ข่าว

ปรับ6พัน'โจอี้ บาซู'ยักยอกทรัพย์รถบีเอ็มฯ

ปรับ6พัน'โจอี้ บาซู'ยักยอกทรัพย์รถบีเอ็มฯ

05 เม.ย. 2555

ศาลปรับ 6 พัน คดี 'โจอี้ บาซูง คดียักยอกทรัพย์รถบีเอ็มฯ หลังไกล่เกลี่ยจ่าย 1.5 แสน

              เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 เม.ย.55  ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีหมายเลขดำ อ.244/2555 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรเดช ทับทิมใส หรือ โจอี้ บาซู อายุ 43 ปี อดีตนักร้องวงบาซู เป็นจำเลย ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.45 จำเลยได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถ BMW รุ่น 318 ไอ เอเอส อีราคา 2 ,633,177.52 บาท กับบริษัทซีทีไอ แอสเซทส์ ลิสซิ่ง จำกัด ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์ โดยมีนายวุฒิพงศ์ หรือ ณัฐวุฒิ ถนอมวงศ์ เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง โดยระหว่างที่จำเลยและนายวุฒิพงศ์ครอบครองรถนั้น ได้ร่วมกันเบียดบังเอารถไปจำหน่ายให้กับผู้อื่นโดยทุจริต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถและมอบคืนให้กับผู้เสียหาย เหตุเกิดที่เขตห้วยขวาง กทม.

              ทั้งนี้ โดยนัดนี้ โจอี้ บาซู นำเงินจำนวน 150,000 บาท มอบให้แก่ตัวแทนบริษัทผู้เสียหาย ต่อหน้าผู้พิพากษา ตามที่ทั้งสองฝ่ายประสงค์นำคดีเข้าศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธีกระทั่งสามารถเจรจายินยอมชดใช้เงินกันได้ โดยตัวแทนผู้รับมอบอำนาจบริษัทผู้เสียหาย แถลงไม่ติดใจเอาความ แต่ด้วยนโยบายของบริษัท ไม่อาจถอนคำร้องทุกข์ได้ ผลของคดีให้ศาลเป็นผู้พิจารณา 

              จากนั้นศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก ประกอบ มาตรา 83 ลงโทษปรับ 6,000 บาท จำเลยและผู้เสียหายนำคดีเข้าศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธี จำเลยยินยอมชดใช้เงินคืนให้ โดยผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ และคดีเป็นความผิดต่อส่วนตัวประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยจำนวน 3,000 บาท  

              ภายหลัง นายสุรเดช หรือโจอี้ กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนายักยอกรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู แต่ที่เป็นปัญหาเนื่องจากเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันรถ นำคันดังกล่าวไปขาย ทางบริษัท ไฟแนนซ์ จึงแจ้งความดำเนินคดีตน ภายหลังได้ติดตามกระทั่งสามารถนำรถกลับไปคืนบริษัทไฟแนนซ์ได้ ส่วนเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันหลบหนีไปไม่สามารถตามตัวได้ ต่อมาบริษัทนำรถขายทอดตลาด โดยบริษัทให้ตนชดใช้ค่าส่วนต่างรถจำนวน 350,000 บาท เมื่อเรื่องถึงชั้นศาล จึงมีการไกล่เกลี่ยให้ลดค่าเสียหายเหลือ 150,000 บาท ตนยินดีชดใช้ให้ ถือเสียว่าเป็นคราวเคราะห์