ข่าว

ค้นเรือนจำเขาบินเจอของต้องห้าม100รายการ

ค้นเรือนจำเขาบินเจอของต้องห้าม100รายการ

08 ก.พ. 2555

พ่อเมืองโอ่งผนึกกำลังหลายหน่วยงานบุกจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนผู้ต้องขังในแดน 7 และแดน 9 เรือนจำกลางเขาบิน เจอสิ่งของต้องห้ามกว่า 100 รายการ ส่วนเรือนจำเพชรบุรี ตร.-ทหารสนธิกำลังบุกจู่โจมค้นเรือนไม่พบของต้องห้าม

          เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 8 ก.พ. นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ผนึกกำลังร่วมกับ พล.ต.ต.นิพนธ์  ภู่พันธ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี และนายธนวีร์ ประวัติ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของภูธร จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมกว่า 200 นาย จู่โจมเข้าตรวจค้นเรือนนอนของผู้ต้องขังในแดน 7 และแดน 9 เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี หลังมีการทยอยนำผู้ต้องขังรายสำคัญในคดียาเสพติดจากคลองไผ่ มาอยู่ในแดนดังกล่าวบ้างแล้ว
 
          จากการตรวจค้นอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ โนเกีย 1 เครื่องซุกซ่อนอยู่ในล๊อกเกอร์ของผู้ต้องขังรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบซิมโทรศัพท์ของทรูมูฟอีก 4 อันซุกซ่อนอยู่ในที่นอน แบตเตอร์รี่โทรศัพท์พร้อมสายชาร์จ สายไฟฟ้า และพบอุปกรณ์การเล่นการพนัน สิ่งเทียมอาวุธปลายแหลมที่ผู้ต้องขังผลิตขึ้นมาเองรวมแล้วกว่า 100 รายการ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมด
 
          ซึ่งการจู่โจมเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เนื่องจากทราบข่าวว่ามีสิ่งของต้องห้ามอยู่และเป็นการตรวจค้นเพื่อเตรียมสถานที่ไว้ต้อนรับกลุ่มผู้ต้องขังรายสำคัญที่ถูกคัดรายชื่อมาจาก เรือนจำคลองเปรม บางขวาง บำบัดกลาง เรือนจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา เรือนจำกลางพิษณุโลก เรือนจำกลางระยอง และเรือนจำกลางราชบุรี เนื่องจากมีประวัติเป็นผู้ค้ายาเสพติด และยังมีพฤติการณ์เคลื่อนไหวในการติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับเครือข่ายบุคคลภายนอก ที่จะถูกทยอยส่งตัวมาอีกจำนวนกว่า 200 คนมาอยู่ในเรือนจำกลางเขาบิน เพราะมีระบบในการตัดสัณญาณโทรศัพท์ที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นแห่งแรกของประเทศ ซึ่งจะทำให้วงจรในการติดต่อซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำกับกลุ่มเครือข่ายภายนอกนั้นหมดไป


ตร.-ทหารสนธิกำลังบุกจู่โจมค้นเรือนจำเพชรบุรีไม่พบของต้องห้าม

          ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจงหวัดเพชรบุรี สารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 15 อาสมัครรักษาดินดินจังหวัดเพชรบุรี ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเรือนจำกลางเพชรบุรี กว่า 100 นายจู่โจมตรวจค้นหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามในเรือนจำกลางเพชรบุรี โดยทำการตรวจค้นในเรือนนอน โรงงาน โรงเลี้ยง สถานพยาบาล ห้องน้ำ ที่ตากผ้า ที่เก็บของผู้ต้องขัง รวมทั้งที่ทำงานของเจ้าหน้า ซึ่งผลปรากฏไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย หรือของต้องห้ามแต่อย่างใด
 
          ปัจจุบันเรือนจำกลางเพชรบุรี ผู้ต้องขังชาย 1648 คน หญิง 276 คน ผู้ต้องกักขังชาย 5 คน ผู้ต้องกักขังหญิง 3 คน ผู้ต้องขังชายเรือนจำเขากลิ้ง92 คน เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด ประเภทยาบ้าชาย 977 หญิง 145 รวม 1122 คน คิดเป็นร้อยละ 64 รองลงมาคือคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชาย 164 หญิง 43 คิดเป็นร้อยละ 12 ตามด้วยคดีความผิดต่อร่างกาย ชีวิต รวม 174 คน ร้อยละ10 ความผิดอื่นๆ รวม116 คน ร้อยละ 7 ความผิดเกี่ยวกับเพศ เป็นชายทั้งหมด 95 คน ร้อยละ 5ส่วนอันดับสุดท้ายคือคดียาเสพติดประเภท กัญชา เฮโรอีน ร้อยละ 2 สภาพภายในเรือนจำมีความแออัดเนื่องจากเรือนนอนชายรับผู้ต้องขังได้เต็มที่ 900 ราย เรือนนอนหญิง รับผู้ต้องขังได้เต็มที่ 150 ราย แต่จำนวนผู้ต้องขังจริงมากกว่านั้น จึงเกิดสภาพผู้ต้องขังล้นเรือนจำ นอกจากนี้ในการตรวจค้นยังพบผู้ต้องขังหญิงจำนวน 2 รายได้คลอดลูกระหว่างต้องขัง โดยเป็นเด็กหญิงอายุประมาณ 1 เดือนเศษเซซึ่งทางเรือนจำให้เลี้ยงลูกจนครบกำหนดก็จะให้ญาติมารับตัวไปเลี้ยงนอกเรือนจำต่อไป เนื่องจากสภาพภายในเรือนจำที่แออัดดังกล่าวทำให้เด็กทารกมีความเสี่ยงต่อโรคภัย
 
          นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่าการตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามแผนของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ซึ่งวันนี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจู่โจมตรวจค้น ซึ่งผลดำเนินการไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และการตรวจค้นเรือนจำ ทางผู้บัญชาการเรือนจำได้ทำประจำอยู่แล้ว

 

บุกค้นคุกชายแดนแม่สอด

          พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก พ.ต.ท.ศิระ อาชวสุนทรางกูล รอง ผกก.ปป. นำกำลังตำรวจบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ อ.แม่สอด จ.ตาก นำโดยนายสุชาติ แก้วอ้น ผู้บัญชาการเรือนจำแม่สอด สนธิกำลังกว่า 100 นาย บุกตรวจค้นเรือนจำแบบ X-RAY ทุกตารางนิ้ว เพื่อตรวจค้นยาเสพติด อาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ป้องกันปราบปรามกวาดล้างยาเสพติด

          นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นและดูพฤติกรรมนักโทษผู้ต้องขังหวั่นจะก่อเหตุจลาจลเหมือนที่เรือนจำจังหวัดตรัง เพราะอาจจะมีการลอกเลียนแบบ "ตรังโมเดล"มาก่อเหตุประท้วงหรือก่อการจลาจล เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มาตรการป้องปราม การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่พบยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆ พบเพียงยาแก้ไข้หวัด ไฟแช็ค เหล็กสักยันต์ จึงเก็บรวบรวมไว้ โดยเฉพาะไฟแช็ค หรือไม้ขีดเพราะอาจจะมีการก่อเหตุเผาเรือนจำเหมือตรังโมเดล

          พ.ต.อ.เดชชาติ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการสนองและขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการกวาดล้างปราบปรามยาเสพติด ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ และทางตำรวจแม่สอดได้กำหนดแผนปฎิบัติการ ตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆ เช่นสถานบันเทิง-เรือนจำ-และแหล่งเป้ามหายที่คาดว่าจะมียาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย โดยตำรวจจะแสวงหาความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการปฎิบัติการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท สำหรับสถานบันเทิงนั้น ได้มีการตรวจค้นและกวดขันทุกคืน

          สำหรับเรือนจำอำเภอแม่สอด มีนักโทษจำนวน 721 คน เป็นชาย 607 คนและเป็นหญิง 114 คน เป็นเรือนจำที่อยู่ติดชายแดนไทย-พม่า และมีนักโทษต่างชาติต้องโทษจำคุกอยู่จำนวนไม่น้อย นับเป็นแหล่งพื้นที่เป้าหมายที่ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการวางแผนปฎิบัติการตรวจค้นหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล