
กลิ่นฟ้องปมนอร์เวย์ซ่อนศพเมีย
ร้อง'บ้านหรู'คลุ้งกลิ่นเน่า หนุ่มนอร์เวย์...ซ่อนศพเมีย :ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
เพียง 10 วัน ตำรวจกองปราบปรามใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ช่วยในการสืบสวนและควบคุมตัว "สแตน ฮาเวิรด์ ด๊อกเซ็ท" ชาวนอร์เวย์ ผู้ต้องสงสัยปิดบังซ่อนเร้นศพอดีตภรรยาไว้ภายในบ้านพักหรูริมหาดกะรน จ.ภูเก็ต
คดีนี้สืบเนื่องมาจาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ได้รับจดหมายร้องเรียนฉบับหนึ่งเกี่ยวกับพฤติการณ์ของ "สแตน ฮาเวิรด์ ด๊อกเซ็ท" อายุ 50 ปี น่าจะมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของ "รุ่งนภา ราชสมบัติ" อายุ 33 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2552 โดยเชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วถูกซุกซ่อนศพไว้ภายในบ้าน เพราะมีกลิ่นเหม็นเน่าเล็ดลอดออกมาจากบ้านหรู จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมหลักฐานรวมถึงพยานแวดล้อม แล้วใช้หลักการบูรณาการที่เกิดเหตุสืบสวนจากภายนอกเข้าไปภายในบ้านผู้ต้องสงสัย ตลอดจนใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ของผู้ต้องสงสัยจนกระทั่งมั่นใจว่าภายในบ้านหลังดังกล่าวน่าจะมีการกระทำผิดกฎหมาย จึงตัดสินใจขออำนาจศาลอนุมัติหมายค้น
ช่วงเย็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.วัฒน์ชัย มณฑีรรัตน์, ร.ต.ท.ธีระพัฒน์ คารมย์ รองสว.กก.5 บก.ป. พร้อมชุดสืบสวนของกองปราบปราม สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 60/11 ซอยโคกโตนด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต บ้านพักหรูทรงไทย 3 ชั้น 7 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ ราคากว่า 15 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมหาดกะรน เมื่อตรวจค้นภายในบ้านอย่างละเอียด พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุน 58 นัด กระเป๋าหนังแบบสตรี 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซิมการ์ด 1 อัน บัตรประจำตัวประชาชน 2 ใบ ระบุชื่อ "นางรุ่งนภา สุขทอง" และ "รุ่งนภา ราชสมบัติ" และนาฬิกาข้อมือสุภาพสตรี 1 เรือน
และเมื่อชุดสืบสวนเดินผ่านห้องน้ำห้องแรก บริเวณชั้นล่างพบว่าถูกล็อกกุญแจแน่นหนา ประกอบกับมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง และเมื่อเปิดประตูห้องน้ำพบถังขยะขนาดใหญ่ภายในถังขยะมีถุงพลาสติกสีดำใบใหญ่ 1 ใบ พบชิ้นส่วนโครงกระดูก เศษเนื้อ และกระดูกเชิงมนุษย์จำนวนหนึ่ง จึงตัดสินใจควบคุมตัวนายสแตน เพื่อสอบสวนเกี่ยวกับการหายตัวไปของอดีตภรรยา
หลังการสอบสวนผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมง นายสแตนจึงเริ่มปริปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือฆาตกรรมภรรยาเพราะความหึงหวง หลังจากระแคะระคายว่าภรรยาเริ่มปันใจให้นายตำรวจคนหนึ่งใน จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ถูกภรรยาบอกเลิกและไปแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนายตำรวจคนดังกล่าว จนมีลูกด้วยกัน 1 คน
"นายสแตนเคยมีอาชีพเป็นเภสัชกรในประเทศนอร์เวย์ จากนั้นได้ลาออก และเดินทางมาเที่ยวใน จ.ภูเก็ตเมื่อ 10 ปีก่อน วันแรกที่เดินทางมาภูเก็ต เพื่อนพามาร่วมงานวันเกิดของนางรุ่งนภา ก่อนทั้งคู่จะพบรักกันและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส นายสแตนรักและหึงหวงภรรยาเป็นอย่างมาก โดยลงทุนขายบ้านพักตากอากาศที่ประเทศนอร์เวย์ มาลงทุนกว้านซื้อที่ดินกับนางรุ่งนภาเพื่อเก็งกำไร จนกระทั่งมีฐานะระดับเศรษฐี ต่อมาภรรยาเริ่มปันใจไปแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับนายตำรวจคนดังกล่าว จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่นายสแตนไม่ยอมเลิกราและมีความหึงหวงอยู่" แหล่งข่าวในชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ฉลองกล่าว
ทั้งนี้ แพทย์ผู้ชันสูตรยืนยันผลการตรวจเศษชิ้นส่วนมนุษย์ทั้งหมดที่เก็บได้จากบ้านหลังดังกล่าวว่า เป็นชิ้นส่วนของผู้หญิง โดยเฉพาะกะโหลกพบร่องรอยของกะโหลกร้าว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าชิ้นส่วนทั้งหมดของผู้เสียชีวิตหลังถูกฆาตกรรมคนร้ายใช้วิธีฆ่าหั่นศพหรือไม่
คดีนี้แม้ว่านายสแตนจะให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าภรรยา แต่ชุดสืบสวนสอบสวนยังสงสัยว่าคดีนี้มีเบื้องหลังหรือไม่ โดยตั้งข้อสังเกตไว้ 4 ประเด็น คือประเด็นที่ 1 นายสแตนเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้ หากฆาตกรรมภรรยา แล้วใครเป็นผู้ติดต่อตำรวจ ตม. เพราะทุกครั้งที่ต่อวีซ่าภรรยาต้องมาทุกครั้ง ประเด็นที่ 2 หากทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นชื่อของภรรยา ระยะเวลา 2 ปี เขานำเงินจากที่ใดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ประเด็นที่ 3 เมื่อนางรุ่งนภา สูญหายอย่างไร้ร่องรอยเหตุใดสามีใหม่ซึ่งเป็นตำรวจ และมีอำนาจการสืบสวนสอบสวน น่าจะมีความกระตือรือร้นติดตามสืบสวน และประเด็นสุดท้าย ตอนนี้ทรัพย์สินจำนวนมากของนางรุ่งนภา เช่น ที่ดินรวมถึงรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ใดหรือโอนให้ใคร?...ทำให้ชุดสืบสวนสอบสวนต้องเร่งหาคำตอบเพื่อนำมาประกอบคดีนี้!?!
.............
(หมายเหตุ : ร้อง'บ้านหรู'คลุ้งกลิ่นเน่าหนุ่มนอร์เวย์...ซ่อนศพเมีย :ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ)