
บรรจุพระสรีรางคาร'เจ้าฟ้า'12เม.ย.
สุสานหลวงวัดราชบพิธฯพร้อมสมบูรณ์ในพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ 12 เม.ย.นี้ เปิดให้ประชาชนชื่นชมความงดงามพระเมรุ ระหว่าง11-17 เม.ย.2555
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯมอบหมายให้อาตมาเป็นผู้ทำหน้าที่ประสานงานในการจัดพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารกับทางสำนักพระราชวัง รวมทั้งให้ดูแลความเรียบร้อยในการจัดสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในวันที่ 12 เมษายน เวลา 16.30 น. ณ เสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ เพื่อเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ ทรงประกอบพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคาร
ในการนี้ เจ้าหน้าที่วัดรวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เข้ามาจัดตกแต่งสวนและทางเดินภายในสุสานหลวง อีกทั้งให้ช่างทาสีตกแต่งพระเจดีย์และพระปรางค์รอบสุสานหลวงให้สวยงาม โดยเฉพาะเสาวภาประดิษฐานซึ่งใช้เป็นที่บรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้รับการบูรณะตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอย่างสวยงามสมพระเกียรติยิ่ง นอกจากนี้ บริเวณรั้ววัดราชบพิธฯ มีเจ้าหน้าที่คอยประดับตกแต่งพู่ห้อยระย้าสีขาวดำ แขวนไว้รอบวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนบริเวณด้านประตูทางเข้าวัดราชบพิธฯ ฝั่งถนนราชบพิธ และพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ ทำความสะอาดและจัดตกแต่งเป็นอย่างดี
สำหรับความพร้อมในพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ถือว่าเตรียมความพร้อมเกือบเสร็จสมบูรณ์น่าพอใจ เหลือเพียงแค่การจัดตกแต่งสวนภายในสุสานหลวงให้เรียบร้อยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยนำพันธุ์ไม้สวยงามเข้ามาประดับตกแต่งโดยรอบ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ไม้สีส้มแสด เป็นสีทรงโปรดของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ส่วนบริเวณรอบเสาวภาประดิษฐานสุสานหลวง สถานที่ที่ใช้เป็นที่บรรจุพระสรีรางคาร ก็เตรียมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยภายในอนุสรณ์สถานแห่งนี้ เป็นที่บรรจุพระราชสรีรางคารและพระอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระราชโอรส-พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งพระประยูรญาติแห่งราชสกุลจักรพงษ์และราชสกุลจุฑาธุช นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ประจำพระชนมวารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ประดิษฐานประจำแท่นพระข้างที่บรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ในอนุสรณ์สถานเสาวภาประดิษฐาน
พระพรหมมุนี กล่าวต่ออีกว่า ในการนี้ วัดราชบพิธฯได้จัดพิมพ์หนังสือ "ศีวิชัยชาดก" พระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงผนวช โดยจะพิมพ์บทพระนิพนธ์ ‘ศีวิชัยชาดก’ แจกให้ผู้ที่มาร่วมงานเป็นอนุสรณ์ที่ระลึกในงานพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ อีกด้วย
เปิดชมความงดงามพระเมรุ11-17 เม.ย.
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากนี้กรมศิลปากรและสำนักนายกรัฐมนตรี จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมความงดงามพระเมรุ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2555 ตั้งแต่เเวลา 9.00-19.00 น. ทั้งนี้หลังปิดการเข้าชมพระเมรุ ทางกรมศิลปากรจะเปิดไฟรอบพระเมรุ จนถึงเวลา 22.00 น.เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางสัญจรผ่านไปมายังสามารถถ่ายรูปและชมพระเมรุจากรอบพระเมรุได้
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า ทางกรมศิลปากรจะจัดวิทยากร มาบรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดสร้างพระเมรุและเครื่องประกอบพระเมรุ ให้กับประชาชนที่เข้าชมวันละ 5 รอบ แบ่งเป็นช่วงเช้า 2 รอบ ช่วงบ่าย 3 รอบ อย่างไรก็ตามสำนักนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้บริหารจัดการดูแลเข้าชมทั้งหมด ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะส่งตำรวจเข้ามาดูแลความเรียบร้อยตลอดการเปิดให้ชมพระเมรุ
“ฝากไปยังประชาชนที่จะเข้าชมพระเมรุ ขอให้แต่งกายสุภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ด้วย” นางโสมสุดา กล่าวในที่สุด