จับแก๊งชิงทรัพย์รถยนต์ขายทางเน็ตส่งขายพม่า | คมชัดลึก

          วันที่ 6 พ.ค.55  เวลา 10.00น. พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.พ.ต.อ.วรพจน์ ชูเชิด ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.กิตติ สกุณี ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งชิงทรัพย์รถยนต์ โดนคนร้ายประกอบด้วย นายวัชระ หรือเก่ง ภาคอินทรีย์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/86 หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายสมชาย หรือเต๋า ทัศนาธร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/12 หมู่ 4 ต.ลาดสวย จ.ปทุมธานี นายโสธร หรือหนุ่ย ทรัพย์ล้น อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/7 หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนายบิล ไม่ทราบนามสกุล อายุ 45 ปี สัญชาติ/เชื้อชาติพม่า พร้อมของกลางที่ยึดได้จากผู้ต้องหา มีอาวุธปืนสั้น (ปลอม) จำนวน 1 กระบอก และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
 
          เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยเจ้าทุกข์คือ นายอมรณัฏฐ์ วงศ์ราธา และนางสาวฐิติมา บูรณ์วัฒน์ สองสามีภรรยา ได้ประกาศขายรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียนชจ-8648 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ต่อมาวันที่ 1 พ.ค.นายวัชระ หรือเก่ง ภาคอินทรีย์ อายุ 42 ปี พร้อมด้วยนายสมชาย หรือเต๋า ทัศนาธร อายุ 44 ปี ได้ติดต่อขอดูรถเพื่อทดลองขับรถและซื้อขายกันที่บริเวณถนนโลคัลโรด เขต ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี พื้นที่สอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต  
 
          ต่อมาวันที่ 5 พ.ค. คนร้ายได้ติดต่อนัดจ่ายเงินกับเจ้าของรถอีกครั้ง และเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายมาพบกัน ทางนายวัชระ ภาคอินทรีย์ ได้ทำทีขอทดลองขับอีกครั้ง ส่วนนายสมชาย ทัศนาธร ได้ยืนรอที่ริมทางและดูต้นทางการหลบหนีให้ด้วย และเมื่อขับรถไปได้สักระยะ นายวัชระ ภาคอินทรีย์ กลับอ้างว่ารถมีเสียงดังให้นายอมรณัฏฐ์ วงศ์ราธา ลงไปดู เมื่อนายอมรณัฎฐ์ เปิดประตูจะลงไปก็ถูกนายวัชระ ภาคอินทรีย์ ถีบออกจากรถ พร้อมชักอาวุธปืนขึ้นมาขู่จะยิงหากต่อสู้แล้วนายวัชระ ภาคอินทรีย์ ก็ได้ขับรถหนีไปโดยมีนายสมชาย ทัศนาธร ขับรถตามไปด้วยกัน
 
          จากนั้นคนร้ายได้นำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่หมู่บ้าน เอซี เฮ้าส์ คลอง 4 และได้ติดต่อขายรถคันดังกล่าวให้กับชาวพม่าในราคา 200,000 บาท โดยมอบหมายให้นายโสธร หรือหนุ่ย ทรัพย์ล้น อายุ 44 ปี และนายบิล ไม่ทราบนามสกุล อายุ 45 ปี สัญชาติ/เชื้อชาติพม่า  เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ไปส่งให้ลูกค้าชาวพม่า ที่อำเภอแม่สอด จ .ตาก โดยมีนายบิลฯ ชาวพม่า เป็นผู้ประสานงานและทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปรับนายโสธรฯ กลับหลังจากส่งรถยนต์และรับเงินจากลูกค้าชาวพม่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
          ภายหลังเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แกะรอยจนทราบเบาะแสจึงออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำการก่อเหตุชิงทรัพย์ได้ทั้งหมด ส่วนรถยนต์กระบะลูกค้าชาวพม่าได้ขับข้ามไปยังฝั่งพม่าแล้ว