รถจีนเริ่มฟื้นไทยหวังส่งออกยางเพิ่ม"เครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์"สัญญาณดีออเดอร์เข้า | คมชัดลึก

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนเริ่มฟื้นตัวแล้ว จะส่งผลดีต่อการส่งออกยางพาราและการแปรรูปยางขั้นต้น เพื่อผลิตยางรถยนต์ของไทย เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้ายางพารารายใหญ่ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่ไทยส่งออกยางดิบ แต่หากมีการแปรรูปยางพาราสำหรับผลิตยางรถยนต์ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออก โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พยายามดึงนักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนแปรรูปยางพาราขั้นต้น เพื่อส่งออกเป็นวัตถุดิบผลิตยางรถยนต์ที่จีน 

 "ปัจจุบันไทยมีผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ได้มาตรฐานประมาณ 10 ราย ก็จะมีโอกาสส่งออกมากขึ้น ซึ่งยางรถยนต์เป็นสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ที่ไทยส่งออกมากที่สุดมูลค่าปีละราว 6 หมื่นล้านบาท" นายวัลลภกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย คงไม่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์จีน เนื่องจากราคาชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยสูงกว่าชิ้นส่วนที่ผลิตในจีน รวมทั้งไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปที่ผลิตจากไทยไปจีน

 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.กำลังติดตามความคืบหน้าการกำหนดแนวทางการค้ำประกันเงินดาวน์ของกระทรวงการคลัง ซึ่งครม.เศรษฐกิจมีมติเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ให้กระทรวงการคลังไปกำหนดรูปแบบดังกล่าว ผู้ประกอบการยานยนต์ต้องการให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวออกมาเร็ว เพื่อกระตุ้นยอดขายของรถยนต์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้มีการเพิ่มเงินดาวน์จาก 5% เป็น 20-25% ถ้าภายในเดือนพฤษภาคม 2552 ไม่มีความคืบหน้าก็อาจทำหนังสือทวงถามหรือเข้าพบเพื่อสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง

 ขณะที่ในส่วนของการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ ก็ส่อสัญญาณฟื้นตัวเช่นกัน โดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า โตชิบาได้รับอานิสงส์จากการที่บริษัทแม่ปิดโรงงานในบางประเทศ และมีการเทออเดอร์มาที่ประเทศไทย ทำให้ยอดการส่งออกของโตชิบาไม่ลดลงมาก อย่างที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้น

 แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้มีคำสั่งซื้อเริ่มกลับมาเกือบทุกรายการ เฉลี่ยกลับมา 80% ของการส่งออกในอดีต อาทิ ไมโครเวฟ ที่ส่วนใหญ่ส่งออกไปรัสเซีย ขณะนี้การสั่งซื้อก็กลับมาเกือบปกติแล้ว ขณะที่ในแถบอาเซียนกระเตื้องขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การสั่งซื้อยังไม่กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์เสียทีเดียว อยู่ที่ 80% แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี