
'กรมการกงสุล'เตรียมเพิ่มจุดทำหนังสือเดินทางฯ
'กรมการกงสุล' เตรียมเพิ่มจุดทำหนังสือเดินทางฯ 6 แห่ง เน้นบริการรวดเร็ว ประชาชนสะดวกที่สุด : สกู๊ป ชุมชนเมือง-ภูมิภาค
เมื่อก่อนจะทำหนังสือเดินทางเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย ต้องเตรียมเอกสารมากมาย ต้องให้สันติบาลรับรอง ถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องให้กรมประชาสงเคราะห์รับรอง ซึ่งเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่ยุคสมัยนี้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว และในอนาคตอันใกล้จะยิ่งรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากจะมีสำนักงานหนังสือเดินทางเพิ่มขึ้นในจังหวัดต่างๆ และจะกลายเป็นมีให้ได้ครบทุกจังหวัดในอนาคต
นายสุรพล เพชรวรา อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีชุมชน "การเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ” ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จ.นครราชสีมา ว่า อนาคตอันใกล้นี้ กรมการกงสุล จะขยายให้มีสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวครอบคลุมในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางมาทำพาสปอร์ตได้อย่างรวดเร็วและสะดวกเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน กรมการกรมสุลมีสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวทั้งหมด 12 แห่ง กระจายทั่วประเทศ เช่น ยะลา สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา จันทบุรี ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังมองว่าไม่คลอบคลุมเพื่อให้ประชาชนสะดวกในการที่จะมาทำหนังสือเดินทางได้อย่างคลอบคลุม จึงได้พูดคุยกับผู้ใหญ่โดยนำเสนอนโยบายเป็น 3 ระยะด้วยกัน และทางผู้ใหญ่ได้เห็นชอบแล้ว
โดยในระยะแรก ขอว่าถ้าประชาชนจะมาทำหนังสือเดินทาง ขอให้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่เนื่องจากภาคเหนือมีที่เชียงใหม่ที่เดียวในขณะนี้ ถ้าคนที่ต้องการทำหนังสือเดินทางมาจากเชียงรายก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงเชียงใหม่ หรือใน จ.แพร่ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น ในภาคเหนือจึงขอไปว่า ภายในเดือนกันยายนนี้จะตั้งเพิ่มอีก 2 แห่ง คือที่ จ.เชียงราย และ จ.แพร่
ส่วนทางภาคอีสานยังมีจุดช่องว่างอยู่อีกหลายที่ จึงอยากจะเพิ่มที่ จ.สุรินทร์ และ จ.ร้อยเอ็ด หรือ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้คนแถวมุกดาหาร มหาสารคาม สามารถเดินทางมาทำหนังสือเดินทางได้ง่าย และใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ส่วนภาคตะวันออกน่าจะมีที่ จ.สระแก้ว และทางภาคใต้ก็จะเป็นที่ จ.เพชรบุรี โดยทั้งหมดที่จะเพิ่มอีก 6 แห่งนี้ จะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งทางท่านรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการนี้แล้ว จึงคาดว่าน่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จตามที่กำหนด
ส่วนระยะที่สองคือ จะให้มีสำนักงานหนังสือเดินทางในจังหวัดที่อยู่ติดแนวชายแดน อย่างนครพนม มุกดาหาร ปราจีนบุรี ระนอง นราธิวาส สำหรับจังหวัดที่อยู่ภายในรองลงมาจังหวัดในแนวชายแดนก็จะเป็นระยะในเฟส 3 ซึ่งทำให้ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประชาชนสามารถมาขอหนังสือเดินทางได้ง่าย และไม่ต้องเดินทางยาวนาน หรือต้องเข้ามาในกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว
โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ยังมีประชาชนจำนวนมากยังเข้าใจว่า บทบาทหน้าที่ของกรมการกงสุล มีหน้าที่ออกหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะบทบาทของกรมทำหน้าที่มากมายที่นอกเหนือมากกว่าการออกหนังสือเดินทางให้แก่ผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปต่างประเทศ ในที่นี้หมายถึงกรมได้ทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาของคนไทยที่ไปอยู่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่คนตามหาญาติ การช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศกรณีที่เกิดปัญหา เพื่อให้กลับมาเมืองไทย
"อย่าคิดว่า เราทำเพียงหนังสือเดินทางเพียงอย่างเดียว หากท่านที่มีปัญหา หรืออยากมีเรื่องร้องเรียน สามารถส่งเรื่องมาได้ที่สำนักงานหนังสือเดินทางในแต่ละพื้นที่ที่มีอยู่ โดยไม่ต้องเข้ามาในกรุงเทพฯ แล้วทางนั้นก็จะส่งเรื่อง หลักฐานเข้ากรุงเทพฯ" อธิบดีกรมการกงสุลกล่าว
ในส่วนของสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวก็เช่นกัน ในอนาคตอันใกล้นี้ สำนักงานเหล่านี้จะไม่ทำเฉพาะหนังสือเดินทาง แต่จะทำการรับเรื่องร้องเรียน ต่อไปถ้าญาติใครมีปัญหาพี่น้องลูกหลานตกทุกข์ได้ยาก ก็สามารถมาร้องเรียนได้ที่สำนักงานหนังสือเดินทางนี้ โดยสำนักงานชั่วคราวจะส่งเรื่องผ่านมาที่กรมการกงสุล เพื่อทำหนังสือตรวจสอบให้ ซึ่งการร้องเรียนนั้น ไม่จำกัดว่าเป็นเรื่องร้องเรียนจากใคร ทุกคนที่เป็นคนไทยมีสิทธิต่อการร้องเรียน หรือขอรับความช่วยเหลือได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการติดตามหาญาติ หรือร้องขอความช่วยเหลือในขณะที่มีปัญหา
พร้อมกันนั้น ทางกรมการกงสุล ยังทำหน้าที่ในการออกเอกสารรับรองต่างๆ ให้ด้วย หากมีคนอ้างว่า มีการเรียกร้องเงินเพื่อขอให้แปลเอกสารให้นั้น ขอให้รู้ว่า ไม่ใช่จากเจ้าหน้าที่ของกรมการกงสุล หรือเจ้าหน้าที่จากสำนักงานหนังสือชั่วคราวในจังหวัดต่างๆ เพราะกรมไม่มีนโยบายแปลเอกสารให้ แต่ทำหน้าที่ในการตรวจดูเอกสารที่แปลมาแล้วว่าถูกต้องหรือไม่เท่านั้น
จากเรื่องนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องหน้าม้าที่มารับแปล ดังนั้น อนาคตอันใกล้นี้ ทางกรมจะประสานมายังมหาวิทยาลัยต่างๆ ในพื้นที่ที่มีสำนักงานหนังสือเดินทางว่า ให้จัดนักศึกษาที่เก่งและมีความสามารถมารับแปลเอกสารให้อย่างถูกต้องไปเลย ซึ่งทางกรมก็จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยว่า ถ้าจะมาที่นี่ ควรจะแปลเอกสารจากที่ไหนเพื่อให้ถูกต้องที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างครบวงจร
แต่ในอนาคตคิดว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ ในพื้นที่ น่าจะจัดนักศึกษาเก่งๆ มาทำหน้าที่รับแปลให้ ซึ่งทางเราก็เห็นด้วย เพราะจะทำให้พวกหน้าม้าต่างๆ หมดไป และนักศึกษาก็มีรายได้เพิ่มด้วย และไม่เกิดปัญหาหน้าม้าเรียกค่าแปลเอกสารแพงๆ ดังที่เคยได้รับการร้องเรียนมาก
----------
(หมายเหตุ : 'กรมการกงสุล' เตรียมเพิ่มจุดทำหนังสือเดินทางฯ 6 แห่ง เน้นบริการรวดเร็ว ประชาชนสะดวกที่สุด : สกู๊ป ชุมชนเมือง-ภูมิภาค)
----------