ข่าว

คาดแมงมุมกัดปวดแขนแน่นอกตาย

คาดแมงมุมกัดปวดแขนแน่นอกตาย

24 ม.ค. 2555

ภรรยาปักใจเชื่อสามีถูกแมงมุมมีพิษกัดตาย ด้านสสจ.ภูเก็ต นำทีมแพทย์ที่รักษายันกระบวนการรักษาเป็นไปไปตามขั้นตอน ยังไม่สรุปเกิดจากสัตว์มีพิษ

              เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 มกราคม ที่หน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลถลาง น.ส.ปิยะนันท์ บุญศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่190/14 หมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมญาตินับสิบคน นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ไปขอรับศพนายวันชัย วงศีลกร อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.สกลนคร ที่เสียชีวิต ในใบมรณบัตรแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า แพ้พิษเฉียบพลันจากสัตว์ที่ไม่ทราบชนิดกัด เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สกลนคร
 
              น.ส.ปิยะนันท์กล่าวว่า เป็นพนักงานขายของที่ระลึกอยู่ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ส่วนสามีมีอาชีพขายผลไม้ สุขภาพแข็งแรง ก่อนเกิดเหตุเวลา 18.00 น. วันที่ 22 มกราคม สามีกลับมาจากขายผลไม้ เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. สามีเกิดอาการปวดแขนขวาอย่างรุนแรงและไม่สามารถยกแขนขึ้นได้ พอสังเกตดูใต้รักแร้ขวาพบเป็นจ้ำสีแดงคล้ายถูกสัตว์กัด สามีเล่าอาการปวดที่เกิดขึ้น จึงรีบพามาโรงพยาบาลถลางเวลา 02.00 น. วันที่ 23 มกราคม แพทย์สอบถามอาการและให้ยาแก้ปวดรับประทาน จากนั้นให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน และนัดมาพบอีกครั้งในช่วงเช้าวันที่ 23 มกราคม
 
              น.ส.ปิยะนันท์ กล่าวว่า เมื่อกลับถึงบ้านอาการของสามีก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งเวลา 06.00 น. วันที่ 23 มกราคม จึงรีบพาไปพบแพทย์อีกครั้ง แพทย์ได้เจาะเลือดไปตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ ระหว่างที่รอผลตรวจแพทย์ก็มาเจาะเลือดไปตรวจวินิจฉัยซ้ำอีก โดยระหว่างรอผลตรวจสามีมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก แพทย์ได้ช่วยปั๊มหัวใจ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด เชื่อว่าการเสียชีวิตของสามีน่าจะมาจากถูกแมงมุมกัด เพราะก่อนสามีจะมีอาการปวดและยกแขนไม่ขึ้น ตนเห็นแมงมุมตัวใหญ่ไต่ออกมาใกล้บริเวณที่สามีนอนพักผ่อนอยู่ เมื่อตรวจใต้รักแร้ก็พบรอยเป็นจ้ำคล้ายสัตว์กัด ประกอบกับแพทย์ชันสูตรการตายของสามีว่า แพ้พิษเฉียบพลันจากถูกสัตว์ร้ายไม่ทราบชนิดกัด
 
              "ฉันตั้งข้อสังเกตว่า แพทย์ให้เพียงยาแก้ปวดกับผู้ป่วยแล้วก็ให้กลับบ้าน ทั้งที่ฉันได้แจ้งแพทย์แล้วว่า สามีถูกแมงมุมกัด หากแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดและทำการรักษาตั้งแต่ตอนแรก มั่นใจว่าสามีจะไม่เสียชีวิต อยากฝากเตือนทุกคนว่า หากเจอแมงมุมตัวใหญ่ ขนาดประมาณเท่าหัวแม่มือ สีดำ ชอบอาศัยอยู่ตามซอกมุมบ้าน หรือซอกห้องน้ำ อย่าเข้าใกล้เด็ดขาด เพราะอาจจะถูกกัดและเสียชีวิตได้" น.ส.ปิยะนันท์ กล่าว
 
              วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พญ.ยุวลักษณ์ ผิวนวล นพ.ชยัญต์ รัตนวงศ์ และนพ.รัฐพล สร้างผล แพทย์โรงพยาบาลถลาง ร่วมกันแถลงข่าวที่เกิดขึ้น โดยมีญาติของผู้ตายมาร่วมรับฟัง
 
              นพ.ศักดิ์ กล่าวว่า เวลา 02.25 น. วันที่ 23 มกราคม มีผู้ป่วยเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลถลาง โดยให้ประวัติว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 22 มกราคม ไม่ทราบว่ามีสัตว์มีพิษชนิดใดกัดบริเวณข้อศอก หลังจากถูกกัดก็มีอาการปวด บวมแดง คัน บริเวณข้อศอก ไม่พบการอักเสบ แพทย์เวรได้ทำการตรวจรักษาพบว่า ผู้ป่วยมีสัญญาณชีพจร ระบบหลอดเลือดและปลายประสาทปกติ แพทย์จึงให้ยาลดอาการปวด การอักเสบ โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อและให้นอนพักสังเกตอาการ จนอาการดีขึ้นแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ และนัดให้มาตรวจอีกครั้งในตอนเช้า กระทั่งเวลาประมาณ 06.55 น.ผู้ป่วยกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากมีอาการปวด บริเวณแขนขวาบวมแดงมากขึ้น แพทย์จึงได้ตรวจระบบหลอดเลือดปลายประสาท และตรวจโลหิต พบว่าแขนขวามีอาการบวมแดงเล็กน้อย จึงให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และให้น้ำเกลือเพื่อสังเกตอาการ เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ป่วยขอเข้าห้องน้ำโดยมีญาติพาไป หลังจากกลับมาที่เตียงเกิดมีอาการแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อย แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ ทำการตรวจวัดชีพจร พบว่าชีพจรเบา วัดความดันไม่ได้ ม่านตาขยาย แพทย์ได้ฉีดยากระตุ้นหัวใจ ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แพทย์ได้รักษาตามขั้นตอนทางการแพทย์อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยผู้ป่วยได้ และผู้ป่วยได้เสียชีวิตลงเวลาประมาณ 13.00 น.วันดังกล่าว ซึ่งแพทย์วินิจฉัยอาการว่า เสียชีวิตจากภาวะช็อกจากการแพ้อย่างรุนแรง
 
              นพ.ศักดิ์ กล่าวอีกว่า คณะแพทย์ได้มีการประชุมหารือเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมลงชนิดใดที่กัดผู้ป่วยจนเสียชีวิต หากตายจากพิษของแมงมุมก็น่าจะเป็นรายแรกของประเทศ ส่วนความเป็นไปได้จากการถูกแมงมุมดำกัดนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากแมงมุมในประเทศไทยเป็นชนิดที่ไม่มีพิษรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต และยังไม่เคยมีรายงานว่า แมงมุมกัดแล้วตาย นอกจากนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป  ทั้งนี้ หากถูกแมลงกัดต่อยให้สังเกตลักษณะของแมลง และให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยทาแอมโมเนีย หรือประคบเย็น บริเวณที่ถูกกัด หากมีอาการปวด บวมแดง ผิดปกติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที