
ร้อน...
ร้อน...กระจกเงา โดยอัศศิริ ธรรมโชติ
“บังเกิดเป็นตระวัน 6 ดวง แลร้อนเร่าเผาทั้งจักรวาล
แลเห็นเป็นตระวันลุกอยู่เต็มทั่วจักรวาล ดังท่านเผาหม้อ
แลร้อนเร่าระงมอยู่ในเตาหม้อนั้น”
มีหลายคนบ่นว่าอากาศร้อนตอนนี้เหมือนถูกเผา หรือว่านั่งอยู่หน้าเตาอบจึงทำให้นึกถึงหนังสือโบราณเก่าแก่ของไทยเราเล่มหนึ่งซึ่งได้บรรยายถึงความร้อนเอาไว้ดังที่ได้ยกมาข้างบนนั่น หนังสือชื่อไตรภูมิพระร่วงแต่งในสมัยสุโขทัยกว่า 600 ปีมาแล้ว
ฝรั่งกล่าวถึงวันสิ้นโลกส่วนใหญ่บอกว่าจะเป็นเพราะพลังความร้อนหรือไฟที่ลุกไหม้เผาโลก ในหนังสือไตรภูมิพระร่วงนี้ก็ได้กล่าวเอาไว้เช่นกัน คือบอกว่า โลกจะร้อนจนละลายไหม้เกิดไฟลุกเผาผลาญขึ้นทั้งโลกและจักรวาลนี้
เมื่อโลกและจักรวาลนี้จะถึงกาลวิบัติ หนังสือเล่มนี้ได้ลำดับขั้นตอนเอาไว้ให้เราเห็นว่า มีดังนี้ครับ
เริ่มแต่ดิน ฟ้า อากาศ เกิดวิปริตผิดไป มีสภาพที่เรียกว่า ทั้งแล้งและร้อน หว่านข้าวในนา ปลูกผักในแปลง ก็มีแต่เหี่ยวแห้งตาย เหมือนว่ามีใครเอาไฟมาลนอย่างนั้น สระ ห้วย หนอง คลอง บึงทุกแห่งก็เหือดแห้งหมดสิ้น ทุกฤดูคืนวันจะได้ยินแต่เสียงฟ้าร้อง
แต่ไม่มีฝนตกลงมาแม้แต่สักเม็ดเดียว
ว่าปลา จระเข้ แห้งตายอยู่กลางแดดที่แผดเผา เกลื่อนไปทั้งแผ่นดินในขณะที่พระอาทิตย์บนฟ้าจะไม่มีวันตกดินอีกต่อไปแล้ว มีแต่จะสาดแสงแรงร้อนไปทั่วแผ่นดินอันแห้งแล้งที่ปราศจากกลางคืน จนกระทั่งถึงวันหนึ่งก็จะปรากฏพระอาทิตย์อยู่บนฟ้าถึง 2 ดวงให้ผู้คนจ้องดู “ดังหน้าผีเสื้อและผีพราย”
และเมื่อถึงวันนั้นว่าผู้คนทั้งหลาย ก็ได้แต่กอดคอกันร้องไห้
ลำดับต่อมา พระอาทิตย์จะขึ้นมาเป็น 3 ดวง 4 ดวง 5 ดวง 6 ดวง และถึง 7 ดวงในที่สุด ตอนนั้นแม่น้ำทุกสายและทะเลมหาสมุทรทุกแห่งได้แห้งสิ้นหมดแล้ว หรือว่าจะเหลืออยู่มีน้ำลึกก็เพียงแค่ “แต่ข้อมือเดียว” เท่านั้น ทั้งฝูงพญาปลา ฝูงพญามังกรที่เคยหนุนประคองโลกก็ละลายไหม้กลายเป็นน้ำมันไปหมดแล้ว ผู้คนไม่ต้องพูดถึง ทุกหนทุกแห่งมีแต่เปลวไฟลุก
ว่าไฟจะค่อยๆ ลุกลามไหม้แผ่นดิน นับตั้งแต่ต้นไม้ ป่าไปจนถึงภูเขา เกาะเล็กเกาะน้อยจนถึงทวีปทุกแห่ง ต่อจากนั้นก็จะลามขึ้นไปบนฟ้า ถึงตอนนี้ป่าหิมพานต์ เขาพระสุเมรุ เขาไกรลาส วิมานเทวดา สวรรค์ทุกชั้น และนรกทุกขุมก็แยกกันไม่ออกแล้ว ทั้งโลกและจักรวาลล้วนถูกไฟเผาไม่มีเหลือ และถึงกาลแตกดับไปตามกฎของสรรพสิ่งที่เป็นอนิจจังในที่สุด
จะเห็นว่า “วันสิ้นโลก” ตามที่หนังสือไตรภูมิพระร่วงของไทยเรานี้กล่าวเอาไว้ ทั้งน่ากลัวและสนุกกว่าหนังฝรั่งหลายเรื่อง
นอกจากนี้แล้วหนังสือโบราณของไทยเราเล่มนี้ ยังได้บอกเอาไว้ชัดถึงสาเหตุของการที่โลกและจักรวาลนี้ล่มสลายว่า เป็นเพราะมนุษย์บนโลกนี้ได้ร่วมกันก่อบาปกรรมขึ้นอย่างไม่รู้จักยับยั้ง มนุษย์เอาแต่มัวเมา ปล่อยใจปล่อยตัวไปตามแรงของกิเลสตัณหาแห่งความโลภ โกรธ หลง ขนาดที่ว่าไม่รู้จักผิดถูก ไม่รู้จักชั่วดี และไม่รู้จักแยกแยะถึงบาปบุญคุณโทษ ที่ได้กระทำลงไป การกระทำของมนุษย์กระทบถึงดิน น้ำ ฟ้า จนกระทั่งถึงเกิดวิปริตแปรปรวนเป็นไปดังที่กล่าว
ที่บาปร้ายยิ่งกว่า มนุษย์ไม่รู้จักแม้แต่พ่อแม่พี่น้อง ครูบาอาจารย์ของตน และมิตรสหายที่ได้เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ถึงวันหนึ่งกลับมองเห็นเป็นศัตรูกันไปหมด มนุษย์ลุกขึ้นมาไล่ฆ่าฟันกันเองเล่น ราวกับว่าชีวิตเป็นผักปลา หมูหมา และนี่นับเป็นเหตุที่ทำให้โลกและประเทศต้องล่มสลายไป
เมืองไทยเราขณะนี้ (ตอนที่เขียนนี้) อากาศร้อนจัดขนาดว่า ปลาในทะเลลอยตาย ควายในนาตับแตก และนกร่วงตกจากฟ้า เกือบทั่วทุกจังหวัดของประเทศอุณหภูมิอยู่ในระดับกว่า 38 จนถึงกว่า 40 องศาเซลเซียส เกิดแผ่นดินลุกเป็นไฟ และเกิดไฟไหม้ไปเกือบจะทุกหย่อมหญ้า
มีคนเตือนว่า น้ำท่วมใหญ่ก็แล้ว แผ่นดินไหวก็แล้ว ให้ตระหนักถึงลางบอกเหตุและไม่ประมาทไว้เป็นดี
ก็อ่านเรื่องนี้แก้ร้อน แล้วก็เพื่อความไม่ประมาทไปด้วยครับ