
'ม้ง'จับ4จนท.เชื่อแค้นเข้มเผาป่า
ชาวเขาเผ่าม้งกว่า 20 คน พร้อมอาวุธครบมือ บุกจับกุม 4 เจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นตัวประกันโดยไม่ทราบสาเหตุ รองผวจ.ตาก เชื่อแค้นเข้มเผาป่า ขณะที่หมอกควันเหนือหลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายหลังฝนตกหนัก
11มี.ค.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชายฉกรรฉ์ชาวไทยภูเขาเผาม้งกว่า 20 คน พร้อมอาวุธครบมือ อาศัยอยู่ที่บ้านแม่กลองน้อย หมู่ 7 ต.โมรโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก ได้ทำการจับกุม นายอนุรักษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) นายนุโพวา(ไม่ทราบนามสกุล) นายยินดี คีรีประจักษ์ และนายอุดร ทนุคงลิขิต ทั้งหมด 4 คน ซึ่งเป็นลูกจ้างหน่วยพิทักษ์ป่าแม่กลองน้อย โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คน ถูกจับกุมระหว่างการออกตรวจการเผาป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และตามเส้นทางสาย อ.แม่สอด อ. อุ้มผาง ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ประสานกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 , ทหารกองกำลังนเรศวร ตำรวจตระะเวนชายแดน ที่ 347 อ.มผาง และตำรวจสภ.อุ้มผาง ออกติดตามค้นหาเจ้าหน้าที่ที่ถูกจับกุมไป และยัง ไม่มีท่าทีว่ากลุ่มชาวม้งจะยอมปล่อยเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นการจับตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย คาดว่าน่าจะมาจากการจับกุมการกระทำผิด เรื่องการบุกรุกป่า และการเผาป่า หลายครั้งของเจ้าหน้าที่จึงเป็นเหตุจูงใจ ในการจับตัวประกัน และเมื่อต้นปี 2554 กลุ่มร้ายทำการซุ่มยิงนายศรายุทธ ชนะมงคลเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าแม่กลองน้อย ต.โมโกร มาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยต่างบอกว่า เป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่จับเจ้าหน้าที่
รองผวจ.ตากคาดเกิดจากจับผู้บุกรุก-เผาป่า
นายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ รองผวจ.ตาก กล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ส่งกำลังอกกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของนายสุริยะ ประพสารทบัณฑิต ผวจ.ตาก ที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับการบุกรุกแผ้วถางป่า และเผาป่า จนสร้างปัญหาหมอกควัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวน และจับชาวเขาเผ่าม้งได้ 2 คน ขณะบุกทำลายป่า แต่กลุ่มชาวเขาเผ่าม้งไม่พอใจ จึงไปพาคนจำนวนมาก ไปจับกุมเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อเป็นตัวประกัน และล่าสุดขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับทางทหาร ตชด. นำผู้ต้องหาชาวม้ง จำนวน 2 คน ไปเจรจากับฝ่ายชาวเขา เพื่อทำความเข้าใจกันในเรื่องของกฎหมาย และการรจับกุมองเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากจำเป็นต้องแลกตัวกัน ก็อาจจะต้องยอมแลกตัวกัน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย
หมอกควันเหนือหลายจังหวัดเริ่มคลี่คลายหลังฝนตกหนัก
กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศประจำวันที่ 11 มีนาคม เวลา 08.00 น. ที่ จ.เชียงใหม่ สถานีตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละออง 76.08 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่นละออง 102.92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ที่ จ.ลำปาง สถานีตรวจวัดศาลหลักเมืองจังหวัดลำปาง ค่าฝุ่นละออง 68.21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสบป้าด ค่าฝุ่นละออง 51.63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าสี ค่าฝุ่นละออง 56.38 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ ค่าฝุ่นละออง 67.79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
จ.น่าน สถานีตรวจวัดเทศบาลเมืองน่าน ค่าฝุ่นละออง 74.58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จ.ลำพูน ที่สถานีตรวจวัดสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ค่าฝุ่นละออง 118.88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานีตรวจวัดสถานีอุตุนิยมวิทยาแพร่ ค่าฝุ่นละออง 54.92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ จ.พะเยา สถานีตรวจวัดอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา ค่าฝุ่นละออง 105.27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม จ.เชียงราย กับ จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นละอองยังเกินค่ามาตรฐาน โดยที่ จ.เชียงราย สถานีตรวจวัดสถานีเชียงราย ค่าฝุ่นละออง 157.83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่สถานีตรวจวัดแม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นละออง 359.38 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ปภ.เชียงรายยังไม่ถึงขั้นอพยพคน
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ยอมรับว่าสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย ค่อนข้างรุนแรง เกิดหมอกควันเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายวัน สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทำให้ควันไฟป่า ไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ ซึ่งนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กำชับเรื่องการลดเผา พร้อมฉีดพ่นละอองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่อากาศ
นายประจญ กล่าวว่า ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือเองก็มีความพยายามที่จะทำฝนหลวง แต่ทราบว่าหลังจากทำการโจมตีเมฆเพื่อให้เกิดฝนแต่ปริมาณความชื้นไม่เพียงพอ ดังนั้น ในพื้นที่ด้านล่างเองก็ต้องพยายามเพิ่มความชื้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ อ.แม่สาย ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอยู่ในขั้นอันตรายนั้น ยืนยันว่ายังไม่ต้องอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ จากการประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ระบุว่าไม่รุนแรงถึงขั้นต้องอพยพ แต่ได้แจกหน้ากากอนามัย และแจ้งเตือนงดออกที่โล่งแจ้ง ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับประเทศพม่าเพื่อลดการเผาอีกด้วย
นักท่องเที่ยวแม่สายหด 30%
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่ อ.แม่สาย ถือว่ารุนแรงเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าจะหนักมากที่สุดในประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลงเดิมทีช่วงเย็นๆ อ.แม่สาย จะมีลมโกรก แต่ตอนนี้แทบไม่มีเลย อย่างไรก็ตาม วันนี้ (11 มี.ค.) สภาพอากาศดูดีขึ้น หมอกควันที่ปกคลุมก็ดูเบาบางลง แต่ท้องฟ้ายังขุ่นมัวอยู่ ทั้งนี้ สภาพหมอกควันได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ค้าขายสินค้าบริเวณตลาดชายแดนทั้งฝั่ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าทั้งทางด้านสุขภาพ พ่อค้าแม่ค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยซึ่งแม้ว่าจะช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ป้องกันตัวเองเลย ในส่วนของนักท่องเที่ยวเองก็ส่งผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน บรรยากาศท่องเที่ยวเงียบเหงามาก เนื่องจากข่าวสารที่ถูกนำเสนอออกไปและสภาพอากาศที่ค่อนข้างแย่ นักท่องเที่ยวจึงไม่กล้าเดินทางมา จากการประเมินคาดว่านักท่องเที่ยวหายไปไม่น้อยกว่า 20-30%
"นักท่องเที่ยวที่หายไปเป็นทั้งนักท่องเที่ยวของประเทศพม่าเอง เดิมที่มีเที่ยวบินมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก วันละกว่า 1,000 คน ตอนนี้ก็ลดน้อยลงไป จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางข้ามฝั่งมาประเทศไทยลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเองที่ข้ามไป จ.ท่าขี้เหล็ก ก็น้อยลงด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดน้อยลงเช่นกัน ในส่วนของการค้าขายแดนก็ยังเป็นปกติไม่ได้รับผลกระทบ" นายบุญธรรมกล่าว
ลำพูนสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว
นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ประชุมชี้แจงสถานการณ์หมอกควันแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่พักและร้านอาหาร เพื่อให้ทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวถึงสถานการณ์หมอกควันได้เริ่มคลี่คลาย ตรวจวัดคุณภาพอากาศในเขต อ.เมือง วัดได้ 118 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ
นายสุรชัย กล่าวว่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น จ.ลำพูนจึงจัดตั้งหน่วยบริการนักท่องเที่ยวที่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เพื่อให้บริการด้านตรวจสุขภาพ แจกจ่ายยา แจกหน้ากากอนามัย และเอกสารแนะนำการปฏิบัติตนเมื่อประสบภาวะหมอกควัน โดยมีแพทย์พยาบาลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลลำพูนให้บริการตั้งแต่เช้าถึงเย็น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ
หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนได้เปิดหน่วยบริการนักท่องเที่ยวแล้ว ได้นั่งรถพ่นน้ำฉีดพ่นน้ำบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารด้วย พร้อมกล่าวว่า ประชาชนชาวจังหวัดลำพูนต่างมีความยินดีที่จะบริการแก่นักท่องเที่ยว โดยเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานฝนก็คงจะตกและจะช่วยชะล้างฝุ่นละอองและหมอกควันใน จ.ลำพูน และก็คงทำให้สภาวะอากาศดีขึ้นอย่างแน่นอน