
รับตัว'พ.ต.พันยาบ้าพันล้าน'สอบเครียด
ออกหมายจับ "พ.ต.ปิยะณัฐ"ทหารกองทัพภาคที่ 3 มีส่วนพัวพันยาเสพติดพันล้าน ตำรวจภาค 6 พร้อม ปปส.-ตชด.-กอ.รมน. รุดสอบเครียดในค่ายทหารวังทอง เตรียมรับตัวเข้ากรุงเทพฯดำเนินคดี รวบแล้ว"โจ๊ก"มือขวา"นิพนธ์"
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมทหารช่างที่ 3 ค่ายสมเด็จบรมไตรโลกนารถ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บรรดาผู้สื่อข่าวหลายแขนงเดินทางติดตามข่าว กรณีที่ พ.ต.ปิยะณัฐ เจตน์จำรัส นายทหารสังกัดหน่วยทหารช่าง กองทัพภาคที่ 3 มีส่วนพัวพันคดียาเสพติดพันล้าน ตามที่นายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาให้การซัดทอด
ล่าสุดเจ้าหน้าตำรวจสืบสวนภาค 6 และเจ้าหน้าที่ ปปส.ตชด.กอ.รมน,ช่าวกรองทหาร หลายนายได้เดินทางขึ้นไปสอบสวนที่ขั้น 2 กองบังคับการกรมทหารช่างที่ 3 โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 หน่วยงานสืบสวนขยายผลตลอดทั้งวัน พร้อมพูดคุยประสานกับผู้บังคับบัญชาเพื่อนำไปดำเนินต่อไป ก่อนเตรียมควบคุมตัวพ.ต.ปิยะณัฐ
กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. มีความพยายามพาตัว พ.ต.ปิยะณัฐ ไปสอบสวนที่อื่นอีกครั้ง แต่ผู้สื่อข่าวเผ้ารอตั้งแต่เช้าจำนวนมากจึงต้องสอบสวนบริเวณชั้น 2 ที่ค่ายบรมไตรโลกรถ โดยมี "หมายจับ" จากศาลกรุงเทพฯ ออกมาเมื่อเวลา 12.00 น.ทั้ง 5 หน่วยงานได้ทำการสอบสวนและขยายผลตามเส้นทางยาเสพติด โดยพ.ต.ปิยะณัฐ เซ็นต์รับทราบเป็นผู้ถูกกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้วและให้การอื่นๆที่เป็นประโยชน์
แหล่งข่าวตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า การจับตัว พ.ต.ปิยะณัฐ จากกรมทหารช่างที่ 3 พร้อมสอบสวนเจ้าตัวโดยรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างขนจาก จ.เชียงราย ไปกรุงเทพฯ มาในราคา 1 ล้านบาท โดยเป็นคนขับรถ และให้การเป็นประโยชน์อื่นๆ เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลไปยังต้นตอต่อไป จากนั้นเวลา 16.30 น.รับตัวไป "ผู้กองณัฐ" ไปยังเซฟลับแห่งหนึ่งไม่เป็นที่เปิดเผย จากนั้นหน่วยงานจากกรุงเทพฯ เดินทางมารับตัวไปสอบสวนต่อทันที
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมทหารช่างที่ 3 ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่าตำรวจจะมารับตัวพ.ต.ปิยะณัฐ ในเวลา 16.30 น. ของวันเดียวกัน แต่ไม่บอกว่าสถานที่แห่งใด
รวบแล้ว"โจ๊ก"มือขวาพ่อค้ายาบ้าพันล้าน
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร. ช่วยราชการ ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงผลจับกุมนายธัชกร หรือโจ๊ก ช่อสัตยธรรม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซอยรามคำแหง 54 (มหาสิน) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เครือข่ายยาเสพติดของนายนิพนธ์ หรือแดง กัณชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลาง รถยนต์จำนวน 19 คัน เจสกี 1 คัน อาวุธปืนขนาด .22 พร้อมกระสุนปืน จำนวน 7 นัด และยาไอซ์ จำนวน 500 กรัม โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 สืบทราบว่านายธัชกร หรือโจ๊ก เป็นเครือข่ายและเป็นผู้ช่วยเหลือของนายนิพนธ์ในการหลบหนีคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพบตัวนายธัชกรอยู่ที่ลานจอดรถภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ จึงได้ควบคุมตัวไว้และได้ตรวจค้นรถยนต์ทะเบียน ญน 7065 กทม.ที่นายธัชกรขับมา จากการตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดบรรจุอยู่ในด้านหลังเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสืบสวนขยายผล
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า นายธัชกรรับสารภาพว่ายังมียาไอซ์ของตนอีกจำนวนหนึ่งซุกอยู่ในรถยนต์และที่บ้านพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปทำการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บนถนนภายในหมู่บ้านมาริสา ซ.6 ถนนสุเหร่า คลอง 1 แขวงและเขตบางชัน กทม.พบยาไอซ์จำนวน 0.5 กก. และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์อีกจำนวน 19 คัน โดยนายธัชกรให้การรับสารภาพว่า เงินที่ได้จากการซื้อขายยาเสพติดทั้งหมดได้นำมาทำธุรกิจเปิดเต็นท์รถและซื้อขายรถยนต์นำมาใช้ในการกระทำความผิด โดยเปิดขายเต็นท์รถมาแล้ว 2 ปี และรู้จักกับนายนิพนธ์ที่ทำธุรกิจเต็นท์รถ โดยนายนิพนธ์จะเป็นคนที่ชี้แนะในการทำธุรกิจเต็นท์รถ ตนจะมีหน้าที่แพ็คยาเสพติดที่นายนิพนธ์นำมาฝากไว้ ทั้งนี้ทาง ปปง.ก็จะตรวจสอบและยึดทรัพย์สินเกี่ยวกับการฟอกเงินในคดีรถยนต์ทั้งหมด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่าย และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ราชทัณฑ์จู่โจมคุกบางขวางหลัง"นิพนธ์"ซัดทอดนักโทษ
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังนายนิพนธ์ให้การซัดทอดเป็นเครือข่ายยาเสพติดร่วมกับนายพีระยุทธ์ แพศย์สกล หรือ ตี๋ นักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี กรมราชทัณฑ์จึงประสานกับทางตำรวจ เพื่อนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของนายพีระยุทธ์ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าเครือของนายพีระยุทธ์ในเรือนจำมี 3 คน ผลการจู่โจมตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่ไม่ได้อยู่กับนายพีระยุทธ์ และช่วงเช้าในวันที่ 26 ม.ค. เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมเข้าตรวจค้นอีกรอบก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้จากการรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายพีระยุทธ์ ช่วงที่ผ่านมายังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ
ด้านนายวิษณุ ประจงกิจ ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง กล่าวว่า จากการจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนของนายพีระยุทธ์ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดในตัวนายพีระยุทธ์ นอกจากนี้นายพีระยุทธ์ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้บงการสั่งยาเสพติดตามที่นายนิพนธ์กล่าวหาซัดทอด ซึ่งทางเรือนจำก็คงต้องสอบสวนนายพีระยุทธ์นี้ต่อไป โดยขณะนี้ได้สั่งให้นำนายพีระยุทธ์ หรือตี๋ ไปแยกขังเดี่ยวภายในแดนความมั่งคงสูง เพื่อรอการสอบสวนขยายผลจากทางเรือนจำและตำรวจต่อไป
ปส.รวบพ่อค้ายาข้ามชาติ
เมื่อเวลา 15.00น. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.อาชนาวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.2 ร่วมแถลงจับกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 ราย ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 500 กรัม กัญชา 2,570 กรัม โคเคน 97 กรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 1คัน
โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บก.ปส.2 ร่วมกันจับกุม นายโอเคชูควู โจ แอกบา (okechukwk joe agba) อายุ 26 ปี และนายอนาโย ดูนาตัส โอจูโร (anayo donatus ojuro) อายุ 36 ปี ชาวไนจีเรียทั้งคู่ พร้อมของกลางยาไอซ์ 500 กรัม โดยสามารถจับกุมได้เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 25 ม.ค. ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ปากซอยสุมขุมวิท 66/1 ถนนสุมขุมวิท แขวงและเขตบางนา กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
อีกคดีเป็นเจ้าหน้าที่ชุด บก.ปส.1 ร่วมจับกุม นายลอว์เรนซ์ นามดี้ โอกาโฟร์ หรือแดเนียล อายุ 29 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลาง โคเคน 97 กรัม กัญชา 2,570 กรัม โดยจับได้เมื่อวันที่ 25 ม.ค. เวลาประมาณ 16.30 น. ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดาภิเษก ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ตำรวจปทุมธานี ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด
เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สมิทธิ มุกดาสนิท รรท.ผบก.ภจว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง.ผบก.ภจว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผกก.สภ.คลองห้า นายสุวิทย์ คำดี นอภ.คลองหลวง ได้ระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับประกอบด้วย 1.นายสำรวย ไผ่งาม อายุ31ปีอยู่บ้านเลขที่109 หมู่ 14 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พร้อมด้วยของกลางจำนวน 20 เม็ด เงินสด 15,800 บาท 2.นายนเรศ หรือบอย แตงหมี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/224 หมู่ 3 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางนาไอซ์ 1.62 กรัม อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง เงินสด 4,500 บาท รายที่3.ชื่อนายประยงค์ เนื่องนาคา อายุ3ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีได้ของกลาง 2,600 เม็ดยาไอซ์10.22กรัมโดยแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.สมิทธิ มุกดาสนิท รรท.ผบก.ภจว.ปทุมธานีกล่าวว่าสืบเนื่องจากผู้บังคับบัญชาให้นโยบายตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดในพื้นที่อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้งซึ่งเช้ามืดวันนี้จึงได้ให้ สภ.คลองห้า ดำเนินการเอ๊กซ์เรย์ตรวจสอบในพื้นที่เกี่ยวกับผู้ข้องเกี่ยวยาเสพติดซึ่งมีนายสำรวย ไผ่งาม อายุ31ปีถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ทางตำรวจต้องการตัวซึ่งก่อนหน้านี้นายสำรวยได้เป็นคนขับรถให้กับ สจ.ชื่อย่อ "อ"และนายก.อบต.ชื่อย่อ "อ" คนหนึ่งโดยอาศัยนักการเมืองท้องในพื้นที่บังหน้าซึ่งสั่งการให้ทาง สภ.คลองห้าขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป