
ทางหนีผกก.ไทรงามซุกผู้กว้างขวางเหนือ
เส้นทางหนี...ผกก.ไทรงามซุกปีกผู้กว้างขวางภาคเหนือ : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ
เป็นเวลาค่อนสัปดาห์แล้วที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน บช.ภ.1 สนธิกำลังกับฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.สิงห์บุรี และตำรวจ สภ.อินทร์บุรี พยายามแกะรอยติดตามจับกุม พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีปล้นรถขนเงินธนาคารกสิกรไทย แต่ยังไม่พบตัว ล่าสุดมีเบาะแสว่า ตำรวจยศ "พ.ต.อ." รายนี้ ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้กว้างขวางทางการเมืองรายหนึ่ง
แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่าหลังถูกออกหมายจับ พ.ต.อ.พิจิตร ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปพักอาศัยอยู่ในประเทศพม่า ภายหลังเปลี่ยนใจไม่เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ตามนัด แต่จากการตรวจสอบของตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าสุดมีข้อมูลว่า พ.ต.อ.พิจิตรยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ต่อเนื่องพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เพื่อรอจังหวะเข้ามอบตัว
แหล่งข่าวในชุดสืบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า พ.ต.อ.พิจิตรได้เช่าห้องพักในอาคารที่พักแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ไว้พักอาศัยในอัตราค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท มาได้ระยะหนึ่ง โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีพยานยืนยันว่า เห็น พ.ต.อ.พิจิตรกลับไปที่ห้องพักดังกล่าวก่อนจะหายตัวไป
"มีพยานเห็น พ.ต.อ.พิจิตรกลับเข้าไปในห้องพักและมีการสนทนากับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในสถานที่พักดังกล่าวในทำนองว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปล้นแต่ถูกลูกน้องหักหลัง กระทั่งเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม ก็ไม่มีใครเห็น พ.ต.อ.พิจิตรอีก" แหล่งข่าวในชุดสืบสวนบอก
แหล่งข่าวรายนี้บอกด้วยว่า ปกติ พ.ต.อ.พิจิตร ถนัดงานด้านป้องกันและปราบปราม แต่ไม่ชำนาญเรื่องงานสืบสวนสอบสวนทำให้ไม่ค่อยมีสายข่าว เป็นเรื่องยากที่จะมีใครพาหลบหนีออกนอกประเทศไปยังพม่า จึงเชื่อว่า พ.ต.อ.พิจิตรน่าจะเลือกหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และใกล้เคียงมากกว่า ล่าสุดมีเบาะแสว่า พ.ต.อ.พิจิตรได้รับการช่วยเหลือจากผู้กว้างขวางทางการเมืองในพื้นที่ภาคเหนือรายหนึ่ง และรอเวลาที่จะเข้ามอบตัว
แนวทางการสืบสวนของตำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับนายตำรวจเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 40 (นรต.40) ของ พ.ต.อ.พิจิตร รายหนึ่งที่เปิดเผยกับทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ว่า พ.ต.อ.พิจิตรไม่ชำนาญงานด้านสืบสวนสอบสวนจึงไม่น่าจะมีสายข่าวที่มีศักยภาพในการพาหลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และน่าจะเลือกหลบหนีอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของไทยมากกว่า
"เพื่อนทุกคนรู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อดสงสัยไม่ได้ว่า พ.ต.อ.พิจิตรเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการปล้นเพื่ออะไร ปกติเขามีอุปนิสัยเป็นคนเงียบๆ เป็นคนละเอียดรอบคอบ ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าเขาน่าจะอยู่ระหว่างกำลังหาช่องทางในการต่อสู้คดี และน่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆนี้" เพื่อนร่วมรุ่น นรต.40 ของ พ.ต.อ.พิจิตร กล่าว
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนทั้งในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี และ สภ.อินทร์บุรี ยังคงกระจายกำลังออกติดตาม พ.ต.อ.พิจิตรอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการตรวจสอบทุกเบาะแสที่ได้รับแจ้งแต่ยังไม่พบตัว เช่นเดียวกับผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ ส.ต.อ.นายรายณ์ ทิพย์ปรีชาธร นายศิวัช วารี และนายแมน (นามสมมุติ) ซึ่งยังไม่ทราบเบาะแส
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของชุดสืบสวนทราบว่า พ.ต.อ.พิจิตรมีความสนิทสนมกับผู้กว้างขวางทางการเมืองในพื้นที่ภาคเหนือ มีการดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลกันมานาน ซึ่งผู้กว้างขวางรายนี้เป็นที่นับหน้าถือตาของตำรวจและข้าราชการในภาคเหนือ อีกทั้งยังมีบทบาททางการเมืองในระดับประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเบาะแสยืนยันอย่างชัดเจนว่า พ.ต.อ.พิจิตรได้รับการช่วยเหลือจากผู้กว้างขวางรายนี้และยังคงหลบหนีอยู่ใน จ.กำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียง แต่ชุดสืบสวนก็ไม่ประมาทมีการประสานกับตำรวจในพื้นที่ตะเข็บชายแดนให้ตรวจสอบบุคคลเข้าออกในพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ อ.เชียงแสน อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เนื่องจากเป็นพื้นที่อิทธิพลของผู้กว้างขวางรายนี้
...........
(หมายเหตุ : เส้นทางหนี...ผกก.ไทรงามซุกปีกผู้กว้างขวางภาคเหนือ : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ)