
สื่อมวลชนคนดี&พีอาร์ที่น่ารัก
สื่อมวลชนคนดี & พีอาร์ที่น่ารัก : คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : โดย ... พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
ยุคปัจจุบันนี้เวลาที่มีงานแถลงข่าวแต่ละครั้ง จะพบเห็นสื่อมวลชนจำนวนมากถึงขนาดที่เรียกกันว่าเป็นกองทัพสื่อมวลชนก็ว่าได้ ความแตกต่างหลากหลายทั้งจากกฎระเบียบขององค์กร ทั้งจากความต่างของความคิดที่เสรี ไม่ขึ้นตรงต่อกันและกันตามวิถีชีวิตของคนทำสื่อ ทำให้ภาพของสื่อมวลชนในยุคปัจจุบัน ยากที่จะจำแนกได้ว่าแตกต่างจากแขกที่มาร่วมงานคนอื่นๆ อย่างไร
ภาพของสื่อมวลชนหญิงสาววัยรุ่นใส่กางเกงขาสั้นกุดมาร่วมงานแถลงข่าว แต่แต่งตัวราวกับกำลังจะไปเดินตามห้างมีให้เห็นมากครั้งขึ้น ภาพของสื่อมวลชนชายสวมใส่กางเกงขาสั้นหรือสวมกางเกงแบบชาวเล เดินไปรอถ่ายภาพด้านหน้าเวทีแถลงข่าวก็มีให้เห็นทุกครั้งเช่นกัน
ซึ่งหากจะถามกันว่าการแต่งกายแบบนี้มีข้อห้ามไว้อย่างไร ก็ต้องตอบกันจริงๆ ว่าไม่มีข้อห้ามที่ชัดเจน แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาททางสังคม เพราะสื่อมวลชนมักจะเรียกร้องให้สังคมยอมรับในเกียรติของความเป็นฐานันดรที่สี่ ซึ่งก็มักจะได้รับเกียรติอันดีจากผู้จัดงานอยู่ตลอดมา แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าเกียรติที่แต่ละคนจะได้มานั้น ย่อมอยู่ที่ตัวตนของเราว่าได้ให้เกียรติแก่ตัวเองและสถานที่เพียงพอหรือไม่
การแต่งกายที่สุภาพและให้เกียรติสมัยนี้ ผมไม่ได้หมายความว่าต้องถึงขนาดผูกไทใส่สูทไปงานแถลงข่าว แต่ขอให้เป็นกางเกงขายาวจะเป็นกางเกงยีนก็ยังรับได้ เสื้อยืดก็ถือว่าสมัยนี้เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น แต่รองเท้าอย่างน้อยก็ควรจะเป็นรองเท้าผ้าใบเอาไว้ก่อน ยกเว้นแต่เป็นงานที่ต้องออกภาคสนามนั่นก็เป็นอีกวาระหนึ่ง ที่จะแต่งตัวตามสบายอย่างไรก็ได้
ในขณะเดียวกันสำหรับสุภาพสตรีการสวมกางเกงขายาว สมัยนี้ก็ถือว่าเป็นเครื่องแต่งกายที่สุภาพใช้ได้ หรือหากเป็นเครื่องแต่งกายของรายการโทรทัศน์ที่มีรูปแบบรายการเฉพาะตัว เช่น รายการวัยรุ่นแบบสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก อันนั้นก็ถือว่าอยู่ในข้อยกเว้นได้สำหรับการแต่งกายที่ต้องไปตามแนวคิดของรายการ แต่ประเภทรองเท้าแตะกางเกงขาสั้นกุดนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเสียดีกว่า
ส่วนทางด้านของพีอาร์ ยุคสมัยนี้ก็มีวิธีคิดที่ค่อนข้างแหวกแนวมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่ามีสื่อเกิดขึ้นจำนวนมากและสื่อบางรายก็กลายสถานะ หรือมีสถานะเป็นเพื่อนคุ้นเคยกันมาจากสถานศึกษา ทำให้การรักษาระยะห่างของสัมพันธภาพระหว่างสื่อต่างๆ ทำได้ยากมากขึ้น แต่เรื่องที่สำคัญคือวิธีการคิดเกี่ยวกับเนื้องาน
พีอาร์จำนวนมากเมื่อต้องจัดงานแถลงข่าวให้ลูกค้าหรือองค์กรของตนเอง มักจะนิยมการเหวี่ยงแหเชิญสื่อเท่าที่มีอยู่ในประเทศนี้มาให้หมด เพราะเชื่อในความคิดว่าความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของงาน วัดได้จากจำนวนคนและจำนวนของสื่อที่มาร่วมงาน
แต่เมื่อมีสื่อมาร่วมงานจำนวนมากกลับไม่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ของชำร่วยหรือแม้แต่ข่าวที่ต้องมีไว้เพื่อแจกให้แก่สื่ออย่างพอเพียงกลับมีไม่พอ ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันกับสื่อต่างๆ หลายครั้ง ถ้าข่าวไม่พอแจกก็มีปัญหากับสื่อตัวจริงที่ต้องการมาทำงาน ของชำร่วยไม่พอแจกก็เกิดกระทบกันกับสื่อแอบแฝง ที่ต้องการของแจกตามงานและเป็นสื่อที่ พีอาร์ เชิญมาเองด้วยซ้ำ
อีกทั้งยังมีหลายงานที่แม้แต่ที่นั่งของสื่อเพื่อฟังการแถลงข่าวจัดไว้ไม่พอ อาหารน้ำดื่มไม่พอกับจำนวนคนที่มาร่วมงาน นั่นหมายความว่าตอนที่เหวี่ยงแหเชิญออกไปนั้น ไม่ได้คิดว่าจะมีคนตอบรับมากมายอย่างที่เห็น หรือมีการเตรียมการน้อยเกินไปสำหรับการทำงาน ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องเป็นอย่างยิ่งในการทำงานของพีอาร์เอง
ขมๆ นั่นละคือน้ำตาลที่หวานชโลมใจ หวานๆ ต่างหากที่เป็นบอระเพ็ดอันขมติดคอ ข้อเขียนของผมวันนี้ไม่มีเจตนาที่จะกล่าวร้ายว่าใคร เพียงแต่ในโอกาสที่ใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์อย่างนี้ ก็อยากจะเอาข้อความขมๆ มาให้ทั้งสื่อมวลชนคนดี และพีอาร์ ที่น่ารัก ได้อ่านกันพอเป็นสังเขปบ้าง หลังจากอ่านจบแล้วจะโกรธจะเกลียดผมก็ไม่ว่า ส่วนผมเองนั้นที่ชอบสวมสูทผูกไทไปงานแถลงข่าว ก็เพราะว่ามีสูทราคาถูกที่ซื้อมาจากประเทศจีน ยังรอการสวมใส่อยู่ในตู้เสื้อผ้าอีกมากเท่านั้นเองครับ
----------
(หมายเหตุ : สื่อมวลชนคนดี & พีอาร์ที่น่ารัก : คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : โดย ... พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ)
----------