
กุมารไทย-กุมารทอง
กุมารไทย-กุมารทอง : วันเว้นวันจันทร์ พุธ ศุกร์กับ ประภัสสร เสวิกุล
ในเสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน เมื่อขุนแผนต้องพระราชอาญาตามคำเพ็จทูลของขุนช้าง จนถูกห้ามเข้าเฝ้า และมีหน้าที่ตระเวนอยู่ตามชายแดน ขุนแผนมีความเคียดแค้นขุนช้าง จึงคิดหาของดีเพื่อใช้ป้องกันตัว ดังคำกลอนว่า “จะตีดาบซื้อม้าหากุมาร ให้เชี่ยวชาญวิชาได้ศึก” ซึ่งดาบก็คือดาบฟ้าฟื้น ม้าคือม้าสีหมอก ส่วนกุมารนั้นก็คือกุมารทอง
ในระหว่างที่ตระเวนอยู่ชายแดน ขุนแผนได้ช่วยชีวิตหมื่นหาญซึ่งเป็นนายซ่องที่มีอาคมขลังและมีอิทธิพลสูงเป็นที่ยำเกรงของผู้คนทั่วไป หมื่นหาญจึงตอบแทนด้วยการยกบุตรสาวคือนางบัวคลี่ให้เป็นภรรยาของขุนแผน แต่อยู่มาอยู่ไป หมื่นหาญก็เริ่มไม่พอใจลูกเขย เพราะขุนแผนวันๆ ไม่ทำการงานอะไร เมื่อพูดจาว่ากล่าว ขุนแผนกลับโต้ตอบว่าจะให้ตนเป็นโจรออกปล้นชาวบ้านอย่างหมื่นหาญนั้น คงทำไม่ได้ แต่หากใครมารุกรานก็จะต่อสู้ป้องกันเต็มที่ หมื่นหาญคิดว่าขุนแผนหยามหน้าตนและโอ่อวดแสดงความเก่งกล้า จึงทดสอบด้วยการให้ลูกน้องใช้ปืนยิงขุนแผน แต่ก็ยิงไม่ถูก ทำให้หมื่นหาญเกิดความกลัวและไม่ไว้ใจขุนแผน จึงให้นางบัวคลี่วางยาพิษขุนแผน แต่พรายที่ขุนแผนเลี้ยงไว้มากระซิบบอก ขุนแผนจึงคิดว่าไม่สามารถอยู่กับนางบัวคลี่ได้อีกต่อไป ในตอนนั้นนางบัวคลี่กำลังตั้งครรภ์ขุนแผนจึงออกปากขอลูกในท้อง ซึ่งนางบัวคลี่ก็หลุดปากว่าถ้าอยากได้ก็ให้แหวะเอาไป ขุนแผนจึงถือว่านางได้ยกลูกให้แล้ว ดังนั้น พอตกกลางคืน ขุนแผนก็ฆ่านางบัวคลี่แล้วแหวะท้องเอาทารกใส่ย่ามไปทำพิธีที่วิหารวัดใต้ ซึ่งมีคำกลอนว่า
“วางย่ามเปิดกลักแล้วชักชุด ตีเหล็กไฟจุดเทียนขึ้นแดงร่า
เอาไม้ชัยพฤกษ์พระยายา ปักเป็นขาพาดกันกุมารวาง
ยันต์นารายณ์แผลงฤทธิ์ปิดศีรษะ เอายันต์ราชะปะพื้นล่าง
ยันต์นารายณ์ฉีกอกปกปิดกลาง ลงยันต์นางพระธรณีที่พื้นดิน
เอาไม้รักปักเสาขึ้นสี่ทิศ ยันต์ปิดปักธงวงสายสิญจน์
ลงเพดานยันต์สังวาลอมรินทร์ ก็พร้อมสิ้นในตำราถูกท่าทาง
เอาไม้มะริดกันเกราเถากันภัย ก่อชุดจุดไฟใส่พื้นล่าง
ตั้งจิตสนิทดีไว้ที่ทาง ภาวนานั่งย่างกุมารทอง”
ครับ นั่นเป็นเสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ตอนกำเนิดกุมารทอง ซึ่งแฝงความเชื่อทางไสยศาสตร์ของคนไทยในสมัยโบราณ ซึ่งบางอย่างก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้น ก็คือในโลกวิทยาศาสตร์เช่นปัจจุบัน ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อถือในเรื่องกุมารทอง และเป็นที่น่าประหลาดใจว่าผู้ที่เชื่อในเรื่องนี้เป็นชาวต่างประเทศ ถึงขนาดที่มีการสั่งซื้อกุมารทองจากเมืองไทย ซึ่งแม้จะสามารถจับกุมได้ก่อนที่จะขนส่งไปถึงปลายทาง แต่ก็เกิดข่าวเรื่องกุมารทองแผลงฤทธิ์บนโรงพักซึ่งส่งผลในด้านการช่วยโฆษณากุมารทองของไทยให้โด่งดังยิ่งขึ้นไปอีก
เชื่อเถอะครับว่า ต่อไปนี้กุมารทองของไทยคงเป็นที่ต้องการของชาวต่างประเทศยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับวัตถุมงคลที่เคยฮือฮากันเมื่อหลายปีก่อน และทำรายได้ให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมหาศาล แต่กุมารทองนั้น น่าห่วงตรงที่ไม่ได้สร้างขึ้นจากวัตถุหากแต่ต้องใช้ซากทารก ซึ่งอาจจะนำไปสู่การค้าซากทารก หรือถึงขั้นลักทารกแรกคลอดไปทำลายชีวิต อันนับเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมและกฎหมายบ้านเมือง
และผมก็ไม่คิดว่าจะมีคนไทยคนไหนจะภาคภูมิใจได้ หากมีกุมารทองปรากฏในรายชื่อสินค้าส่งออกของไทย ต่อให้นำรายได้เข้าประเทศกี่ร้อยกี่พันล้านบาทก็ตาม