ข่าว

มะริด ทวาย ตะนาวศรี

มะริด ทวาย ตะนาวศรี

06 เม.ย. 2555

มะริด ทวาย ตะนาวศรี : วันเว้นวันจันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล

            พร้อมๆ กับพัฒนาการทางการเมืองในประเทศพม่าและการส่งสัญญาณการเปิดประเทศ นักลงทุนจากต่างประเทศก็พากันแสวงหาลู่ทางการลงทุนค้าขายในดินแดนแห่งนั้น และเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันมากก็คือท่าเรือน้ำลึกที่เมืองทวายซึ่งจะเป็นประตูการค้าที่สำคัญ
 
             ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของไทยกล่าวว่า อาณาจักรสุโขทัยมีอาณาเขตทางทิศตะวันตกจดอ่าวเบงกอลคือรวมถึงมะริด ทวาย ตะนาวศรี ส่วนจดมายเหตุราชทูตเปอร์เซียกล่าวว่า ตะนาวศรีเมืองอุดมสมบูรณ์ มีพลเมืองสยาม 5-6 พันครัว และมิชชั่นนารีที่เดินทางจากยุโรปเข้ามากรุงศรีอยุธยาก็บันทึกไว้ว่า มะริด และทวายขึ้นอยู่กับสยาม ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ให้ความสำคัญแก่เมืองมะริดเป็นอย่างมาก เพราะพ่อค้าจากอินเดียและยุโรปจะใช้มะริดเป็นท่าเทียบเรือเพื่อขนส่งสินค้า ด้วยผลประโยชน์ทางการค้า การเมือง และยุทธศาสตร์ ทำให้ไทยกับพม่าทำศึกเพื่อแย่งชิงมะริดไว้ในอำนาจ ใน พ.ศ.2302 ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอลองพญาได้ขึ้นครองเมืองหงสาวดี และยกกองทัพมาตีเมืองทวาย เมื่อได้ทวายแล้วก็ตีเมืองมะริด และตะนาวศรีด้วย ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ใน พ.ศ.2330 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ส่งกองทัพไปชิงเมืองตะนาวศรีคืนจากพม่าแต่ไม่สำเร็จ แต่ใน พ.ศ.2334 มะริด ทวาย และตะนาวศรี ก็มาขอขึ้นกับไทย
 
             ใน พ.ศ.2366 ช่วงปลายรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อังกฤษได้เข้ายึดหัวเมืองชายฝั่งทะเลของพม่า รวมทั้งมะริด ทะวาย และตะนาวศรี ซึ่งนับเป็นการเสียดินแดนครั้งที่สองของไทยในยุครัตนโกสินทร์ หลังจากเสียเกาะหมากแก่อังกฤษเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2329 ดังคำกลอนที่ว่า
        
             “เสียครั้งแรกเกาะหมากจากแผนผัง  เขาเปลี่ยนเป็นปีนังจำได้ไหม
 นั่นแหละจากขวานทองเล่มของไทย  หนึ่งร้อยกว่าตารางไมล์หลักฐานมี
 ครั้งที่สองเสียซ้ำยังจำได้        เสียมะริด ทวาย ตะนาวศรี
 ปีสองพันสามร้อยหกสิบหก โชคไม่ดี   เสียเนื้อที่กว่าสองหมื่นตารางไมล์...”
 
             และต่อมามีการปักปันเขตแดนบริเวณนั้นกันใน พ.ศ.2411 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยยึดแม่น้ำปากจั่นเป็นแนวเขต
 
             เมื่อพม่าได้เอกราชจากอังกฤษ มะริด ทวาย ตะนาวศรี และมะละแหม่ง ได้รับการจัดตั้งเป็นเขตรัฐมอญ เรียกว่าเขตตะนาวศรี หรือตานี้นตายี โดยมีเมืองทวายเป็นเมืองเอกในปลายปี พ.ศ.2553 บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามกรอบความตกลงกับกระทรวงคมนาคมพม่า เพื่อดำเนินการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย นิคมอุตสาหกรรม และเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ซึ่งจะมีการสร้างไฮเวย์จากทวายถึง จ.กาญจนบุรี ระยะทาง 160 กิโลเมตร อันจะทำให้สามารถเดินทางจากทวายถึงกรุงเทพฯ ภายในเวลา 4 ชั่วโมง และท่าเรือน้ำลึกทวายก็จะเป็นสะพานเชื่อมโยงเอเชียอาคเนย์กับตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา ทำให้ร่นระยะทางเดินเรือจากการที่ต้องผ่านช่องแคบมะละกาลงไปอย่างมาก รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอนุภาคแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-region : GMS) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้
 
             ถ้าจะพูดไปแล้ว มะริด ทวาย และตะนาวศรี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญมาแต่อดีตกาล โดยเฉพาะในด้านการค้า และยุทธศาสตร์ จนกลายเป็นชนวนสงครามระหว่างไทยกับพม่าหลายต่อหลายครั้ง แต่ปัจจุบันเมื่อโลกเปลี่ยนไป และสถานการณ์ทางการเมืองในพม่าเปลี่ยนไป มะริด ทวาย และตะนาวศรี ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ที่ไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะแต่ไทยและพม่า หากแต่มีความสำคัญต่อเอเชียอาคเนย์ และประชาคมโลก
 
             โดยรวมการคิดอะไรให้ไกลจากตัวเอง จากอดีต จากความขัดแย้ง และให้กว้างกว่าความเชื่อ ทิฐิมานะ และอคติย่อมยังประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นทั้งนั้นแหละครับ