
ประเทศไทยก็มีวันกตัญญูแห่งชาติ?
เล่าสู่กันฟัง : ประเทศไทยก็มีวันกตัญญูแห่งชาติ? : บัญญัติ คำนูณวัฒน์
สังคมไทยในปัจจุบัน เป็นสังคมที่มีการแข่งขัน และกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในเรื่องเทคโนโลยี แต่ยิ่งพัฒนามากแค่ไหน ก็ยิ่งนำพาให้ห่างจากองค์ประกอบที่สำคัญของมนุษย์ไป หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องของศาสนา ส่งผลให้สังคมไทยเกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญในวันต่างๆ แต่ดูเหมือนจะมีน้ำหนักยังไม่มากพอ เพราะยังไม่ได้ปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่เด็กและเยาวชนไทยกันอย่างจริงจัง
“วันมาฆบูชา” หนึ่งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง และเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6 ทั้งหมด คือ เป็นพระอริยบุคคล ที่มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ และตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถีขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้น จึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4
ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2394 และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการ เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัดและประกอบกิจกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2549 รัฐบาลไทยยังได้ประกาศให้วันมาฆบูชาเป็นวันกตัญญูแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยระลึกถึงและตอบแทนพระคุณบุพการี ถือเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของ “คนดี”
พระพุทธศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี คนดีย่อมเป็นที่ต้องการในทุกหนทุกแห่ง และทุกยุคทุกสมัย คนดีทำให้ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติเจริญ คนดีอยู่ไหนที่นั่นย่อมมีความสุข ความกตัญญูกตเวที คือ คุณสมบัติและสัญลักษณ์ของคนดี เป็นหลักถือปฏิบัติในการดำเนินชีวิตของคนในอุดมคติ ในสังคมชาวพุทธ คนที่กตัญญูกตเวทีย่อมเป็นผู้ควรค่าแก่ความรัก เกียรติ ศักดิ์ศรี และการยกย่องสรรเสริญจากผู้อื่น เพราะได้ปฏิบัติธรรมอันถือเป็นเรื่องมงคลที่ส่งผลให้มีชีวิตที่ประสบแต่ความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง
การแสดงความกตัญญูกตเวทีสามารถแสดงออกอย่างหลากหลาย ประการที่ 1 กตัญญูต่อบุคคล คือ ใครก็ตามที่เคยมีพระคุณต่อเรา ไม่ว่าจะมากน้อยเพียงไร จะต้องกตัญญูรู้คุณท่าน ติดตามระลึกถึงเสมอด้วยความซาบซึ้งพยายามหาโอกาสตอบแทนคุณท่านให้ได้ ประการที่ 2 กตัญญูต่อสัตว์ คือ สัตว์ที่มีคุณต่อเรา เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ใช้งาน จะต้องใช้ด้วยความกรุณาปรานี ไม่เฆี่ยนตีมันจนเหลือเกิน ประการที่ 3 กตัญญูต่อสิ่งของ คือ ของสิ่งใดก็ตามที่มีคุณต่อเรา เช่น หนังสือธรรมะ หนังสือเรียน สถานศึกษา วัด ต้นไม้ ป่าไม้ ฯลฯ
ประการที่ 4 กตัญญูต่อบุญ คือ รู้ว่าคนเราเกิดมามีอายุยืนยาว ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณดี สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความสุขความเจริญ มีความก้าวหน้า ก็เนื่องมาจากผลของบุญ จึงควรมีความรู้คุณของบุญ และประการสุดท้าย กตัญญูต่อตนเอง คือ รู้ว่าร่างกายของเรานี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราจะได้อาศัยใช้ในการทำความดี ใช้ในการสร้างบุญกุศลนานาประการเพื่อความสุข ความเจริญก้าวหน้า แก่ตนเองต่อไป จึงควรทะนุถนอมดูแลร่างกายรักษาสุขภาพให้ดี
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแสดงความกตัญญูกตเวที เชื่อว่าทุกท่านยังมีหลากหลายวิธี ประเทศไทยมีศาสนาที่ชี้ทางไปสู่ความสุขที่แท้จริง บอกและให้เราปฏิบัติในสิ่งที่มนุษย์ควรกระทำต่อกัน มีศิลปะที่สวยสดงดงามไม่แพ้ชาติใด มีวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นลักษณะที่พิเศษแตกต่างกับหลายชาติในโลก ขอเพียงเราเห็นความสำคัญในสิ่งที่เราควรจะกระทำ และปลูกฝังคุณค่าที่แท้จริงให้แก่เด็กๆ ลูกหลานของเรา สังคมไทยก็จะอยู่เย็นเป็นสุขเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต
----------
(หมายเหตุ : เล่าสู่กันฟัง : ประเทศไทยก็มีวันกตัญญูแห่งชาติ? : บัญญัติ คำนูณวัฒน์)
----------