อึ้ง!พลุบึ้มสุพรรณฯลืออาถรรพณ์มังกร
ชาวบ้านลือหึ่ง!พลุระเบิด ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณฯ เหตุเกิดจากอาถรรพณ์มังกร
26 ม.ค.55 เหตุการณ์พลุระเบิดที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ในงานเทศกาลตรุษจีน หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านวิจารณ์กันต่างๆ นานา ทั้งเรื่องราวอาถรรพณ์ของรูปปั้นมังกรยักษ์ ซึ่งมีทั้งในทางที่ดีและไม่ดี โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ในงานแต่รอดพ้นปลอดภัยจากเหตุการณ์มาได้ส่วนใหญ่ เชื่อว่า นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองแล้ว ยังเชื่อว่า รูปปั้นมังกรยักษ์ช่วยปกป้องเอาไว้ เนื่องจากบริเวณที่จุดพลุอยู่ด้านหลังมังกร เมื่อเกิดระเบิดขึ้น ร่างของมังกรได้บังไว้ จึงส่งผลไม่ให้คนที่ดูการแสดงจำนวนมากด้านหน้ารวมทั้งผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดอีกหลายคนที่ร่วมงานไม่ได้รับอันตราย เพราะรูปปั้นมังกรบังไว้ให้ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการวิพากวิจารณ์ในการตรงกันข้ามว่า จุดที่มีก่อสร้างตัวมังกร ซึ่งทางด้านทิศฝั่งทิศเหนือติดกับกำแพง ด้านหลังและด้านข้างตัวมังกรมีชุมชนที่ถูกไฟไหม้ เจ้าที่แรง และมีการขอขมาไม่ถูกต้องก็เป็นได้ เพราะช่วงที่ดำเนินการก่อสร้าง ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รูปปั้นช่วงหัวมังกรมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อราวเดือน ก.พ.50 ทำให้คนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ ครั้งที่ 2 เดือน ธ.ค. 50 ไฟลุกไหม้ขณะคนงานกำลังอ๊อกเหล็กเชื่อมบริเวณหัวมังกรเช่นกันแต่สามารถดับไฟทัน และจนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด ตรงกับปีมังกรพอดี
ทั้งนี้ ที่วิพากวิจารณ์กันเช่นกันก็คือ การจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 16 ม.ค.-1 ก.พ. ซึ่งเป็นงานเทิดพระเกียรติพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย แต่มีการให้ความสำคัญน้อยกว่า งานตรุษจีน จึงอาจเป็นอาถรรพณ์เช่นกัน
นายเสมอ งิ้วงาม หรือที่รู้จักกันนามป๋อง พระเครื่อง เซียนพระชื่อดังชาวสุพรรณบุรี ซึ่งมีบ้านอยู่หลังมังกรและถูกไฟไหม้เช่นกัน กล่าวว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง เมื่อเกิดเรื่องรุนแรงขนาดนี้ อาจแสดงให้รู้ว่าไม่พอใจ และการก่อสร้างมังกรอาจจะโดดเด่นและบดบังทัศนียภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
"จริงอยู่ผู้คิดผู้ทำผู้ก่อสร้างอาจจะหวังดี สร้างขึ้นเพี่อชื่อเสียงของชาวสุพรรณบุรี แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะไม่ชอบ และก่อนหน้านี้ก็มีการส่งสัญญานมาแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ครั้งนี้ถึงกับพ้นไฟออกมาขนาดนี้ลองคิดกันดูเอาเอง ผมยังได้รับคำบอกเล่าจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ช่วงที่พลุล้มแต่หันหน้าไปทางเวทีที่มีการแสดง แต่คนจุดพลุรีบใช้เท้าเตะจนพลุหันออกไปทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและชุมชนวัดพระธาตุ" นายเสมอ กล่าว