
บุกคุกนครศรีฯซ้ำ!ยึดมือถือ-ไอซ์อีกเพียบ
นรกแตก!!ตร.บุกคุกนครศรีซ้ำค้นแดน 5,6 ยึดมือถือล็อตใหม่โผล่อีก 52 เครื่องยาไอซ์มูลค่านับล้าน-ยาบ้า-ฝิ่นดิบครบสูตรจับนักโทษตรวจปัสสาวะม่วงกว่า 600 ราย ด้าน'ผบ.เรือนจำ'มีคำสั่งให้ 14 ผู้คุมเป้าหมายค้นบ้าน ให้ปฎิบัติหน้าที่นอกเรือนจำ ห้ามเข้าเขตควบคุมนักโทษ
24 เม.ย.55 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่อีกหลายส่วนได้ปฏิบัติการเปิดยุทธการครั้งใหญ่เข้าตรวจค้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จนสามารถตรวจยึดสิ่งของต้องห้าม ยาเสพติด โทรศัพท์มือถือหลากหลายยี่ห้อ แทปเล็ต อีกหลายเครื่อง และได้เร่งสอบสวนสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องตามข่าวที่ได้เสนอไปเป็นลำดับแล้วนั้น
ความคืบล่าสุด หลังจากที่ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยคอมมานโดราชทัณฑ์ รวมกว่า 300 นาย ได้ตลบหลังบุกเข้าทำการตรวจค้นเรือนจำนครศรีธรรมราช อีกครั้ง และจับนักโทษตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด โดยมีเป้าหมายในแดน 5 และ 6 ซึ่งเป็นแดนที่มีขบวนการค้ายาเสพติด รวมทั้งเป็นแดนที่มีอัตราระวางโทษสูง โดยได้เข้าปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา และต่อเนื่องไปเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 02.30 น.ของวันที่ 24 เม.ย.55 ซึ่งเป็นการตรวจค้นและตรวจปัสสาวะอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 ชั่วโมง โดยผลที่ออกมายิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตกตะลึง
ทั้งนี้ โดยช่วงเช้าของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำการสรุปผลการปฏิบัติการใน รอบที่ 2 พบว่า มีการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟนรวม 52 เครื่อง โดยในจำนวนนี้มีไอโฟนเป็นจำนวนนับสิบเครื่อง ยาไอซ์ถุงใหญ่ น้ำหนักกว่า 100 กรัม ยาบ้าถูกอัดไว้ในกรอบพระเครื่อง ฝิ่นดิบน้ำหนักประมาณ 50 กรัม และได้ทำการตรวจปัสสาวะนักโทษในแดน 6 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูง มีนักโทษรวม 1,282 ราย พบมีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 596 ราย ในแดน 5 มีนักโทษ 1,266 ราย ตรวจไปได้แค่ 89 รายอุปกรณ์การตรวจหมด ซึ่งในจำนวน 89 รายนั้นพบว่าเสพยาเสพติดถึง 59 ราย รวมมีนักโทษที่ต้องถูกดำเนินคดีเรื่องเสพยาเสพติดในเรือจำถึง 655 ราย ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช จากการประมาณการตัวเลขนั้นแม้ว่าเราจะตรวจได้ไม่หมดเนื่องจากอุปกรณ์ตรวจนั้นหมดลงพบว่ามีนักโทษกว่า 50 เปอร์เซ็นที่เสพยา แต่ที่สำคัญในแดน 6 นั้น เราพบโทรศัพท์อีก 34 เครื่อง ซิมโทรศัพท์อีกจำนวนมาก แดน 5 พบ 18 เครื่องยาไอซ์ 1 ถุงใหญ่ มีมูลค่าในเรือนจำนับล้านบาท ล็อตนี้เป็นล็อตที่เข้าไปประมาณ 1 กก.หลังจากนี้กำลังขยายผลทุกด้านที่ทำได้ต้องแกะโทรศัพท์ทั้งหมดกว่า 300 เครื่องที่ได้มาแล้ว เราเน้นเรื่องนี้เพราะเป็นเครื่องมือในขบวนการค้ายาและขบวนการนำเข้าสิ่งของต้องห้าม เราขยายได้ขบวนการนี้ตัวใหญ่ได้ 1 ขบวนการเป็นตัวใหญ่รอที่จะกระชากหน้ากากบุคคลภายนอก จะขอหมายจับไปยังเลขาธิการ ปปส.เมื่อออกหมายจับแล้วจะได้ดำเนินการต่อ
“เจ้าหน้าที่ชุดแรกที่จะต้องถูกดำเนินการก่อนนั้นอย่างน้อยมี 3 คนขึ้นไป ขณะนี้เห็นใจท่านอธิบดีที่มาใหม่แต่ได้นำเสนอไปแล้วคือน่าจะดึงส่วนราชการอื่นๆเข้าไปช่วยเช่นดีเอสไอ หรือ สตช.สืบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องการปิดล้อมเรือนจำที่ผ่านมายึดโทรศัพท์เฉยมาแล้วไม่เกิดประโยชน์ จริงๆแล้วต้องดำเนินคดีทุกคดีที่เกี่ยวข้อง วานนี้ส่งไปแล้วถึง 80 คดี นักโทษที่กำลังกลัวคือการถูกลดชั้นที่จะมีผลต่ออภัยโทษ ซึ่งเรือนจำต้องเร่งดำเนินการ หากไม่ดำเนินการอาจถือว่าเป็นการละเว้น”พล.ต.ต.รณพงศ์ กล่าว
ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าขบวนการค้ายารายใหญ่ๆในภาคใต้ที่มีเชื่อมโยงกับเรือนจำนครศรีธรรมราช กำลังปั่นป่วนเนื่องจากนักโทษที่เป็นผู้บริหารจัดการไม่สามารถบริหารได้ ไม่สามารถแจ้งการส่งของ การโอนเงินได้เหมือนเคย เนื่องจากถูกยึดโทรศัพท์ไปเป็นจำนวนมาก ตัวใหญ่ๆในเรือนจำขณะนี้ไม่มีเครื่องใช้ นักโทษที่ยังซุกซ่อนหลงเหลืออยู่ก็ปิดเงียบต่างคนต่างไม่รู้กันว่าของใครยังมีอยู่บ้าง
ขณะที่ ชุดสืบสวนรายหนึ่งเปิดเผยว่าโทรศัพท์หลายเครื่องที่พบนั้นเป็นโทรศัพท์ที่เข้าไปใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่ค้นเสร็จในรอบแรก หลังจากนั้นถูกส่งเข้ามาอีก หลายเครื่องยังใหม่เอี่ยมเข้าไปทางประตูหน้า และบางเครื่องถูกซุกซ่อนหลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่จากการค้นรอบแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่บางรายยังคงทำตัวเป็นตัวการหรือสนับสนุนขบวนการค้ายาเสพติด และการนำของต้องห้ามเข้าไปขายในเรือนจำอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เชื่อว่าหลังจากนี้จะต้องหลุดพ้นไปจากการเป็นข้าราชการแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับปฏิบัติการรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ เปิดใจว่า เรือนจำนครศรีธรรมราช เละมานานมากแล้วคนที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องนิ่งเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผู้คุมนอกรีตก็กอบโกยสร้างความร่ำรวยกันไป ที่พลาดก็มีถูกตั้งกรรมการสอบสวนบางรายถูกให้ออก บางรายก็กลับมาทำงานตามปกติไม่ได้สนใจ บางคนสามารถซื้อสวนยางได้กว่า 200 ไร่ในต่างจังหวัด มีฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงขับทั้งที่ข้าราชการราชทัณฑ์ระดับปฏิบัติการนั้นมีเงินเดือนไม่กี่หมื่นรวมค่าเสี่ยงภัยในเรือนจำและค่าเวรแล้วหากไปผ่อนฟอร์จูนเนอร์ ค่าใช้จ่ายอื่นๆคงไม่เพียงพอ ที่มาของเงินพวกนี้จะมีการส่งมาจากเครือข่ายของนักโทษบ้างจ่ายเป็นเงินสด ที่กล้าหน่อยก็จะโอนเข้าบัญชี และเป็นบัญชีที่ไม่ใช่ชื่อของเจ้าตัว เป็นค่าอำนวยความสะดวกให้กับนักโทษโดยเฉพาะนักโทษประเภทค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆที่อยู่กันอย่างสุขสบายมีลูกน้องทั้งเป็นผู้คุมและเป็นคนภายนอกคอยเป็นมือเป็นไม้
“เชื่อหรือไม่ว่าคนภายนอกที่คอยประสานงานนั้นได้รับรางวัลค่าประสานงานเป็นรถเก๋งป้ายแดงแบบฟรีๆ ส่วนผู้ต้องขังทั้งหลายที่อยู่ในเรือนจำนั้นหากเป็นผู้ต้องขังในคดีลักเล็กขโมยน้อย คดีเสพยาเสพติด หรือคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งหลายนั้นกว่า 90 เปอร์เซ็นเรือนจำไม่ได้เป็นแหล่งดัดนิสัยให้คนเหล่านี้เป็นคนดี แต่กลับกลายเป็นว่าเรือนจำคือเป็นเหมือนวิทยาลัยเพาะบ่มเรียนรู้ให้เป็นโจรที่เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น หรือหากเป็นผู้เสพยา หรือจำหน่ายยาเสพติดรายย่อยเมื่อออกไปแล้วจะกลายเป็นรายใหญ่มากขึ้น หรือมือปืน นักฆ่าทั้งหลายที่มีความโหดเหี้ยมอยู่ในตัวจะผันตัวเองเป็นนักค้ายาที่ติดอาวุธร้ายแรงมากขึ้น” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายนี้กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายณรงค์ ยงค์ณรงเดชกุล ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้ลงนามคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จำนวน 14 รายซึ่งเป็นเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักและธุรกิจที่ต้องสงสัย ให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเรือนจำโดยห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาดและห้ามเข้าไปในเขตแดนควบคุมนักโทษโดยเด็ดขาดโดยคำสั่งให้มีผลทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้ง 14 รายนั้นอยู่ในสภาพที่มีอาการเคร่งเครียด