"ดาดาโรตีโอ่ง"สูตรอาหรับไร้น้ำมัน-สำหรับคนกลัวอ้วน | คมชัดลึก

 เกษมบอกว่า เมื่อยังหนุ่มยึดอาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินสดสารพัดชนิด เร่ขายทั่วประเทศไทยตั้งแต่ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ และอีสาน กระทั่งมีบริษัทใหญ่นำระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อน จึงเลิกอาชีพขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามาปักหลักอยู่ในกรุงเทพฯ ขายโรตีโอ่งสูตรอาหรับ มาดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมของคนไทย เนื่องจากชาวอาหรับจะบริโภคโรตีเป็นอาหารหลักกับแกง แต่คนไทยบริโภคโรตีเป็นขนมหวาน จึงมีการดัดแปลงให้เนื้อโรตีนุ่มและมีไส้หวาน 9 ไส้ คือไส้ดั่งเดิม มีนม เนบ น้ำตาล ไส้สังขยาใบเตย ไส้ข้าวโพด ไส้ช็อกโกแลต ไส้กล้วยหอม ไส้สตรอเบอร์รี่ ไส้บลูเบอร์รี่ ขายอันละ 10 บาท และไส้พริกเผาขายอันละ 15 บาท นอกจากนี้ยังมีโรตีกินกับแกงขายชุดละ 40 บาท เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2524 ชื่อ "ดาดาโรตีโอ่ง" รวมเวลา 28 ปีแล้ว

 เกษมบอกว่า ในช่วงแรกใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายตามชุมชนต่างๆ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นรถปิกอัพไปจอดขายย่านชุมชนอาทิตย์ละ 6 วัน คือวันอาทิตย์ขายย่านเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง วันจันทร์ขายซอยหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตหัวหมาก วันอังคารขายย่านสวนพฤกษศาสตร์ คลองจั่น วันพุธขายที่ย่านถนนพัฒนาการ วันพฤหัสบดีขายที่แฟลตคลองจั่น และวันศุกร์ขายย่านนครไทย ลาดพร้าว ส่วนวันเสาร์หยุดถือเป็นวันครอบครัว ในแต่ละวันจะขายประมาณ 4 ชั่วโมง คือตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. ขายได้วันละ 200 อัน มีกำไรตกวันละกว่า 1,000 บาท นอกจากนี้ให้ลูกชายและลูกสาวเปิดสาขาอีก 1 แห่งย่านถนนราษฎร์พัฒนา (ซอยมิสทีน) เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ และกลางเดือนพฤษภาคมนี้ จะเปิดสาขาที่ 3 อีก 1 สาขา ย่านถนนเฉลิมพระเกียรติ เขตประเวศ โดยให้ลูกชายคนเล็กซึ่งกลับมาจากอียิปต์ดูแลกิจการ    
 
 "คุณพ่อผมเป็นชาวอินเดีย อพยพมาเมืองไทยกว่า 70 ปีแล้ว แต่ผมเกิดที่ จ.ภูเก็ต ในครอบครัวของคุณพ่อนั้นกินโรตีกับแกงเป็นอาหารหลัก ทำให้คุณพ่อผมมีความชำนาญในการทำโรตีโอ่ง เป็นสูตรที่คุณพ่อได้มาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย เรียกว่าสูตรอาหรับ ผมเองก็ทำโรตีโอ่งเป็นมาตั้งแต่เด็ก เพราะบางครั้งต้องทำกินเอง แต่โดยทั่วไปแล้วคนไทยจะกินโรตีเป็นขนมหวาน เป็นโรตีแบบธรรมดาคือใช้น้ำมันทอด กินเยอะทำให้อ้วนได้เพราะมีไขมัน ผมจึงขายโรตีโอ่งไม่ใช้น้ำมัน ซึ่งจะแปลกกว่าคนอื่น เหมาะสำหรับคนที่กลัวอ้วน ส่วนแป้งที่ทำโรตีนั้นเป็นแป้งอาตา สั่งมาโดยตรงจากประเทศอินเดีย ขายมา 28 ปีแล้ว สามารถส่งลูกเรียน 4 คน ในจำนวนนี้ 3 คนส่งเรียนที่ประเทศอิรัก อียิปต์ และรัสเซีย 1 คน จบปริญญาโท ปัจจุบันทำงานที่สถานทูตไทยประจำกรุงมอสโก ซึ่งเงินได้มาจากการขายโรตีโอ่งทั้งนั้น" เกษตรกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 ด้าน อนุชา  ผิวคำ บุตรชายวัย 26 ปี ซึ่งเปิดสาขาร้านดาดาโรตีโอ่งย่านถนนราษฎร์พัฒนา บอกว่า หลังจากที่เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 จากเมืองไทยแล้ว ไปเรียนต่อที่ประเทศอิรัก เรียนได้ 2 ปีเกิดสงคราม เป็นช่วงที่เครื่องบินรบสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรถล่มกรุงแบกแดด จึงกลับมาเมืองไทย และไปเรียนต่อที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ได้ไม่ถึงปี กลับมาคัดเลือกทหารหยิบได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหาร 2 ปี รู้สึกว่าหมดไฟที่จะไปเรียนต่อ จึงเปิดร้านดาดาโรตีโอ่งตามเจตนารมณ์ของคุณพ่อที่ต้องการให้ลูกเปิดสาขาขายโรตีโอ่ง ซึ่งคุณพ่อถือเป็นเจ้าตำรับเจ้าแรกของประเทศไทยที่ขายโรตีโอ่ง โดยมีพี่สาว "บุสรา ผิวคำ" มาช่วยอีกแรงหนึ่ง 

 ส่วน "บุสรา" บอกว่า ช่วยน้องชายขายโรตีโอ่งมาเกือบ 2 ปีแล้ว จะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าอุดหนุนทั้งลูกค้าประจำ และขาจรในแต่วันจะขายได้ตกวันละราว 200 อัน อันละ 10 บาท หากหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรกว่า 1,000 บาท ลงทุนทั้ง 2 ร้านตกวันละราว 2,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีกาแฟ ชา อีกตกวันละราว 600-800 บาท  ถือว่ารายได้พออยู่ได้ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำเช่นปัจจุบัน

 "คนที่ชอบกินโรตี มักจะแวะซื้อบ่อย เพราะลูกค้าบอกว่ากินแล้วไม่เอียน ไม่มีน้ำมัน ยิ่งผู้หญิงเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่กลัวจะอ้วน พอเห็นโรตีของเราไม่ใช้น้ำมันจึงแวะซื้อประจำ ที่สำคัญของเรามีไส้ให้เลือกถึง 9 ไส้ นอกจานี้ทางร้านยังรับทำทั้งโรตีโอ่งแบบไส้ หรือโรตีโอ่งกินแกงสำหรับงานนอกสถานที่อีกด้วย" บุสรากล่าว
 นับเป็นอีกหนึ่งกิจการที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นกิจการที่ลงทุนน้อย แต่มีกำไรงามพอสมควร
       
ง่ายๆ ในการทำโรตีโอ่ง-ไส้สังขยา

 การทำโรตีโอ่งนั้นขั้นตอนไม่ซับซ้อนนัก คือนำแป้งอาตา ที่นำเข้าจากอินเดียขนาดแล้วแต่ต้องการ มาผสมกับเกลือ น้ำตาลและเนยเล็กน้อย ปั่นกับเครื่องปั่นแป้งใช้เวลาราว 15-20 นาที จนแป้งมีความเหนียวหนึบ จากนั้นมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเท่าไข่ไก่
 ส่วนโอ่งนั้นเป็นโอ่งตรามังกรทั่วไปที่มีขายตามท้องตลาดขนาดเส้นผ่านศูนย์ราว 20 นิ้ว ใส่ถ่านไว้ด้านล่าง แต่เพื่อความสวยงาม เกษม  ผิวคำ ได้ออกแบบรูปทรงที่ครอบโอ่งเพื่อให้ดูสวยงาม และเก็บความร้อนได้ดี ทำด้วยสเตนเลส 
 เวลาทำโรตีคือนำแป้งที่ปั้นเป็นก้อนมาทับบนลูกประคบที่ทำด้วยผ้าขนาดกะลามะพร้าว แล้วคลึงแป้งโรตีให้แบนหนาพอประมาณนำแปะติดผิวโอ่งด้านในใช้เวลาราว 10 วินาทีก็จะได้โรตีโอ่งไร้น้ำมัน แล้วใส่ไส้ตามที่ลูกค้าต้องการ ตัดใส่จานหรือห่อกระดาษก็ได้
 ส่วนเคล็ดลับในการทำไส้สังขยาใบเตยนั้นมีส่วนผสมคือใบเตย 1 กำ ต้มกับน้ำให้เดือด นำน้ำใบเตยคั้นกะทิ 1 กิโลกรัม แป้งข้าวสาลี 2 ขีด น้ำตาลครึ่งกิโลกรัม นมข้นครึ่งกระป๋อง ไข่ไก่ 1-2 ฟอง เกลือเล็กน้อย แล้วตั้งบนไฟให้เดือดเคี้ยวราว 30-45 นาที พอเหนียวยกลงรอให้เย็นสามารถรับประทานได้เลย     

 ดลมนัส  กาเจ