ข่าว

บช.น.หิ้วผู้ต้องหายิงวิศวกรซีพีทำแผน

บช.น.หิ้วผู้ต้องหายิงวิศวกรซีพีทำแผน

28 เม.ย. 2555

ตำรวจนครบาล ควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อคดียิงวิศวกรซีพีเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

                     28 เม.ย.55 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.พรชัย ไทยแท้ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกร ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผกก.สส.บก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 ควบคุมตัว นายประเสริฐ ช่วยชนะ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 47/3 หมู่ 1 ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.384/2555 ลงวันที่ 17 เม.ย.2555 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายจิรโรจน์ รักษ์วงศ์วาน อายุ 30 ปี วิศวกรบริษัทซีพี เสียชีวิต และ นายนัฎพล รัตนะ อายุ 31 ได้รับบาดเจ็บ ขณะนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-685 กทม.บริเวณปากซอยรัชดาภิเษกซอย 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิด

                     โดยจุดแรกภายในร้านสปูน หลังจากผู้ต้องหาและกลุ่มผู้ตายกลับจากเที่ยวที่ร้านฮอลลีวูด ก็ได้ออกมานั่งกินข้าวต้มกันที่ร้านสปูน ระหว่างที่นั่งกินกันอยู่นั้น ผู้ตายก็ได้มาพูดคุยและชักชวนให้ผู้ต้องหาดื่มเหล้า พร้อมทั้งเอามือลูบหัวผู้ต้องหา จนผู้ต้องหาเกิดความไม่พอใจ จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเสียชีวิต บริเวณปากซอยรัชดาซอย 6 ภายหลังผู้ตายพร้อมเพื่อนได้ขึ้นแท็กซี่ออกมาจากร้านมาถึงปากซอยรัชดาซอย 6 ผู้ต้องหาก็ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ญภ-3006 กทม.ตามมาปาดหน้ารถแท็กซี่ จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้เดินลงจากรถมาเปิดประตูรถแท็กซี่ด้านหลังซ้ายฝั่งที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บนั่ง พร้อมกับพูดว่า "น้องๆ เดี๋ยวพี่จะไปส่ง" ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด .45 มม.ยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บ แล้วหลบหนีไป

                     จุดที่ 3 ภายในซอยลาดพร้าว 130 หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถนำปืนที่ก่อเหตุไปซุกซ่อนไว้หลังโรงแรมรอยัลพิมาน ภายในซอยลาดพร้าว 130 และนำรถยนต์ไปฝากไว้กับ นายสายัญ หรือดำ ไม่ทราบนามสกุล แล้วหลบหนีไปกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่ง สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

                     ผู้สื่อข่างรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหา จากการตรวจสอบประวัติพบว่า มีประวัติต้องโทษถูกจับกุมในคดียาเสพติด พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กรัม และยาอี 60 เม็ด ถูกศาลจังหวัดสุราษฏร์ธานี ตัดสินจำคุก 5 ปี ปรับ 200,000 บาท พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.54 ก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว