ข่าว

'ปึ้ง'ปัดไม่รู้'แม้ว'ไปลาว-กัมพูชา

'ปึ้ง'ปัดไม่รู้'แม้ว'ไปลาว-กัมพูชา

30 มี.ค. 2555

"สุรพงษ์" รัฐมนตรีต่างประเทศ ปัดไม่รู้ "ทักษิณ" ไปลาว-กัมพูชา วอนทุกฝ่ายอย่าขุดคุ้ยเรื่องเก่า เล็งถามกัมพูชา คืบหน้าช่วย "วีระ-ราตรี"

          วันที่ 30 มี.ค.55  นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปสปป.ลาว และกัมพูชา ระหว่างวันที่ 11-14 เม.ย.นี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมดา แต่ส่วนตัวไม่ได้พูดคุย ตนทราบเรื่องจากสื่อเช่นกัน ทั้งนี้คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ ซึ่งครั้งที่แล้วที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มากัมพูชา ปรากฎว่าก็เป็นเพียงแค่มาเยี่ยมอาการป่วยของบิดาสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบรายละเอียดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดการจะทำอย่างไรบ้าง
 
          ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้หาคนกลางเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้พูดคุยกัน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มาถึงวันนี้ เชื่อว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย อยากให้ทุกฝ่ายยุติเลิกพูดสิ่งที่ผ่านมา เลิกพูดถึงอดีต ให้มองอนาคต สิ่งไหนไม่ดี ก็ต้องข้ามไป เดินไปข้างหน้า เวลานี้เมื่อตนเดินทางไปต่างประเทศ ประเทศต่างๆไม่สนใจถามเรื่องอดีตแล้ว ถามแต่ปัจจุบันและอนาคตว่าจะเดินต่อไปอย่างไร จึงอยากให้ทุกอย่างเลิกรากันได้แล้ว และอยากเรียกร้องทุกฝ่ายไม่ต้องขุดคุ้ยเรื่องเก่า เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นผู้นำอาเซียนได้ และตรงกับหลายประเทศที่เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อม




เล็งถามกัมพูชา คืบหน้าช่วย "วีระ-ราตรี"

          นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 2-4 เม.ย.นี้ ว่า ในส่วนของรมว.ต่างประเทศ จะลงนามในแถลงการณ์ว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสอดคล้องกับการประชุมนิวเคลียร์ที่เกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะลงนามความตกลงว่าด้วยการให้ที่ตั้งและเอกสารความคุ้มครองแก่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน โดยการลงนามดังกล่าวจะทำให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียนมีสถานที่ตั้งอย่างถาวร ซึ่งที่ผ่านมาอินโดนีเซียให้ใช้สถานที่เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ปัญหาหมอกควันที่ไทยจะนำเสนอต่อที่ประชุมอาเซียนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวยกขึ้นในระดับผู้นำ โดยแนวคิดนี้เป็นความคิดริเริ่มของไทย และขณะนี้มีหลายประเทศ อาทิ สปป.ลาว เมียนมาร์ อินโดนีเซีย เห็นด้วย และหลังการประชุมดังกล่าว อาจจะออกเป็นแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
 
          เมื่อถามว่าในการประชุมครั้งนี้จะได้หารือทวิภาคีกับรมว.ต่างประเทศกัมพูชา เพื่อพูดคุยกรณีความคืบหน้าในการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรย์ ว่า ไม่มีการหารือทวิภาคีอย่างเป็นทางการ แต่คงได้พูดคุยกันในช่วงที่ได้ประชุม ซึ่งตนก็จะสอบถามความคืบหน้ากรณีการแลกตัวนักโทษกับฝ่ายกัมพูชาต่อเนื่องจากครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามปัญหาสุขภาพของนายวีระ ยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทุกครั้งที่ครอบครัวของนายวีระ เดินทางไปเยี่ยม สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ จะจัดหาแพทย์ไปด้วยทุกครั้ง ถ้าหากนายวีระป่วย สถานทูตจะรับทราบและดูแลมาตลอด จึงไม่ต้องเป็นห่วง


รมว.กต.นั่งหัวโต๊ะ ประชุมเตรียมการ World Economic Forum on East Asia 2012 ที่ประเทศไทย


          นายสุรพงษ์  ได้เป็นประธานคณะทำงานย่อย เพื่อประสานกิจกรรมเสริมระหว่างการประชุม World Economic Forum on East Asia 2012 ที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2555 ที่โรงแรมแชงกรีลา โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3สถาบัน ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเตรียมการประชุมด้วยโดยครั้งนี้เป็นครั้งที่2 เพื่อสรุปการเตรียมการและการจัดกิจกรรมเสริมต่างๆภายในการประชุม ที่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวสืบเนื่องจากที่นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใย เพื่อให้การประชุมเกิดประโยชน์สูงสุด ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ความมั่นใจ และภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งในการประชุมครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ World Economic Forum ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะร่วมกันด้วย เพื่อเพิ่มศักยภาพของการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเน้นการเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยกำลังหารือถึงการจัดนิทรรศการการท่องเที่ยว ระหว่างการประชุมด้วย ซึ่งประเทศไทยถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตั้งเป้าว่าภายในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มเป็น24ล้านคน จากเมื่อปีที่ผ่านมาที่เกิดเหตุการอุทกภัย มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง20ล้านคน
 
          นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า เมื่อครั้งที่ตนเดินทางเยือนต่างประเทศไทย สังคมโลกต่างให้การยอมรับ ที่รัฐบาลมาจากประชาธิปไตย และปัจจุบันไม่มีการทะเลาะกันแล้ว จึงทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้ความสนใจมาประเทศไทยมากขึ้น