
สืบจากกล่องโฟมคลี่ปมฆ่า'3พี่น้อง'
สืบจากกล่องโฟมคลี่ปมฆ่า"สามพี่น้อง" : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
กล่องโฟมบรรจุอาหารซึ่งพบในที่เกิดเหตุเป็นเบาะแสชิ้นสำคัญที่ทำให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือสังหารโหด 3 พี่น้องตระกูล "ทักษิณาจารี" มาดำเนินคดีได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
คดีสังหารโหดสามพี่น้องตระกูล "ทักษิณาจารี" ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 12 พฤษภาคม ที่บริเวณสามแยกค้นกระบก หมู่ 6 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.นายายอาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจียม มณีโชติ สว.สส.สภ.นายายอาม นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผบ 2245 ชลบุรี จอดอยู่ข้างทาง ภายในรถพบผู้เสียชีวิต จำนวน 3 คน คือนายสมบูรณ์ ทักษิณาจารี อายุ 47 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ใบหน้าถูกมีดฟันเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล เสียชีวิตอยู่ที่บนเบาะนั่งคนขับ
ส่วนอีก 2 คนคือ น.ส.สมทรง ทักษิณาจารี อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่แก้มขวา 1 นัด และนางพจมาน ทักษิณาจารี อายุ 57 ปี ถูกยิงที่กกหู 1 นัด โดยทั้งสามเป็นพี่น้องกัน พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 6 ต.นายายอาม
นอกจากนี้ภายในรถยังพบมีดสปาร์ต้าตกอยู่ 1 เล่ม เงินสด 4 แสนบาท แหวนทองคำรูปพรรณ 1 วง แหวนพลอย 1 วง และเศษสร้อยข้อมือ ทองรูปพรรณและพระเครื่องจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบกล่องโฟมบรรจุอาหารประเภทปลาราดพริก หอยจ๊อ ผัดทะเลรวมมิตร รวมถึงสุราชื่อดังยี่ห้อหนึ่งถูกเปิดดื่มไปแล้วค่อนขวด ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้จุดเกิดเหตุเป็นถนนลูกรัง ขณะคนร้ายลงมือสังหารผู้ตายมีพยานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังจากนั้นไม่นานได้สังเกตเห็นรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียนแน่ชัด คาดว่าจะเป็นคนร้ายขับออกจากบริเวณดังกล่าวด้วยความเร็ว โดยพยานเห็นชายฉกรรจ์นั่งอยู่ในกระบะท้ายรถคันนี้ 1 คน
พ.ต.อ.อภิชาติ รายงานเหตุที่เกิดขึ้นให้ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ทราบก่อนจะได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบรายละเอียดของหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุให้ได้มากที่สุดเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบกล่องโฟมบรรจุอาหารซึ่งพบภายในรถกระบะของผู้ตาย
"กล่องโฟมอาหารที่พบทำให้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุไม่นานผู้ตายเพิ่งไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.แกลง จ.ระยอง ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปสอบถามพนักงานในร้านอาหารแห่งนี้ทราบว่าผู้ตายมารับประทานอาหารเป็นประจำเพราะมีเพื่อนพักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปพบกับเพื่อนผู้ตายเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่าบ้านพักของเพื่อนผู้ตายติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้จึงขอตรวจสอบ และพบว่าสามารถบันทึกภาพรถกระบะโตโยต้าตามประกบผู้ตายทั้งสามมาตลอด" พ.ต.อ.อภิชาติบอก
ตำรวจชุดสืบสวนนำข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมใกล้ที่เกิดเหตุมาประติดประต่อกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้จากบ้านพักของเพื่อนผู้ตาย พบว่ามีความสอดคล้องกัน โดยเชื่อว่ารถกระบะโตโยต้าที่เห็นในภาพจากกล้องวงจรปิดน่าจะเป็นพาหนะของคนร้ายที่ใช้ในการลงมือสังหารผู้ตายทั้งสาม หลังจากนั้นจึงพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่รถยนต์ของผู้ตายวิ่งผ่าน พบรถกระบะที่ขับตามรถของผู้ตายตลอดทางคือรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บบ 4247 ฉะเชิงเทรา มีนายสงั่น นาคตระกูล อายุ 46 ปี เป็นผู้ครอบครอง
หลังได้เบาะแสดังกล่าวเพียงชั่วข้ามคืน คือวันที่ 13 พฤษภาคม ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้เชิญตัวนายสงั่นมาสอบสวน ปรากฏว่านายสงั่นพยายามบ่ายเบี่ยงทุกประเด็นจนเป็นพิรุธ อีกทั้งรถกระบะคันดังกล่าวก็มีร่องรอยเพิ่งผ่านการทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก และเพิ่งทำสีตัวถังใหม่เป็นบางจุด และในเวลาต่อมามีพยานปากสำคัญนำอาวุธปืนขนาด .38 มามอบให้ตำรวจ และระบุว่าปืนกระบอกดังกล่าวนายสงั่นเพิ่งนำมาฝากไว้ไม่นาน
ตำรวจจึงเค้นสอบนายสงั่นอย่างหนัก กระทั่งยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายชาตรี ดวงจันทร์ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย ร่วมกันฆ่าผู้ตายทั้งสามคนเพื่อชิงทรัพย์
"นายสงั่นรับสารภาพว่า รู้จักกับกลุ่มผู้เสียชีวิตมาได้ระยะหนึ่ง และรู้ว่าผู้ตายทั้งสามเพิ่งขายที่ดินได้เงินมาหลายล้านบาท จึงได้ร่วมกับนายชาตรีวางแผนชิงทรัพย์ โดยนายชาตรีเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสามคนจนเสียชีวิต ส่วนนายสงั่นทำหน้าที่ขับรถพาหลบหนี" พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 เปิดเผย
หลังการสอบปากคำนายสงั่น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นายายอาม ได้ออกติดตามจับกุมนายชาตรี อย่างเร่งด่วนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้ระหว่างเตรียมหลบหนีออกนอกพื้นที่ ปิดฉากคดีนี้ได้ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
...........
(หมายเหตุ : สืบจากกล่องโฟมคลี่ปมฆ่า"สามพี่น้อง" : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ)