ข่าว

พิธีกรรมพิธีการพิธีเกิน

พิธีกรรมพิธีการพิธีเกิน

09 เม.ย. 2555

พิธีกรรม พิธีการ พิธีเกิน : วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล

                 มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ชีวิตของคนไทยทั่วไปวุ่นวายอยู่กับ 3 เรื่องใหญ่ๆ นั่นคือ พิธีกรรม พิธีการและพิธีเกิน พิธีแรกคือ พิธีกรรม เป็นเรื่องของลัทธิ ศาสนา และความเชื่อ พิธีที่สอง คือ พิธีการ เป็นเรื่องของแบบธรรมเนียม ขนบทางสังคม หรือวิธีปฏิบัติ ส่วนพิธีสุดท้าย เป็นพิธีที่งอกเงยขึ้นมาในภายหลังตามความคิดความนิยมของคนไทย
   
              ลัทธิ และศาสนาต่างๆ มักมีพิธีกรรมของตน เพื่อสร้างศรัทธาปะสาทะแก่สาวกหรือศาสนิกชน เพื่อให้เกิดความเลื่อมใส และกำลังใจ พิธีกรรมเหล่านี้มีตั้งแต่การบูชาด้วยดอกไม้และเครื่องหอม การบูชาด้วยอาหารและสิ่งของต่างๆ รวมถึงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ และผู้บูชาจะได้รับการตอบสนองจากนักบวชหรือผู้ทรงศีลในลัทธิและศาสนานั้นๆ ด้วยการสวดมนต์อวยพร หรือการให้วัตถุมงคล นอกจากพิธีกรรมทางลัทธิศาสนาแล้ว ก็ยังมีความเชื่ออื่นๆ อาทิ ความเชื่อในเรื่องภูตผีปีศาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร และเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ ซึ่งนำไปสู่การประกอบพิธีกรรมเพื่อให้สิ่งที่ตนเชื่อให้ความเมตตา หรือดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ
   
              ส่วนพิธีการนั้น เป็นเรื่องทางสังคม และแบบธรรมเนียมที่นิยมปฏิบัติสืบต่อกันมา แต่เดิมพิธีการนั้นมักจะใช้กันในราชสำนัก หรือพระราชพิธี งานพิธีของรัฐบาล หรือวงการทูต ต่อมาได้กลายเป็นส่วนสำคัญในงานพิธีต่างๆ ทั้งราชการและเอกชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของงาน และเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ร่วมงาน
       
              สำหรับพิธีเกิน เป็นสิ่งที่เกิดจากจริตของคนไทยโดยตรงที่ชอบทำอะไรที่ใหญ่โตวิจิตรพิสดาร และผสมปนเปแบบรวมมิตรตามใจชอบของตน โดยไม่คำนึงถึงที่มาที่ไป รากฐานทางวัฒนธรรม หรือความสัมพันธ์ของสิ่งที่นำมารวมกัน พิธีเกินที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่ง ก็คืองานแต่งงานของคนไทยในยุคปัจจุบัน ที่ออกมาในรูปแบบของฝรั่งก็ไม่ใช่ไทยก็ไม่เชิง แถมบางงานยังมีประเพณีจีนอีกต่างหาก แต่ละงานที่นิยมจัดงานเลี้ยงกันตามโรงแรม และคู่บ่าวสาวจะต้องไปโพสท่าถ่ายรูปที่สตูดิโอ มีการทำวิดีโอพรีเซนเทชั่น บอกเล่าประวัติของบ่าวสาว โยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว ตัดเค้ก เป็นต้น จัดเป็นพิธีที่เกินมาจากประเพณีดั้งเดิมของไทย เป็นพิธีที่เกินความจำเป็น และเป็นพิธีที่สิ้นเปลืองเกินงบประมาณอย่างมากมาย แต่วิสัยคนไทยนั้น “เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า แต่เสียหน้ายอมไม่ได้” จึงทำให้พิธีเกิน กลายเป็นเรื่องของแฟชั่น เรื่องของการทำอะไรตามๆ กัน และเป็นเรื่องของหน้าตาไปแล้วครับ
   
              โดยส่วนตัว ผมคิดว่าโดยตัวของพิธีกรรมและพิธีการนั้น ยังไม่น่าจะมีปัญหาเท่ากับพิธีเกิน ทั้งนี้เพราะหลายต่อหลายเรื่องเป็นเรื่องเกินความจำเป็น และพิธีเกินก็เป็นเรื่องที่แก้ได้ยากลำบากที่สุด เพราะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล ไม่มีที่มาที่เป็นหลักเป็นฐาน มุ่งเน้นในเรื่องความฉูดฉาดหรือความยิ่งใหญ่อลังการ และก็เป็นพิธีที่สิ้นเปลืองทั้งทรัพยากร เวลาและเงินทองเป็นอย่างมาก และที่น่ากังวลยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือการนำพิธีเกินเข้าไปอยู่ในพิธีกรรมทางลัทธิ และศาสนา
   
              ลัทธิ และศาสนาสากลนั้น มีจุดประสงค์สำคัญประการหนึ่ง คือการนำพาคนให้พ้นจากความมืดบอด ความงมงาย และความหลงในทางที่ผิด ดังนั้นคำสอนและแนวทางปฏิบัติของลัทธิและศาสนา ที่ถูกต้อง คือการทำให้คนคืนสู่ความสงบความเรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติ ปราศจากเครื่องปรุงแต่งทั้งทางจิต ทางกาย และการกระทำ ซึ่งพิธีการต่างๆ ก็เป็นไปเพื่อความสุขสงบอันแท้จริง
   
              และถ้าเรายังมัวแต่ลุ่มหลงในพิธีเกิน ดวงตาก็คงจะพร่าพรายกับแสงสีอันตระการตา จนทำให้มองไม่เห็นธรรม และสัจธรรมได้หรอกครับ
............
              หมายเหตุ : ท้ายคอลัมน์วันนี้ ขอแจ้งข่าวรายการ “โลก และชีวิต กับประภัสสร เสวิกุล” รายการที่จะย่อโลก และย่อยเรื่องราวของชีวิต เพื่อแง่คิดและมุมมองที่แตกต่าง ทางสถานวิทยุศึกษา เอฟเอ็ม 92 เมกะเฮิรตซ์ ที่เปลี่ยนเวลาออกอากาศใหม่ มาเป็นทุกคืนวันพฤหัสบดี ตั้งแต่ 21.00-22.00 น. เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป
   
              สำหรับแฟนๆ รายการ “การเดินทางของความคิด” ก็ยังคงพบกับผมและคุณสรรเสริญ ปัญญาธิวงศ์ ได้ทุกคืนวันพุธ เวลา 21.00-22.00 น. ทางเอฟเอ็ม 96.5 อสมท เช่นเคยครับ