ทบ.เผยไม่พบ'หน่วยทหารเซ็กส์หมู่' | คมชัดลึก

             วันที่ 17 พ.ค. พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่กลุ่มชายคล้ายทหารร่วมเพศกับหญิงสาวในสถานที่คล้ายหน่วยทหาร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถหาหน่วยทหารในภาพ ที่ใช้สถานที่ราชการในภาพได้ แต่ต้องเร่งข้อมูลต่อไป ส่วนกรณีที่พลทหารออกมายอมรับแล้ว ควรให้เกียรติหน่วยด้วยเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรให้หน่วยได้รับความเสียหาย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว

              ด้านพล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบสถานที่ และฝ่ายอาคารให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ขวัญกำลังใจของทหารกองทัพภาคที่ 3 ยังเต็ม 100 % ทั้งยังให้กำลังใจผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 26 (ผบ.ม.พัน.26)ว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ในสถานท่องเที่ยวที่รับผิดชอบนั้น ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของทหารเกณท์คนดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับกองพันขอให้สบายใจได้

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีภาพกลุ่มชายคล้ายทหารร่วมเพศกับหญิง ในสถานที่คล้ายหน่วยทหาร  หลังจากที่ทางคณะกรรมการได้พบ 1 ในบุคคลที่อยู่ในภาพ ซึ่งเป็นพลทหารสังกัดม.พัน 26 รับสารภาพว่า ได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวตามรูปดังกล่าวจริง แต่กระทำในบ้านพัก ไม่ได้กระทำในหน่วยทหาร และร่วมเพศกับหญิงสาวดังกล่าวเพียงคนเดียว ไม่มีทหารเกณฑ์คนอื่นร่วมด้วย

              นอกจากนี้พลทหารคนดังกล่าวไม่ได้รู้จักกับหญิงสาวว่า เป็นใคร มาจากไหน เพียงแต่ได้รับการชักชวนมามีเพศสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น และยังไม่รู้จักกลุ่มชายที่แต่งกายคล้ายทหารที่เหลือในชุดภาพดังกล่าวเลย ทำให้พิสูจน์ได้ว่า พลทหารคนดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับภาพกลุ่มคนคล้ายทหารเกณฑ์ 6 คนที่มีเซ็กส์ร่วมกับหญิงสาว  อย่างไรก็ตามจากกรณีที่ค่ายทหารใน จ.เพชรบูรณ์ถูกจับตาเป็นพื้นที่ต้องสงสัย ทำให้แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ตรวจสอบเทียบรูปภาพหน่วยทหารในแต่ละกองร้อย แต่ปรากฎว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบว่า มีกองร้อยหน่วยใดมีสถานที่เหมือนในภาพที่เผยแพร่ในเว็บ

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คณะกรรมการยังคงพยายามตรวจสอบ หาข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าว่า  สถานที่ที่กลุ่มชายคล้ายทหารมีเซ็กส์กับหญิงสาวเป็นสถานที่ใด เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้น จากทุกกองทัพภาครายงานมาตรงกันว่า รูปดังกล่าวไม่ใช่สถานที่ในหน่วยของตนเอง ทำให้คณะกรรมการตั้งข้อสงสัยว่า หน่วยราชการในรูปดังกล่าวมีจริงหรือไม่ และยังมองถึงความเป็นไปได้ว่า ทหารดังกล่าวอาจจะไม่ใช่กำลังพลของกองทัพบก หรืออาจจะเป็นขบวนการถ่ายทำหนังโป๊ ซึ่งคณะกรรมการยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออกไป แต่จากการสอบสวนเชื่อว่า สามีภรรยาในภาพเป็นคู่ที่ชื่นชอบการสวิงกิ้ง และมีการเปลี่ยนสถานที่ร่วมเพศไปเรื่อยๆ ด้วยการเชิญชวนทหารในพื้นที่ต่างๆที่ทั้งคู่ไปพักอาศัยมามีเพศสัมพันธ์ด้วย
 
              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอว่า พลทหารในสังกัดม.พัน 26 เป็น 1 ในทหารที่อยู่ในชุดภาพฉาว ทำให้กำลังพลในม.พัน 26 หลายรายรู้สึกเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองพัน จึงอยากขอความเป็นธรรมว่า อย่าประณามหน่วยเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล และไม่ได้เกิดขึ้นในหน่วยทหาร แต่เป็นบ้านพักของทหารม้า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว 

มทภ.1แจงคลิปโคโยตี้เต้นโชว์ค่ายทหารของเก่า 5 ปีมาแล้ว

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 ได้มีนำคลิปวิดีโอสาวโคโยตี้โชว์เต้นเปลือยกายในสถานที่คล้ายค่ายทหารมาออกอากาศ โดยในคลิปเป็นเหมือนงานเลี้ยงสังสรรค์ในหน่วยทหารโดยมีนักดนตรี และแดนเซอร์ร่วมเต้นสนุกกับชายแต่งกายคล้ายทหาร ซึ่งในช่วงท้ายของคลิปแดนเซอร์หญิงเริ่มเต้นยั่วยวนและถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นจนหมด  โดยกลุ่มชายสวมชุดคล้ายกับทหารมีการขึ้นไปบนเวทีร่วมเต้นกับแดนเซอร์เปลือยคนดังกล่าวด้วย ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน

              โดยพล.ท.อุดมเดช  สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ชี้แจงว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 1 กำลังตรวจสอบอยู่ แต่เท่าที่ดูไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เกิดมาประมาณ 5 ปีแล้ว ซึ่งหากคลิปที่เกิดขึ้นเป็นสถานที่ในหน่วยทหารจริงๆถือว่า ผิดวินัยและไม่เหมาะสม ทั้งนี้ทุกคนต้องเข้าใจเรื่องราวและเห็นใจทหารที่ทหารได้ทำในเรื่องดีๆ ซึ่งอาจจะเสียวินัยไปบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตมาก เป็นภาพความสนุกสนาน หลังจากการฝึกแต่อาจจะไม่เหมาะสม 

              “สื่อไม่ควรไปตามกระแส เพราะอาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจทหาร คนดีๆจะเสียกำลังใจ เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชากำชับแล้วว่า ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ซึ่งต้องพยายามค้นหาบุคคล ที่กระทำไม่เหมาะสมมาลงโทษต่อไป” แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงที่ผ่านมามีการปล่อยภาพ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทหาร ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่ไม่หวังดี ต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของทหารได้รับความเสื่อมเสีย