ข่าว

ครูดำน้ำช่วยศิษย์จนพัดหายกลางทะเลแสมสารทั้งคู่

ครูดำน้ำช่วยศิษย์จนพัดหายกลางทะเลแสมสารทั้งคู่

10 พ.ค. 2552

ทะเลคลั่ง ครูนักดำน้ำพาศิษย์ดำน้ำข้างเกาะโรงโขน โรงหนัง อ่าวแสมสาร จ.ชลบุรี น้ำเข้าหน้ากากดำน้ำปิดปาก จมูก ลูกตา ศิษย์ สุดยอดครูสอนดำน้ำ เสี่ยงเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่สำเร็จ ทั้งครู-ศิษย์ถูกน้ำทะเลพัดหายไปต่อหน้าต่อตา

 เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 10 พฤษภาคม นาวาเอกศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน (รอง ผอ.กพร.ทรภ.1) และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 (หน.ศปก.ทรภ.1) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งและขอความช่วยเหลือจากนายธีรยุทธ ติระรณกรกุล ผู้ช่วยครูฝึกสอนดำน้ำบริเวณอ่าวแสมสาร พิกัดเกาะโรงโขน โรงหนังว่า เกิดอุบัติเหตุในทะเลขณะดำน้ำ ทำให้นายวิวัฒน์ ติระรณกรกุล ครูสอนดำน้ำ อายุ 35 ปี และ นายโพช สว่างวงศ์เสรี อายุ 25 ปี นักเรียนดำน้ำ ถูกพัดหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก และคลื่นลมแรง 

 ต่อมา พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผบ.ทรภ.1 ทร. ได้สั่งการให้ พล.ร.ต.วรศักดิ์ จันหนู รอง ผบ.ทรภ.1 เป็นผู้ควบคุมการติดตามค้นหาครูและนักเรียนดำน้ำที่สูญหาย รวมถึงช่วยเหลือนักดำน้ำอีก  20 กว่าคน ที่อยู่ในเรือนำเที่ยวชื่อ แม่น้ำ โดยมี นายอุทัย ศรีสลับ อายุ 52 ปี เป็นไต๋เรือ ขึ้นฝั่งให้ปลอดภัย 

 นายธีรยุทธกล่าวว่า ได้เช่าเรือนำเที่ยวจากท่าเรือวราสินธุ์ หมู่ 1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ออกไปฝึกดำน้ำทั้งหมด 23 คน มีครูฝึก 1 คน ผู้ช่วยครูฝึก 8 คน นักเรียน 8 คน และมีนักดำน้ำที่มาร่วมสังเกตการณ์อีก 6 คน เดินทางไปยังเกาะโรงโขน โรงหนัง ใกล้กับเกาะจวง เพื่อฝึกดำน้ำ เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. โดยแบ่งกันเป็น 5 ชุด ชุดละ 4 คน

 ชุดสุดท้ายมีนายวิวัฒน์ดูแลนายโพช นักเรียนดำน้ำ ปรากฏว่าขณะที่นายโพชมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ คาดว่าเกิดจากน้ำเข้าไปในหน้ากากดำน้ำจนทำให้เข้าไปในปาก จมูก และตา ครูฝึกจึงเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่เห็นครูฝึกเข้าไปช่วยเหลือได้สักครู่ น้ำที่เชี่ยวกรากได้พัดครูและศิษย์หายไปต่อหน้าต่อตาผู้ที่ดำน้ำอยู่ใกล้ๆ โดยได้พยายามติดตามแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว จนต้องเกาะก้อนหินเอาไว้

 พล.ร.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า ได้ค้นหาผู้สูญหายร่วมกับตำรวจน้ำสัตหีบ ตั้งแต่ทราบข่าวจนพระอาทิตย์ตกดินก็ยังไม่พบนักดำน้ำ จึงให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 1 เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำ และเครื่องมือในการค้นหา และประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ช่วยกันค้นหาในวันต่อไป ถ้ามีชีวิตรอดก็คงจะมีเรือประมงพบ หรือลอยติดเกาะต่างๆ แต่ถ้าไม่พบก็อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ปรับแผนอากาศยานลาดตระเวน และให้เรือตรวจการณ์ตระเวนหาจนกว่าจะพบ