ข่าว

หมอผ่าตัดด่วนขาซ้ายมือบึ้มกรุง

หมอผ่าตัดด่วนขาซ้ายมือบึ้มกรุง

14 ก.พ. 2555

รพ.จุฬาฯเผยตัดด่วนขาซ้ายมือบึ้มกลางกรุงซอยสุขุมวิท 71 เชื่อโอกาสรอดสูง แต่ต้องรอดูอาการอีก 72 ชั่วโมง "ปานศิริ" สั่งล่า2คนร้ายหวั่นบึ้มซ้ำรอย เชื่อมีสาวไทยร่วมแก๊ง

             เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ชั้น 10 ตึก สก. รพ.จุฬาลงกรณ์ รศ.นพ.ประเสริฐ ตั้งวิจิตรศิลป์ รองผอ.ฝ่ายบริหาร รพ.จุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วยรศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ รองผอ.ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ผศ.นพ.โสภาคย์ มนัสนยกรณ์ ผช.ผอ.ด้านกายภาพและอาคาร และ รศ.นพ.ศิรชัย จินดารักษ์ หัวหน้าฝ่ายศัลยศาสตร์ ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้ากรณีผู้ป่วยชาวต่างชาติ ที่ถูกระเบิดหน้าโรงเรียนเกษมพิทยาว่า  ขณะนี้ผู้บาดเจ็บอยู่ห้องฉุกเฉิน แพทย์ทำการผ่าตัดตั้งแต่เวลา 16.30 น.

            อาการเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บมาที่โรงพยาบาลด้วยอาการสาหัสมาก ขาข้างขวาขาด ขณะที่ขาข้างซ้ายเกือบขาด มีสภาพร่องแร่ง ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องตัดขาข้างซ้ายทิ้งด้วย เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่ กล้ามเนื้อ กระดูกถูกทำลายมาก ไม่สามารถต่อได้ หากเก็บไว้จะติดเชื้อรุนแรง ส่วนขาข้างขวาไม่พบตั้งแต่ถูกนำส่ง ขณะเดียวกันนัยน์ตาขวาก็ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก รวมทั้งยังได้รับบาดเจ็บภายในช่องท้อง ส่วนสภาพภายนอก ผิวหนังมีลักษณะถูกไฟเผา

             นพ.รัฐพลี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางคณะแพทย์กำลังช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ โดยแพทย์ได้ให้ออกซิเจนทางท่อหายใจ ซึ่งการเต้นหัวใจเร็ว โดยเต้น 122 ครั้งต่อนาที หายใจ 24 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต 126/78 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งถือไม่สูงมาก นอกจากนี้ ยังใส่ปลอกคอป้องกันการเคลื่อนของกระดูกต้นคอ

             “แม้ผู้บาดเจ็บจะมีอาการสาหัสมาก แต่คณะแพทย์จะรักษาเต็มที่ และเชื่อว่ามีโอกาสรอดสูง ซึ่งต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดคาดว่าต้องรออีก 72 ชั่วโมง จึงจะพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามโอกาสรอดมีสูง แต่ไม่สามารถบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ได้” นพ.รัฐพลี กล่าว

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดถูกส่งตัวจาก รพ.กล้วยน้ำไท มาที่ รพ.จุฬาฯ เมื่อเวลา 15.05 น. ส่วนบรรยาการโดยรอบของ รพ.จุฬาฯ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก 191 และของสน.ลุมพินี มารักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะทางเข้าออกและตึกที่คนร้ายรักษาตัวอยู่

 

"ปานศิริ"เชื่อมีสาวไทยร่วมมือแก๊งปาบึ้ม

             พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านพบหนังสือเดินทางของคนร้ายเป็นชาวอิหร่าน ส่วนที่คาดการณ์กันว่าจะเชื่อมโยงกับนายอาทริส ฮุสเซน ผู้ต้องหาชาวเลบานอน สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ถูกจับกุมข้อหามีความผิดตามพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ เบื้องต้นกลุ่มของนายอาทริส ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับกลุ่มชาวอิหร่าน อาจจะต้องตรวจสอบต่อไปอีกครั้งว่าเชื่อมโยงหรือไม่ ตอนนี้อาจจะมีหญิงชาวไทยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

สั่งล่า2คนร้ายหวั่นบึ้มซ้ำรอย

             พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจสันติบาล เร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่หลบหนีอีก 2 รายแล้ว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไปก่อเหตุที่อื่นอีก ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระบุว่า ทางตำรวจสันติบาลไม่ได้มีการรายงานทางด้านการข่าวว่าจะมีการก่อเหตุลักษณะนี้ในวันวาเลนไทน์แต่อย่างใด
       
             ด้าน พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นชนิดลูกเกลี้ยง ยังไม่ทราบชนิด ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้าตรวจสอบอีกครั้ง


พบมือบึ้มอิหร่านบินจากกรุงโซลมาภูเก็ต8ก.พ.

             รายงานข่าวแจ้งว่า นายซาอิฟ โมราบิ คนร้ายชาวอิหร่านที่ปาระเบิดพลาดใส่ตัวเองจนขาขาดทั้ง 2 ข้าง มีอีกชื่อคือ นายโมราติ ซาอิด อายุ 28 ปี ถือหนังสือเดินทางอิหร่าน เลขที่ F22592597 และเข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขึ้นเครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 655 เดินทางมาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มาลงที่ จ.ภูเก็ต จากนั้นได้มาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเกิดเหตุกับ น.ส.โรฮานี ไลลา อายุ 32 ปี และเพื่อนต่างชาติรวม 6 คน โดยพบว่า น.ส.โรฮานี เดินทางเข้าออกประเทศไทยมาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2554 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2554 กระทั่งล่าสุดเดินทางออกนอกประเทศไทยไปในวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา