ข่าว

ช่วยลูกครึ่งตามหาพ่อญี่ปุ่น"กษิต"สั่งประสานสถานทูต

ช่วยลูกครึ่งตามหาพ่อญี่ปุ่น"กษิต"สั่งประสานสถานทูต

13 พ.ค. 2552

น้ำใจจากหลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นวัย 9 ขวบตามหาพ่อ ผู้ว่าฯ พิจิตรสั่งตรวจทะเบียนรายชื่อ ประสานสถานทูต พร้อมมอบทุนการศึกษา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสั่งการประสานสถานทูตญี่ปุ่น-จนท.ไทยช่วยตามหา ด้านหนูน้อยขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ เผยอ

 ความคืบหน้ากรณี ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เดินโชว์ภาพนายคัทซูมิ ซาโต บิดา บริเวณหน้าอุโบสถวัดท่าหลวงพระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อสอบถามนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ภายหลังแม่เสียชีวิต เป็นที่น่าเวทนาของผู้พบเห็น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมหน่วยงานราชการ เข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 5,000 บาท แก่ ด.ช.เคอิโงะ  พร้อมทั้งนำตัวไปที่สำนักงานศูนย์บริหารงานทะเบียนภาค 6 สาขาพิจิตร ภายในที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร เพื่อติดตามหาที่มาของบิดา

 จากการตรวจสอบทะเบียน พบว่าใบแจ้งกิดของ ด.ช.เคอิโงะ เป็นชื่อ ด.ช.เกอิโงะ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ด.ช.เคอิโงะ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2543 และแจ้งวันเกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2543 สถานที่เกิด คือ โรงพยาบาลตำรวจ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยระบุชื่อบิดา คือ นายคัทซูมิ ซาโต ชาวญี่ปุ่น มารดา คือ นางทิพย์มณฑา จันทร์ประทุม

 นายสมชัยกล่าวว่า ด้านการช่วยเหลือแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องการติดตามหาบิดาของ ด.ช.เคอิโงะ โดยจะนำตัวไปค้นหาทะเบียนประวัติว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เบื้องต้นพบว่า ด.ช.เคอิโงะคลอดที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะพยายามหาเลขที่พาสปอร์ตของนายคัทซูมิ เพื่อจะได้ประสานงานไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ติดตามหาตัวนายคัทซูมิต่อไป ส่วนการช่วยเหลือด้านการศึกษา ขณะนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นทุนไปแล้ว 5,000 บาท และจะให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตร เขต 1 คอยดูแลช่วยเหลือทางด้านการศึกษาต่อไป

 "หลังจากพา ด.ช.เคอิโงะไปตรวจสอบที่สำนักงานศูนย์บริหารงานทะเบียนภาค 6 สาขาพิจิตร  พบว่านายคัทซูมิ ซาโต และนางทิพย์มณฑา จันทร์ประทุม ได้จดทะเบียนสมรสกันจริง ส่วนพาสปอร์ตการเดินทางเข้าออกประเทศไทยของนายคัทซูมิอยู่ระหว่างการตรวจสอบ" นายสมชัย กล่าว

 นายกร ยอดเยาว์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเมืองท่าหลวงสงเคราะห์ กล่าวว่า ด.ช.เคอิโงะ เป็นเด็กที่มีนิสัยดี เรียนเก่ง และยังมีมิตรไมตรีที่ดีต่อเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารก็จะแบ่งปันให้เพื่อน หรือหากครูให้เงินไปซื้อขนมกิน เพราะความสงสาร แต่เมื่อ ด.ช.เคอิโงะมีเงินมาก็จะบอกว่ามีแล้ว ไม่เอาเพิ่มอีก ทำให้เป็นที่ภูมิใจของครู

  นางปัทมา จตุพิศ ป้าของ ด.ช.เคอิโงะ กล่าวว่า หากหาพ่อของ ด.ช.เคอิโงะพบจริงๆ และนายคัทซูมิ ซาโต จะมาขอลูกไปเลี้ยงดูก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามความต้องการของหลานชายว่าต้องการจะไปหรือไม่ หากต้องการไป ทางบ้านก็คงไม่ว่าอะไร แต่ในใจอยากให้หลานชายบรรลุนิติภาวะ คือจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เสียก่อน

 ด.ช.เคอิโงะ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือในการตามหาบิดา ต่อไปนี้จะไม่มีเพื่อนมาล้อว่าเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่อีกต่อไป มั่นใจว่าจะตามหาพ่อเจอในเร็วๆ วันนี้ และอยากฝากถึงทุกคนและพ่อว่า หากใครเจอพ่อก็อยากจะฝากให้พ่อช่วยมาหา 

 "อยากให้พ่อมาหา แต่หากให้ไปอยู่ญี่ปุ่น หนูต้องการให้พ่อรับป้าไปอยู่ด้วย หากไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากไป เพราะจะคิดถึงป้า แต่ตอนนี้หนูอยากเจอหน้าพ่อก่อน หนูจะรอที่หน้าวัดท่าหลวงทุกวัน" ด.ช.เคอิโงะ กล่าว

 วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สั่งการให้สำนักงานหนังสือเดินทางที่ จ.พิษณุโลกไปพบ ด.ช.เคอิโงะ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่นตรวจสอบว่าจะมีหน่วยงานไหนในญี่ปุ่นช่วยเหลือได้บ้างในการสืบหาผู้ที่เป็นพ่อเด็ก ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยช่วยกันสืบหาอีกทางหนึ่ง

นายสมชัยกล่าวอีกว่า หลังจากมีการตรวจสอบสอบทะเบียนราษฎรกลางเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับนายคัทซามิ ซาโต พ่อของ ด.ช.เคอิโงะ พบว่านายคัทซูมิ ซาโต เกิดวันที่ 3 มกราคม 2521 ภูมิลำเนาอยู่ตำบลคัทซูซิกะ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานเพิ่มเติมว่านายคัทซามิได้จดทะเบียนสมรสกับนางมนทาทิพย์ ซาโต มารดา ด.ช.เคอิโงะ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

 "การจดทะเบียนสมรสของทั้งสอง มีใบรับรองโดยอาศัยสำเนาการจดทะเบียนครอบครัวเป็นหลัก ออกให้โดยหัวหน้าแห่งตำบลคัทซูซิกะ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2543 ยังมีใบรับรองจากการสมรสจากนายซาซารุ ฮายาซิ เลขานุการโท และรองกงสุลสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังสืบทราบเลขที่พาสปอร์ตของนายคัทซามิ ซึ่งจังหวัดจะได้ประสานไปยังสถานกงสุลญี่ปุ่นหรือสถานทูตเพื่อติดต่อให้สองพ่อลูกได้พบกันตามเจตนารมณ์" นายสมชัยกล่าว