจากตำรวจแคนาดา  พ.ต.อ.ชาติชาย ยอมรับว่า กว่าจะผ่านการอบรมจนกระทั่งได้รับเกียรติบัตรกลับมายังประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ในการเขียนแผนเพื่อสกัดกั้นกลุ่มคนที่พยายามลักลอบหนีเข้าประเทศแคนาดา !!
   
              ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ถูกอัดแน่นมาจากครูชาวแคนาดาทั้ง 5 คน หมุนเวียนกันมาถ่ายทอดวิชาและประสบการณ์กันเต็มร้อย อาทิ การฝึกภาคทฤษฎี เกี่ยวกับวิธีการเขียนแผนสกัดกั้นฯ ซึ่งการเขียนแผนแต่ละครั้ง ต้องมีหัวหน้าทีม ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายอำนวยการ ตลอดจนมีการวางแผนอย่างเหมาะสมและรอบคอบว่าใครจะทำหน้าที่อะไร และเสริมด้วย "การบ้าน" ชิ้นโตที่ฝากให้ไปคิดทบทวนแผนทุกวัน
   
              "การอบรมนี้ไม่ใช่ไปเฉยๆ นะ เรียนภาคทฤษฎีตอนเช้า ตอนบ่ายก็ต้องทำการบ้าน ซึ่งการอบรมนั้น ครูฝึกจะมีการยกเคสที่สำคัญในหลายรูปแบบ ก่อนจะมีการแบ่งเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันเขียนแผน วันแรกๆ ดีกรีความยากยังไม่มากเท่าที่ควร เหมือนครูฝึกปล่อยให้ตายใจ แต่พอวันที่สองดีกรีความยากเริ่มเพิ่มขึ้น พร้อมกับคำขู่ของครูฝึกที่บอกว่า วันนี้ผมจะเอาจริงกับพวกคุณแล้ว เริ่มให้เขียนแผนโดยไม่บอกอะไรเลย มีแต่เพียงหัวข้อว่า "ได้ข่าวมาว่าจะมีการกระทำผิดโดยผ่านประเทศของคุณ" แล้วให้แต่ละประเทศที่มาร่วมอบรม เขียนแผนว่าจะมีการปฏิบัติอย่างไร" พ.ต.อ.ชาติชายเล่าประสบการณ์การอบรม
   
              การฝึกอบรมอย่างเข้มข้นผ่านไปจนถึงวันสุดท้าย ทุกคนก็ยังได้อยู่แต่ในห้องเขียนแผน และวันสุดท้าย แต่ละคนในแต่ละกลุ่ม ต้องส่งการเขียนแผนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วย การบริหารงานทั้ง เงิน คน อุปกรณ์ และการจัดการ รวมถึงการเขียนแผนของบประมาณของค่าใช้จ่ายที่จะใช้ทั้งหมดในการดำเนินการด้วย แล้วครูฝึกจะมานั่งหน้าเรียงกระดาน ให้ตัวแทนทีมออกไปนำเสนอทีมละ 15 นาที ครูฝึกจะคอยเป็นคอมเมนเตเตอร์ ที่จะคอยติชม ซักถามในสิ่งที่ขาดหาย และสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในแผน
   
              "หากเกิดสถานการณ์จริง ถ้าเราสืบรู้แน่ชัดว่าจะมีคนลักลอบเข้าประเทศแคนาดาโดยผ่านประเทศไทย ผมก็จะต้องเขียนแผนอย่างที่ฝึกมาแล้ว ก่อนส่งไปตรวจที่ประเทศแคนาดา เมื่อเขาเห็นว่าแผนครอบคลุมแล้วก็จะโอนเงินมาให้ สิ่งที่ได้จากการมาอบรมครั้งนี้คือ การวางแผนปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างประเทศ ได้รู้วิธีการเขียนแผนที่สมบูรณ์ การประสานงานกับต่างประเทศ ถ้าเกิดเหตุแล้วน่าจะปฏิบัติการได้ลุล่วง เพราะเราได้รับการฝึก (โหด) ตลอด 7 วันมาแล้ว" พ.ต.อ.ชาติชาย บอกด้วยความมั่นใจ


.........

(หมายเหตุ : ติวเข้มสกัด..คนเอเชียหนีเข้า'แคนาดา' : สารพันตำรวจ  โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ)