
'ฤาษีพุทธจรัล'แนะ'ปู'ยึดธรรมนำปรองดอง
"ฤาษีพุทธจรัล" แนะ "ปู" ใช้ทางลัดปรองดองดึง "ธรรม" บริหารประเทศ ส่งทหาร ตำรวจ ฝึกจิตสงบ "ทักษิณ" จะกลับหรือไม่ไม่สำคัญ นปช.ประกาศชุมนุมใหญ่ราชประสงค์19พ.ค.
16มี.ค.2555 ดร.พุทธจรัล พุทธจรัล หรือฤาษีพุทธจรัล ประธานมูลนิธิโพธิสัจธรรม และเจ้าสำนักอาศรมอมราวดี อายุเวท อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ แสดงความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองว่า ความขัดแย้งทางความคิดที่เป็นอยู่ในสังคม แม้รัฐบาลที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำจะได้ทำหน้าที่ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เข้าตาคนอีกมากเพราะบริหารปกครองประเทศจากรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้มีอัตตานำมาซึ่งขัดแย้งทางความคิดและนำสู่การเผชิญหน้าทำร้ายกันอย่างที่ไม่อาจที่จะป้องกันได้
สำหรับหนทางสู่ความสงบคือนโยบายเร่งด่วนต่างๆ ของรัฐบาลต้องนำ "ธรรม" เข้ามาปกครองและทำได้โดยให้นักเรียนทหาร ตำรวจ ข้าราชการหันมาสนใจทำจิตให้สงบเป็นประจำวันเป็นการลดอุณภูมิขัดแย้งในชาติและจะสร้างความเชื่อมั่นในสังคมไทยและต่างชาติ หากทำได้เมื่อจิตสงบอุณหภูมิขัดแย้งลดลง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะรัฐบาลได้ส่งเสริมให้ทุกชีวิตสู่ความปรองดองแล้ว
นปช.ประกาศชุมนุมใหญ่ราชประสงค์19พ.ค.
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.ร่วมกันแถลงข่าว โดยนางธิดา กล่าวว่า วันที่ 10 เม.ย. 2555 นปช.จะจัดงานทำบุญรำลึกเหตุการณ์ให้กับผู้เสียชีวิตบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นวันที่ 19 พ.ค. 2555 จะจัดการชุมนุมใหญ่ ที่แยกราชประสงค์ ทั้งนี้ต้องขออภัยผู้ประกอบกิจการที่ราชประสงค์ว่าอาจจะยากลำบาก แต่นปช.ได้แจ้งล่วงหน้า และอยากขอให้เข้าใจว่า 2 ปี ที่คนเสื้อแดงต้องขมขื่นจะขอสักวันไม่ได้หรือ
เตรียมจัดทำข้อมูลเสื้อแดงใหม่
นางธิดา กล่าวถึงการเยียวยาให้กับคือผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ ขอให้ไปยังบ้านราชวิถี หรือ สถานที่ที่ทางราชการจัดไว้ เพราะที่ดังกล่าวเป็นข้อมูลตรง ส่วนฐานข้อมูลของนปช.ที่มีอยู่จำนวนหนึ่งจะเป็นฐานข้อมูลสนับสนุนเผื่อกรณีที่ข้อมูลผิดพลาด เพราะข้อมูลที่นปช.มีอยู่ไม่ได้เป็นข้อมูลที่รัฐบาลนำไปใช้ แต่สามารถขอข้อมูลสนุบสนุนเพิ่มเติมได้ และนปช.จะมีการจัดทำข้อมูลให้เป็นระบบมากขึ้น โดยจะมีการจัดทำข้อมูลสมาชิกนปช.ใหม่ด้วยการปรับปรุงระบบใหม่ เพราะมีคนอยากเป็นสมาชิกเยอะ และเป็นการป้องกันบัตรปลอม อย่างไรก็ตามข่าวลือที่มีการระบุว่าหากมีบัตรสมาชิกนปช.จะได้รับเงิน 2,000 บาท ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ส่งทนายช่วยคดีพลทหาร
ส่วนความคืบหน้าของ 5 คดี ที่ศาลรับไต่สวน โดยในวันจันทร์ที่ 19 มี.ค.นี้ เป็นคดีของพลทหารณรงฤทธิ์ สาละ เสียชีวิตที่อนุสรณ์สถาน ถึงแม้จะเป็นทหารแต่ในส่วนของทนายนปช.จะช่วยในการต่อสู้คดีเพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นให้ได้ ทั้งนี้อยากเชิญชวนพี่น้องที่ว่างให้ไปช่วยรับฟังคดีเพื่อศึกษาให้เกิดประโยชน์ ในทุกสัปดาห์
ชี้เลิก2มาตราฐาน
ทั้งนี้การสร้างความปรองดองว่า ขือยื่นข้อเสนอให้กลไกรัฐ และพรรคการเมืองต้องทำความจริงให้ปรากฎ สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในแผ่นดินดังนั้นหากยังมีกระบวนการ 2 มาตรฐาน คือผิดเฉพาะคนเสื้อแดงความปรองดองคงไม่เกิดขึ้นแน่นอน ส่วนปัญหานิรโทษกรรมหากใครพูดถึงเรื่องการนิรโทษกรรมก่อนที่ความเป็นจริงปรากฎก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน
เผย“จตุพร”ไม่กังวลถูกถอดถอนแน่
นอกจากนี้กรณีปัญหาของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เห็นว่ารัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมีปัญหามาก ดังนั้นประเด็นของนายจตุพร ซึ่งจะต้องนำส่งศาลรัฐธรรมนูญในไม่ช้านี้ แต่นายจตุพร ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะโอกาสถูกถอดถอนมีอยู่มาก และในขณะนี้มีกลุ่มของนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากรับรองนายจตุพรแล้ว คนพวกนี้คิดได้แต่เพียงว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หากพรรคไหนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยก็จะยื่นยุบหมด แต่ยิ่งกลั่นแกล้งคนเสื้อแดงยิ่งโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ และยิ่งยุบพรรคก็จะปรากฎคนเสื้อแดงมากขึ้น
วอนเสื้อแดงสามัคคีกัน
ทั้งนี้ขอเตือนว่าขณะนี้คนเสื้อแดงในพื้นที่มีความแตกแยกกันด้วยปัญหาของการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือการเข้าสู่ผลประโยชน์จึงขอแจ้งพี่น้องว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะสามารถดูออกมาใครทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และอาจจะมีกลุ่มอื่นๆในชื่ออื่นเกิดขึ้นมาก็ไม่เป็นไร และอยากให้นปช.สามัคคีกัน เพราะขณะนี้กลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์พยายามที่จะก่อภัย เช่น ชกหน้าทุบรถ และเรื่องเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตโดยมีความพยายามที่จะจัดตั้งมวลชนเพื่อสร้างเรื่องขึ้นมาจึงขอร้องคนเสื้อแดงให้อดทน มั่นคง ทำงานตามแนวทางคนเสื้อแดงอย่างสงบแต่จะต้องเตรียมอยู่เสมอ
“ก่อแก้ว”ซัด“ประชาธิปัตย์”ขวางเยียวยา
ด้านนายก่อแก้ว กล่าวถึงกรณีการเยียวยาของรัฐบาล ว่า ตนรู้สึกดีใจที่เห็นความคืบหน้าในกเยียวยาที่มีทั้งคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง และคนที่ถูกลูกหลง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้สังคมเดินหน้าไปได้ แต่ขณะที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าไปไกลก็ยังมีคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคัดค้านให้ศาลระงับการเยียวยา จึงอยากให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคที่ชอบการฆ่ามากกว่าการให้ และเป็นพรรคที่ไม่มีความรับผิดชอบไม่ว่าเรื่องใดทิ้งปัญหาให้รัฐบาลชุดนี้แก้แต่พอรัฐบาลแก้ไขกลับออกมาคัดค้าน โดยสังคมต้องตาสว่างว่าอยากเห็นพรรคการเมืองแบบนี้ในสังคมหรือไม่ ทั้งนี้หากการเยียวยาสัมฤทธิ์ผลจะเกิดประโยชน์กับสังคม และที่มากที่สุดคือนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เพราะผู้ที่ได้รับการเยียวยาจะโกรธแค้นน้อยลง ดังนั้นอยากขอเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ว่าให้หยุดมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ
วอนศาลให้ประกันเสื้อแดง
ส่วนเรื่องความปรองดองตนมีความเป็นห่วงว่าจะเดินหน้าไปไม่ได้หากศาลยังไม่ให้ประกันตัวนักโทษการเมือง ที่ขณะนี้ยังมีคนเสื้อแดงที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวอีกกว่า 50 คน ตนจึงขอวิงวอนไปยังศาลว่าถ้าไม่ให้สิทธิขั้นพื้นฐานในการประกันตัวประเทศไทยจะปรองดองไม่ได้จึงอยากให้สาลทบทวนในเรื่องนี้ เพราะขนาดนักโทษที่เป็นพ่อค้ายาเสพติด มือปืนรับจ้าง โกงธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ ก็ยังได้รับการประกันตัว ทั้งที่คนเหล่านี้นมีโอกาสที่จะกลับมาสร้างปัญหาให้ประเทศซ้ำอีก แต่กรณีนักโทษการเมืองอย่างคนเสื้อแดงนั้นเกิดจากที่คนเหล่านั้นรับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไม่ได้ เพราะคนที่กระทำความผิดในคดีทางการเมืองโอกาสที่จะกลับมาทำผิดซ้ำอีกคงไม่มี และบ้านเมืองก็ได้คลี่คลายไปเยอะแล้ว และให้ศาลบอกพวกตนว่าควรจะทำอย่างไรดีที่จะอนุญาตให้ได้รับการประกันตัว และคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะขนาดคนเสื้อเหลืองยังได้รับการประกันตัวทุกคน เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่โดนไม่รู้กี่คดีถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ก็ยังได้รับการประกันตัว และออกมาเคลื่อนไหวสร้างปัญหาให้กับประเทศซ้ำแล้วซ้ำอีก
ชี้“ประชาธิปัตย์”ฝักใฝ่เผด็จการ
ทั้งนี้ตนในฐานะที่เป็นกมธ.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา291 พบว่าจากการประชุม 4 - 5 ครั้งที่ผ่านมา มีความชัดเจนแล้วว่ากมธ.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีความพยายามเตะถ่วงในการแก้ไขมาตรา 291 อย่างยิ่งโดยดึงให้ช้าทุกประเด็น และพยายามตีกรอบความคิดว่าในการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งส.ส.ร.จนนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น กมธ.ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ พยายามตีกรอบว่าส.ส.ร.ต้องกำหนดไปเลยว่าห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นใดบ้าง โดยกำหนดว่าห้ามแก้มาตราเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ศาล องค์กรอิสระ และมาตราเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นพวกฝักใฝ่เผด็จการ แต่วันนี้ทำตัวเป็นผู้เผด็จการทางความคิดอีก ส.ส.ร.จะทำงานอย่างเป็นอิสระได้อย่างไร
“วิภูแถลง”ยันแค่พักรบหลังมีสัญญาณรอบใหม่
นายวิภูแถลง กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้การต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ยังดำรงอยู่ ส่วนกรณีความปรองดองขณะนี้ไม่ดีขึ้นเลยเป็นแค่ช่วงพักรบประวิงเวลาเท่านั้น เพราะดูได้จากการขึ้นป้ายต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และในป้ายต่อต้านยังมีเรื่องที่เป็นเท็จ และใส่ร้ายเพื่อให้ปประชาชนเกลียดชังรัฐบาล โดยระบุว่าจะมีการล้มเจ้า และเป็นพวกระบอบทักษิณ โดยมีส.ส.ประชาธิปัตย์ ในพื้นที่บอกประชาชนว่ารัฐบาลจะอยู่ได้อีก 2 - 3 เดือน แสดงว่าพรรคนี้รอสัญญาณพิเศษอยู่ และอีกสัญญาณหนึ่งคือการออกมาต่อต้านไม่ยอมรับแนวทางการปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวชี้เจตนาว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นกลไกของระบอบอำมาตย์ และเป็นตัวแทนของกลุ่มทุนเก่าอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของอำมาตย์อย่างชัดเจน สรุปได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมหยุด และแสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพครรลองของระบอบประชาธิปไตยจึงจำเป็นต้องระมัดระวัง เพราะเป็นการจ้องทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล และหากรัฐบาลอ่อนแอการชุมนุมอย่างผ้าป่าสามัคคีจะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเร่งรีบสร้างผลงานเพื่อดูแลประชาชน และไม่ตอบโต้อะไรที่ไร้สาระเพราะจะเป็นภูมิคุ้มกันรัฐบาล
“เหมอเหวง”ไล่“ประชาธิปัตย์”เปลี่ยนดีเอ็นเออ
นพ.เหวง กล่าวว่า นปช.ไม่มีวันปรองดองกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอันขาด ยกเว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนสันดานธาตุแท้หรือดีเอ็นเอ คือ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการพูดเรื่องเท็จ เช่น หยุดพูดว่าคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง และต้องเลิกกล่าวหาว่ามีชายชุดดำ เลิกใส่ร้ายป้ายสี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และอย่าทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมืองของประเทศ เช่น เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญถ้าทำได้ทั้งหมดจึงจะปรองดองกันได้ ส่วนเรื่องการจะไปแตะต้ององค์กรอิสระและศาล ยืนยันว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงไม่ยอมรับคือองค์กรอิสระและตุลาการที่รับใช้ปลายกระบอกปืน ส่วนเรื่องการเยียวยารัฐต้อวเยียวยาการกระทำของรัฐให้กับประชาชน เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วยัดเยียดความตายให้ประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว
เผย“รัฐบาลอภิสิทธิ์”เข้าข่ายขึ้นศาลไอซีซี
ส่วนกรณีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ว่า มีกฎหมายเขียนไว้ว่ามีความผิด 4 ประเภท คือ 1.อาชญากรรมทำลายล้างเผ่าพันธุ์ 2.อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 3.อาชญากรรมอันเป็นการรุกราน และ4.อาชญากรรมสงคราม ซึ่งอาชญากรรมต่อมนุษยชาติตรงกับการกระทำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ โดยหมายถึงการกระทำใดๆที่เป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีอย่างกว้างขวางทำอย่างเป็นระบบ และมีเป้าหมายต่อพลเรือน อีกทั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ใช้พื้นที่เกือบทั้งกรุงเทพฯในการโจมตีซึ่งเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา และเป็นการทำลายล้าง โดยกฎหมายนี้รับรองว่าเป็นกฎหมายในโลกนี้แต่การที่จะให้ศาลมีอำนาจเข้าไปในแต่ละประเทศต้องลงสัตยาบรรณ แต่การลงสัตยาบรรณก็ย้อนหลังไม่ได้
ทั้งนีประเทศไทยยังไม่ได้ลงสัตยาบัน แต่ประเทศอังกฤษได้ลงสัตยาบันแล้ว จึงขอเตือนนายอภิสิทธิ์ ว่าต้องเลือกสัญชาติแล้วว่าจะใช้สัญชาติอะไร อย่างไรก็ตามมีข้อหนึ่งที่ระบุว่าหากการยอมรับอำนาจของศาลโดยรัฐซึ่งมิได้เป็นภาคีของศาล รัฐนั้นจะยอมรับการใช้อำนาจของศาลในส่วนที่เกี่ยวกับอาชญากรรมที่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นรัฐบาลของเรา หรือรมว.ยุติธรรม และรมว.ต่างประเทศ สามารถประกาศรับรองอำนาจศาลเฉพาะกรณีเม.ย. - พ.ค. 53 เพื่อเอาฆาตกรไปขึ้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศได้ โดยส่งคำรับรองไปยังนายทะเบียนซึ่งรัฐบาลชุดที่ผ่านมาจะต้องเดินหน้าเข้าสู่ศาลอาชญากรรมแน่นอน