คุกตลอดชีวิต'สมคิด'ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ

                   21 ก.พ.55 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ ด.3223/ 2548 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมคิด พุ่มพวง หรือชูชาติ ชาญชัย หรือชูชาติ กิ่งแก้ว หรือวิชัย พรหมพันธ์ หรือสุวัฒน์ ชาญณรงค์ อายุ 48 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ฉายา "แจ็ค เดอะริปเปอร์" ฆาตกรฆ่าสาวหมอนวดแผนโบราณต่อเนื่อง 5 ศพ เป็นจำเลย ในความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 339, 335

                   โดยคำฟ้องโจทก์บรรยายความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 30 -31 ม.ค.48 จำเลยได้ก่อเหตุชิงทรัพย์รวมหลายรายการ รวมมูลค่า 50,000 บาท ของ น.ส.วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องสาว“ แสงตะวันคาเฟ่”จ.มุกดาหาร ไปโดยทุจริต ใช้กำลังประทุษร้ายจับ น.ส.วารุณี มัดมือไพล่หลังด้วยผ้าเช็ดหน้าแล้วจับกดน้ำตายคาอ่างอาบน้ำ เหตุเกิดที่ห้องพักเลขที่ 609 โรงแรมพลอยพาเลซ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธในชั้นศาล

                   คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ส.ค.51 ว่า จำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นให้ประหารชีวิตฐานฆ่าผู้อื่น และจำคุก 3 ปี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คำสารภาพในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และให้ชดใช้ราคาค่าทรัพย์สินแก่ญาติผู้ตายจำนวน 50,000 บาท จำเลยอุทธรณ์

                   ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือและตรวจสำนวนแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.48 น.ส.วารุณี ผู้ตายถูกฆ่าสภาพศพถูกมัดมือไพล่หลังนอนคว่ำหน้าจมในอ่างน้ำภายในห้องพัก 609 รร.พลอยพาเลซ โดยสร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ และรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหายไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยได้แจ้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ในภายหลัง

                   คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มีพนักงาน รร.พลอยพาเลซ ซึ่งจำเลยได้ขอให้หาหญิงบริการมาร่วมหลับนอนด้วย และคนขับรถรับส่งจำเลยในที่เกิดเหตุ เบิกความตามหน้าที่ระหว่างเกิดเหตุเชื่อมโยงกัน ไม่มีเหตุปรับปรำ น่าเชื่อถือรับฟังได้ ที่จำเลยอ้างว่าไปโรงแรมเพื่อนัดเจอนายสมพร สามีของผู้ตาย แต่ภายหลังผู้ตายตามสามีมาด้วย ทำให้จำเลยต้องเปิดห้องพักเพิ่มนั้น มีเพียงจำเลยที่เป็นพยานเบิกความเอง ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีเหตุผลสนับสนุน อีกทั้งการเปิดห้องพักเพิ่มก็เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น ขณะที่หลังถูกจับกุมจำเลยรับสารภาพ พร้อมกับเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุแต่ละจุด โดยมีทั้งประชาชนเจ้าหน้าที่โรงแรมและสื่อมวลชนร่วมอยู่ด้วย จึงเชื่อว่าจำเลยนำชี้จุดด้วยความสมัครใจ ซึ่งได้กระทำโดยเปิดเผย ส่วนที่จำเลยอ้างว่านำชี้จุดตามที่ พ.ต.ต.ชัดชัย เลี่ยมสงวน พนักงานสอบสวนนั้น ไม่มีเหตุผลให้รับฟังได้  ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

                   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความผิดของนายสมคิดนั้น ยังมีคดีที่ศาลพิพากษาแล้วอีก 4 สำนวน 1.คดีดำที่ อ. 3232/2548 ก่อเหตุฆ่า น.ส. สมปอง พิมพรภิรมย์ อายุ 25 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณ ที่โรงแรมปิยะแมนชั่น จ. บุรีรัมย์ ในปี 2548 ศาลอาญา พิพากษาประหารชีวิตเมื่อวันที่ 12 ก.พ.53 แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

                   2.คดีหมายเลขดำ ด.3184/2548 กรณีที่ใช้กำลังประทุษร้ายบีบรัดคอ น.ส. ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณเสียชีวิต เหตุเกิดที่จ.ลำปาง เมื่อปี 2548 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต

                   3.คดีหมายเลขดำ ด.3776/2548 กรณีทำร้าย นาง พัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ จนขาดอากาศหายใจและลักทรัพย์ ที่ จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.48 โดยศาลอาญา พิพากษาเมื่อวันที่ 21 มี.ค.54 ให้จำคุกตลอดชีวิต

                   และ 4. คดีหมายเลขดำ ด.3231/2548 ฆ่าน.ส. พรตะวัน ปังคะบุตร ผู้ตาย โดยมีเจตนาฆ่าและลักเอาโทรศัพท์มือถือ 1 รายการของผู้ตาย เหตุเกิด ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 17-19 มิ.ย.2548 โดยศาลอาญา พิพากษาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.54 ให้จำคุกตลอดชีวิต