
ตำรวจหญิงนครบาลเชิดเงินนอกระบบหนี
"ตำรวจหญิง"สหกรณ์ออมทรัพย์นครบาล เชิดเงินนอกระบบ 50 ล้านบาท ระดมจาก "บิ๊กตำรวจ- นายทุนใหญ่" หนีลอยนวล ด้าน โฆษกนครบาล แจงเงินสหกรณ์ บช.น.ยังอยู่ครบ 50 ล้านบาทที่ฉ้อโกง ไม่มีเอี่ยวเงินกู้ออมทรัพย์
(14พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ยศ ด.ต.นายหนึ่ง สังกัดสหกรณ์ออมทรัพย์กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทั่วไปได้หายตัวไปโดยขาดราชการนานกว่า 3 สัปดาห์ กระทั่งเรื่องแดงขึ้นภายหลังว่า ด.ต.หญิงนายนี้ได้เชิดเงินกว่า 50 ล้านบาทที่มีการระดมทุนจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาลและบุคคลที่มีฐานะการเงินเข้ามาปล่อยกู้นอกระบบให้ตำรวจชั้นผู้น้อยและสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์นครบาล
โดยสอบถามตำรวจที่มากู้เงินสหกรณ์ว่า ใครต้องการที่จะได้เงินก่อนสามารถสำรองจ่ายให้ก่อนได้โดยคิดร้อยละ 20 ซึ่งที่ผ่านมามีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์หลงเชื่อนำเงินบริการนอกระบบนี้ไปใช้ก่อนไม่รอถึงวันที่มีการอนุมัติตามระบบราชการและดอกเบี้ยส่วนหนึ่งก็จะนำมาจ่ายให้กับนายทุน ที่ผ่านมาผู้รับต่างก็ได้ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยในส่วนนี้จำนวนมหาศาลรวมถึง ด.ต.หญิงคนนี้ด้วย มีการดำเนินการลักษณะนี้มากว่า 10 ปีโดยไม่มีท่าทีหนีหายไปแต่อย่างใด แต่เมื่อ ด.ต.หญิงรายนี้หายตัวไปพร้อมเงินหมุนเวียนนอกระบบสูงกว่า 50 ล้านบาทต่างก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียดและยังไม่มีใครออกมาแสดงตัวกล้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวอยู่
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. (บร 1) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องการโกงเงินสหกรณ์ มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในสหกรณ์บางคนที่หากินด้วยการสอบถามตำรวจบางคนที่มากู้เงินสหกรณ์ว่า ใครต้องการที่จะได้เงินก่อน ซึ่งเป็นเงินนอกระบบสามารถที่จะสำรองจ่ายให้ได้ก่อน มีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์แล้วหลงไปใช้บริการนอกระบบนั้นเพราะจะได้เงินเร็วขึ้น ทางสหกรณ์ได้ชี้แจงปัญหาดังกล่าวแก่สมาชิกฯแล้ว และพบว่า ขณะนี้สมาชิกไม่มีใครเดือดร้อน ใครกู้ปุ๊บก็ได้ปั๊บ ทำให้ไปตัดวงจรเงินนอกระบบนั้น เขาไม่สามารถที่จะหมุนเงินตรงนั้นได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้เห็นกันเฉพาะสมาชิกคนนั้นกับเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์บางคน ที่ยอมจ่ายเงินลักษณะค่าปากถุงกันเอง ไม่เกี่ยวกับสหกรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว ระบบสหกรณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังมั่นคงดีไม่มีปัญหา
"กรณีที่ระบุว่ามีการโกงเงินกันมากจำนวนถึง 50 ล้านบาทนั้น เชื่อว่าน่าจะมีลักษณะนายทุนเข้ามาหาประโยชน์โดยการให้สมาชิกกู้ยืมมากกว่า ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สหกรณ์เองไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนั้น นายทุนที่มีเงินติดต่อรู้จักกับเจ้าหน้าที่บางคน เอาเงินมาให้ช่วยปล่อยหาสมาชิก บางคนที่ต้องการเงินเร็ว ๆ ก็เอา โดยยินยอมจ่ายเงินปากถุงหรือดอกสูงกว่าสหกรณ์ สำหรับการที่จะดำเนินการขั้นวินัยก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้มาร้องเรียนเอาโทษเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่กระทำดังกล่าวเพียงใด เราจะต้องมีพยานมายืนยันเอาผิดด้วย" รอง ผบช.น. กล่าว