
หนุ่มหนองบัวลำภู นั่งให้รถไฟทับดับสยอง
หนุ่มหนองบัวลำภู เครียดตกงานหวังกลับบ้านเยี่ยมลูก เงินหมดเร่หางานทำไม่ได้ แม้แต่ขอทำงานเพื่อแลกข้าวกินประทังชีวิตก็ไม่มีใครรับ สิ้นหวังหมดหนทางหาเงินกลับไปเลี้ยงลูกคิดสั้นนั่งขวางทางรถไฟเหยียบเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. พ.ต.ท.จำรักษ์ พุมพร สารวัตรเวรสภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิต ศพยังติดอยู่ใต้ท้องรถไฟ หลังรับแจ้งจึงรีบประสนไปยังแพทย์เวร รพ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ และหน่วยกู้ชีพประจำอำเภอน้ำพองฯเข้าช่วยเจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากท้องรถไฟ
ที่เกิดเหตุบริเวณรางรถไฟห่างจากสถานีรถไฟอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ประมาณ 500 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านหนองกุง พบรถไฟดีเซลรางโดยสารปรับอากาศ ขบวนที่ 74 หนองคาย-กรุงเทพ ขาล่องเข้ากรุงเทพฯ จอดอยู่ในที่เกิดเหตุท่ามกลางชาวบ้านหลายสิบคนพร้อมด้วยผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนรถไฟจำนวนมาก กำลังชะเง้อและมุงดูเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ชีพได้กันชาวบ้านออกห่างจากที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบ ที่บริเวณใต้ท้องรถไฟพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน สวมใส่เสื้อสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีเขียวเข้มนอนก้มหน้าเสียชีวิตในสภาพ กระดูกด้านหลังพร้อมแขนขาหักเลือดอาบทั้งตัว
เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากท้องรถไฟ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรชันสูตรพลิกศพ ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อสอบสวนทางคดี ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุไม่นาน ตำรวจก็อนุญาตให้รถไฟขบวนดังกล่าวที่ประสบเหตุขับเคลื่อนขบวนนำผู้โดยสารมุ่งหน้าไปยังปลายทางได้ จากการตรวจสอบหลักฐานผู้เสียชีวิต ภายในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายพบกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ ภายในมีบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเอกสารประจำตัวอื่นๆจำนวนหนึ่ง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ญาติเขียนใส่กระดาษพับเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ แต่ไม่พบทรัพย์สินของมีค่าและเงินสดแม้แต่บาทเดียวอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายมานะ แน่นอุดร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปหาญาติของผู้เสียชีวิตตามหมายเลขโทรที่ผู้ตายได้เขียนใส่กระดาษที่ตรวจพบในกระเป๋าสตางค์ เพื่อให้ข้อมูลต่างๆของผู้เสียชีวิต
พ.ต.ท.จำรักษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนคนขับรถไฟและผู้ช่วย ให้การว่าขณะที่เร่งเครื่องขบวนรถไฟออกจากสถานีรถไฟน้ำพองมาก่อนถึงจุดที่ผู้ตายนั่งขวางรางอยู่
แรกๆก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนนั่งอยู่ตรงนั้น คิดว่าเป็นสุนัขหรือวัวชาวบ้านที่หลุดจากคอกมา พอรถเคลื่อนไปใกล้ถึงจึงพบว่าเป็นคนนั่งกอดเข่าหันหลังอยู่โดยไม่คิดที่จะหลบหลีกขบวนรถไฟเลย
ซึ่งขณะนั้นด้วยเหตุที่รถไฟกำลังเร่งความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆจนเกือบถึงขีดความเร็ว ทำให้ไม่สามรถเบรกหรือหยุดรถได้กระทันหันจึงทำให้รถไฟวิ่งไปตามรางเหยียบผู้ตายไปติดอยู่ใต้ท้องรถ ก่อนที่รถไฟจะไถลไปเกือบ 100 เมตร จึงสามรถหยุดรถได้ จึงลงมาตรวจสอบก็พบเขาเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่จากการสอบถามไปยัง นางไพร แน่นอุดร อายุ 37 ปี พี่สาวของ นายมานะ หลังจากโทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรที่พบอยู่ในตัวผู้ตาย ทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายมานะ ได้ไปทำงานเป็นลูกจ้างทำขนมเค็กแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ หลังจากที่ได้เลิกรากับภรรยาไปได้สักพักหนึ่ง แต่ลูกสาววัย 4 ขวบ ที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1
ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่บ้านของผู้ตาย โดยแม่ของผู้ตายเป็นผู้เลี้ยงดู
ลังจากที่ นายมานะ ได้เดินทางเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม เขาก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาญาติพี่น้องที่บ้านอีกเลย และไม่มีใครพบเห็นและติดต่อเขาได้ และไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นายมานะ น้องชายจึงคิดสั้นนั่งขวางให้รถไฟทับชนตายในที่สุด
พ.ต.ท.จำรักษ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนถึงสาเหตุที่ นายมานะ นั่งขวางทางรถไฟจนถูกรถไฟชนตายนั้น คาดว่าเขาน่าจะเครียดหรือสิ้นหวังอะไรสักอย่าง หรืออาจจะตกงานแล้วเดินทางกลับมาบ้าน แต่ระหว่างทางอาจหมดเงิน หรือแวะหาเพื่อนจนเงินหมด สิ้นหวังจึงคิดหาทางฆ่าตัวตาย
อีกทั้งจากข้อมูลของชาวบ้านที่พบเห็นผู้ตายในพื้นที่แห่งนี้ ได้แจ้งให้ทราบว่า ช่วงเช้าผู้เสียชีวิตได้ไปของานที่เทศบาลตำบลหนองกุง อ.น้ำพอง ทำเพื่อแลกกับการขอแค่มีข้าวกินประทังชีวิตเท่านั้น แต่แล้วก็ไม่ได้งาน ทำให้คิดมากเดินไปเรื่อยจนถึงสถานีรถไฟน้ำพองจึงตัดสินใจนั่งอยู่ที่รางรถไฟเพื่อรอให้รถไฟชน
(แฟ้มภาพ)