
โจรบุกเดี่ยวปล้นแบงก์ไทยพาณิชย์
โจรเหิม! บุกเดี่ยวปล้นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนสะแกงาม ก่อนเชิดเงิน 1.5 แสนหนีลอยนวล ตร.เร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
23 ม.ค.55 เวลา 16.00 น. ร.ต.อ.วิชิต จันทร์หอม พนักงานสอบสวน(สบ1) สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนสะแกงาม (พระราม2 ) ถนนสะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.รัษฎากร ยิ่งยง รรท.ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง.ผบก.น.9 พ.ต.อ.ยุคลเดช ตันสกุล ผกก.สน.ท่าข้าม และฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 1 ชั้น ปลูกติดกัน 3 ห้องโดยเปิดเป็นธนาคาร พบผู้เสียหายยืนรอให้การเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ ทราบชื่อคือ นายณัฐกิจ รุ่งพิพัฒน์ชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 / 4 ถ.สะแกงาม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเที่ยน เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านขายของโชห่วย ย่านสะแกงาม ก่อนเกิดเหตุได้นำเงินจำนวน 1.5 แสน มาฝากเวลาประมาณ 15.30 น. ระหว่างนั้นภายในธนาคารมีเจ้าหน้าที่และลูกค้าซึ่งเป็นหญิงอีก 2 คนและชายอีก 1 คน ขณะที่ตนกำลังยื่นเงินให้พนักงานที่เค้านเตอร์เพื่อตรวจสอบจำนวน โดยระหว่างที่พนักงานกำลังพิมพ์ข้อมูลอยู่นั้นก็มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สูงประมาณ 160 ซ.ม. สวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบสีดำคาดแดง สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีขาว กางเกงยีนส์ เดินเข้ามาที่เค้าน์เตอร์อย่างรวดเร็วพร้อมนำถุงสีน้ำตาล ภายในเป็นกล่องที่พันไว้ด้วยสก็อตเทปพันนาฬิกาติดไว้ พร้อมกับโชว์ปืนที่อยู่ภายในถุงสีฟ้าโดยมีปากกระบอกปืนโผล่ออกมาก่อนจะบอกพนักงานว่า เร็วๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบเงินที่วางอยู่ต่อหน้าพนักงาน จำนวน 1.5 แสนบาท ก่อนจะวิ่งออกไปอย่ารวดเร็ว โดยคนร้ายใช้ พาหนะเป็น จยย.ฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียนติดไว้ด้วยกระดาษ เอ 4 เขียนไว้ด้วยปากกาเมจิก เลข 539 ก่อนหลบหนี เข้าไปภายในซอยสะแกงาม 42
พ.ต.อ.รัษฏากร ยิ่งยง รรท.ผบก.น. 9 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคาดว่าคนร้ายน่าจะยืนซุ่มดูอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของธนาคารไปซื้อน้ำ จึงเข้ามาชิงทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายลงมือชิงทรัพย์ เวลา 15.52 ก่อนจะใช้เวลาในการทำงานเพียงไม่ถึงนาที ทั้งนี้ได้วิทยุประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้งจาก สน.บางขุนเทียน และสน.แสมดำ ให้ช่วยออกสกัดจับคนร้ายแล้ว
ด้าน พ.ต.อ. พรเทพ ธรรมจารี รองผบก.บก.สส.ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บภาพวงจรปิดจากทั้งของธนาคารและตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้หลบหนี เนื่องจากคาดว่าคนร้ายจะเคยก่อเหตุในหลายๆ พื้นที่
ต่อมาชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ก่อนกันบรรดาไทยมุงและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ห่างจากที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยในถุงน้ำตาลที่คนร้ายทิ้งไว้พบว่าไม่ใช่วัตุระเบิดเป็นเพียงก้อนหินและเศษไม้พันสก๊อตเทปโดยมีโมเดลโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโมโตโรล่าผูกติดไว้อีกที เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบอีกครั้ง
(ภาพ : จากแฟ้มข่าว)