
น้องช่างภาพญี่ปุ่นเบิกความพี่ถูกยิงตาย
ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ช่างภาพญี่ปุ่น ถูกยิงตายแยกคอกวัว 10 เม.ย. 53 น้องชายเผย รอยเตอร์ตอบไม่ได้ใครยิง นัดสืบต่อครั้งหน้า 2 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค. 55 ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต คดีหมายเลขดำที่ ช.1/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ โจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรพลิกศพ นายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ (Hiroyuki Muramoto) สัญชาติญี่ปุ่น ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) ที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150
โดยก่อนเริ่มพิจารณาคดีนายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความ นปช.ได้ยื่นคำร้องขอรวมคดีชันสูตรศพ หมายเลขดำ ช.4/2555 ที่พนักงานอัยการสำนักงายอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี และนายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถ.ราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 ที่วันนี้ศาลนัดพิจารณาคดีด้วย รวมกับคดีของนายฮิโรยูกิ เพื่อความสะดวกในการพิจารณาคดีเนื่องจากวันและเวลาเกิดเหตุใกล้เคียงกันและมีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานคดีนายฮิโรยูกิ และคดีของนายวสันต์และนายทศชัย เป็นคนละชุดกัน จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้รวมสำนวน ส่วนที่นายยูซูเกะ มูราโมโต้ (Yusuke Muramoto) อายุ 43 ปี น้องชายนายฮิโรยูกิ ได้แถลงศาลผ่านล่าม และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตญี่ปุ่นว่า ประสงค์จะขอเบิกความในวันนี้ เนื่องจากไม่สะดวกเดินทางไป-กลับประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายยูซูเกะ ยังไม่ได้แต่งตั้งทนายความ ซึ่งมีเอกสารบางรายการที่นายยูซูเกะจะต้องเซ็นไว้เป็นหลักฐาน จึงต้องการให้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อความโปร่งใส ซึ่งนายเจษฎา ทนายความ นปช. ได้รับที่จะเป็นทนายความให้นายยูซูเกะ ศาลจึงได้เริ่มกระบวนการไต่สวน
ขณะที่นายยูซูเกะ เบิกความสรุปว่า พยานมีอาชีพรับจ้าง อาศัยอยู่ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นพี่น้องนายฮิโรยูกิ ผู้ตาย มีบิดาชื่อนายอากีฮีโกะ และมารดาชื่อนางซูมิเอะ มูราโมโต้ ซึ่งทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ โดยผู้ตายเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ปี ค.ศ.1966 อาศัยอยู่ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นนักข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศญี่ปุ่น อายุงาน 15 ปี รับผิดชอบทำข่าวทุกด้านทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ก่อนเสียชีวิตผู้ตาย สมรสกับนางเอมิโกะ มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน
พยานทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ปี ค.ศ.2010 (2553) เวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จากข่าวบนอินเทอร์เน็ตว่า ผู้ตายเสียชีวิตขณะทำข่าวการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้องในประเทศไทย จากนั้นจึงแจ้งบิดา-มารดาและพี่สะใภ้ เมื่อทราบข่าวทั้งสามเดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดต่อขอดูศพทันทีในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นนายฮิโรยูกิ จึงได้ขอนำศพกลับไปทำพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศญี่ปุ่นโดยพยานสอบถามพ่อแม่และพี่สะใภ้ ทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ทำข่าวการชุมนุมในกรุงเทพ ถูกยิงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 เวลา 21.00 น. ซึ่งหลังจากศพถึงประเทศญี่ปุ่นพยานก็ได้ดูศพ ยืนยันว่าเป็นพี่ชายจริง โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนาพยานและครอบครัวยังติดใจที่จะให้รัฐบาลไทย สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของพี่ชายและสืบหาบุคคลที่ใช้อาวุธปืนยิง จึงติดต่อสถานทูตญี่ปุ่นให้ดำเนินการประสานรัฐบาลไทย ต่อมาทราบว่ารัฐบาลไทยดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าว และได้รายงานความคืบหน้าให้พยานทราบเป็นระยะ และพยานเคยให้การกับพนักงานสอบสวนแล้วก่อนที่จะมาเบิกความในคดีนี้
"พยานขอยืนยันคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวนด้วยว่า นายฮิโรยูกิ เดินทางมาไทยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.53 เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ข่าวที่บริเวณ ถ.ราชดำเนิน และเท่าที่ทราบผู้ตาย เคยเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง และไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับบุคคลใดในประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่บิดา-มารดาและพี่สะใภ้ ไม่ได้เดินทางมาเบิกความด้วย เนื่องจากบิดา-มารดาแก่ชราแล้ว ส่วนพี่สะใภ้มีภาระต้องเลี้ยงบุตรสาว 2 คน " นายยูซูเกะ ระบุ
โดยนายยูซูเกะ ตอบทนายความด้วยว่า ไม่ทราบว่านักข่าวต่างประเทศที่เข้าไปทำข่าวในประเทศต่าง ๆ รัฐบาลของประเทศนั้น ๆ จะให้การคุ้มครองนักข่าวหรือไม่ โดยผู้ตายเคยไปทำข่าวการชุมนุมของประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศไทย ซึ่งการเสียชีวิตของพี่ชาย พยานทราบข่าวจากอินเทอร์เน็ตที่ปรากฏภาพผู้ตายกำลังปฏิบัติหน้าที่ว่า ผู้ตายเสียชีวิตในช่วงที่รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ทหาร สลายการชุมนุม โดยพยานไม่ทราบขนาดและความร้ายแรงของอาวุธปืน โดยเคยสอบถามไปยังสำนักข่าวรอยเตอร์ ต้นสังกัดผู้ตายแจ้งว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นคนยิงผู้ตาย
ภายหลังนายยูซูเกะ เบิกความเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดไต่สวนพยานปากต่อไปในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 09.00น. พร้อมกำชับให้ทนายความ จัดทนายความเป็นกลุ่มเพื่อสะดวกกับการสืบพยานเพราะคดีของนายฮิโรยูกิมีพยานจำนวนมากถึง 56 ปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. เดินทางมาพร้อมกับ น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เพื่อร่วมฟังการไต่สวน ซึ่งมีนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขาธิการมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 และผู้สื่อข่าวประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง มาร่วมฟังจำนวนมากด้วยจนล้นห้องพิจารณาคดี
ขณะที่เมื่อเบิกความเสร็จ นายยูซูเกะ ได้เดินทางกลับพร้อมรถสถานทูตญี่ปุ่นทันที เพื่อไปยังสนามบินเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ได้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ด้านนายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความ นปช. กล่าวถึงการไต่สวนชันสูตรพลิกศพของนายวสันต์ และนายทศชัยว่า วันนี้ ตนได้เสนอบัญชีพยานที่จะไต่สวน รวม 24 ปากขณะที่อัยการโจทก์ ผู้ร้องเสนอบัญชี 59 ปาก โดยพยานที่จะนำเข้าไต่สวนจะมีทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ พนักงานสอบสวน และญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.