ข่าว

'น้ำลดตอผุด'...ใครคือ'ต้นตอ'!!น้ำท่วมใหญ่ถล่มเมือง

'น้ำลดตอผุด'...ใครคือ'ต้นตอ'!!น้ำท่วมใหญ่ถล่มเมือง

24 ม.ค. 2555

'น้ำลดตอผุด'...ใครคือ'ต้นตอ'!!น้ำท่วมใหญ่ถล่มเมือง:เรื่องเด่นประเด็นดัง

           แถลงข่าวกันไปแล้วแบบเข้มเต็มสาระเน้นแฉลึกเบื้องลับกันสุดๆ สำหรับ หนังสือ “ทำไม? น้ำท่วมใหญ่ ถล่มเมือง" บทสัมภาษณ์พิเศษล้วงเบื้องลึกแฉเบื้องลับ โดย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ คนดังผู้อยู่ในกระแสน้ำนี่เอง
 
          โดยบนเวทีเสวนา มี ธีระ ธัญไพบูลย์ ทำหน้าที่ล้วงลึกชอนไช ธนภณ คารมปราชญ์ และ มานะ สุ่มทอง ในฐานะผู้จัดทำและเรียบเรียงหนังสือเล่มดังกล่าว พร้อม แขกรับเชิญ ดร.สุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการโครงการวิจัย ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำและการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียพร้อมด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เจ้าของบทสัมภาษณ์พิเศษ
 
          นอกจากนี้ยังมีคนดังมากมายที่เคยร่วมในการอพยพหนีน้ำร่วมงาน อาทิ ฐิตินาถ ณ พัทลุง, ดร.ถนอมพงษ์ พานิช,ลาวัณย์ เงาเบญจกุล,อลิสา พิสิฐวุฒินันท์และสาวกแฟนคลับคนสู้น้ำ ดร.ธีรชน ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มากันแน่นพารากอน แถมยังได้กำลังใจจากภริยาคนสวย ดร.จันทนี มโนมัยพิบูลย์ หวานฉ่ำจนมดยิ้มตลอดงาน
 
          หลังมหาอุทกภัยใหญ่โจมตีเมืองในครั้งนี้ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ จึงต้องออกมารับลูก  เทคแอคชั่น วางแผนตั้งตัวรับน้ำปี2555 ตั้งแต่ต้นปี เป็นอีกหนึ่งงานที่ต้องถือเป็นการแก้มือ ศปภ. ที่มีเรื่องคาใจตั้งแต่น้ำยังไม่ลด  จนต้องปลดระวางทั้งคนบริหารและเครื่องปั้มน้ำกลางกระแสน้ำเชี่ยวกันมาแล้ว สุภาษิตโบราณท่านว่า น้ำลดตอจะผุด 
 
          ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ ฮาร์ดคอร์ จากศาลาว่าการกรุงเทพฯ  หนึ่งขุนศึกสู้น้ำ   ปี 2554  ประธานคณะทำงานด้านการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเชิงเทคนิค  กทม. และต่อมาเมื่อสถานการณ์ วิกฤตหนัก น้ำจ่อกรุงฯ เขาถูกแต่งตั้งด่วนเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะทำงานของศปภ.ออกมาเปิดประเด็นหลังน้ำลด   “ทำไม น้ำท่วมใหญ่ ถล่มเมือง” 
 
          นับเป็นพ็อกเก็ตบุ้คกระแสแรง ย้อนรอยน้ำท่วมใหญ่แบบย้ำชัดๆ “สิ่งที่ผิดพลาดมันกิดจากเอาคนไม่รู้เรื่องมาบริหารเรื่องน้ำ ผมยอมรับว่าปี2554 นี้น้ำเยอะกว่าปีที่ ผ่านมาแล้วแต่มันบริหารจัดการได้  การจัดการเรื่องนี้ต้องใช้วิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพเข้ามาดูแลบริหารจัดการแต่ว่า เอาคนไม่รู้เรื่อง วางคนไม่ถูกกับงานเข้าไปเอาคนไม่รู้เรื่องเข้าไปจัดการสิ่งที่ผิดพลาดมันกิดจากเอาคนไม่รู้เรื่องมาบริหารเรื่องน้ำ”
 
          ประเด็นใหญ่ใจความที่ดร.ธีระชน ออกมาชี้จุดอ่อนอันเป็นรูรั่วของในการบริหารจัดการน้ำ คือเมื่อน้ำเริ่มมาเยอะในช่วงแรก ไม่จัดการให้มีการดำเนินการระบายน้ำตามระบบเสียแต่เนิ่น ทั้งๆที่มวลน้ำมหึมาไหลมาเยอะตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่มีการกั้นน้ำไว้
 
          “โดยธรรมชาติน้ำมันต้องไหลลงมา เพราะถ้าเราดูจากแผนที่ภูมิประเทศวันที่ 15ตุลาคม น้ำก็ยังแห้ง หนองเสือ ก็แห้ง หนองจอกก็ยังแห้ง บางน้ำเปรี้ยวก็ยังแห้ง สุพรรณบุรีก็ยังแห้งจนถึงวันนึง ที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ออกมาบอกว่าท่านต้องช่วยชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยว ผมเองก็อาจเข้าใจได้แต่ผมรับไม่ค่อยได้ “
 
          เมื่อน้ำไหล่บ่ามาเยอะเข้าจ่อกรุงเทพฯ มีการสร้างคันกั้นน้ำไว้เป็นแนวยาว ขวางการระบายลงพื้นที่ฟลัดเวย์  ทำให้น้ำก่อตัวเป็นมวลน้ำใหญ่ ทะลักเข้าเมืองเป็นสึนามิน้ำจืด
 
          เราไปขวางไม่ให้น้ำไหลจากเหนือลงใต้ไปที่คลอง ระพีพัฒน์ ซึ่งในเวลานั้นบังเอิญก็มีสถานีข่าวช่อง 3 ออกอากาศวันที่ 19 ตุลาคม ออกมาอธิบายความให้เห็นว่า มันมีการกั้นที่คลอง ระพีพัฒน์ 20 กิโลเมตร ซึ่งถ้าไปดูเทปของ Thai PBS  วันที่ 25 ตุลาคมก็มีอีกท่านได้ออกมาว่าท่านได้บินขึ้นไปสำรวจสั่ง การป้องกันพื้นที่ตรงนี้เองตั้งแต่ ปลายเดือนกันยายน มันก็สอดรับกับเทปของช่อง 3 ที่บอกว่ามีการกันที่คลอง รพีภัทร 3.5 เมตร เป็นแนวยาว  20 กิโล เมตรมันก็เป็นเหตุให้น้ำไม่ไหลลงมากั้นคลองระพีพัฒน์ไม่พอ มากั้นที่รังสิต กัน 6 วา มันก็เป็นการบล็อกไม่ให้น้ำเข้าฟลัดเวย์ พอฟลัดเวยไม่ทำงานน้ำก็ยกตัวสูงขึ้น
 
          เมื่อน้ำยกตัวสูงน้ำ น้ำก็เทลงมาตะวันตกมาเช้าแม่น้ำเจ้าพระยา พอเทลงตะวันตกพอเทมามากๆ ประตูระบายน้ำที่คลองหนึ่ง พัง พอประตูที่คลองหนึ่ง พังน้ำก็ไหลทะลุลงมาเข้ามากลางเมืองกรุงเทพฯ
 
          แม้ว่าการจัดการระบายน้ำในปีที่ผ่านมาที่จะเป็นไปอย่างทุลักทุเลและโกลาหลแต่ก็มีข้อดีคือเป็นบทเรียนราคา แพงในหลายๆมิติของคนไทย ที่จะไม่หายไปกับสายน้ำ
 
          ตบท้าย ดร.ธีระชน ย้ำว่าคนไทยควรฟังแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้เพื่อป้องกันน้ำท่วม  เพระองค์ท่านให้แนวทางไว้ชัดเจน ทั้งในเรื่งของฟลัดเวย์ ทางระบายน้ำ พื้นที่แก้มลิง การดูแลพื้นที่เศรษฐกิจ การเก็บน้ำและการปล่อยน้ำอย่างสมดุล เป็นสิ่งซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแล้วบ้านเมืองจะปลอดภัย
 
          ก่อนจากลากันไปในบ่ายสดใส ดร.ธีระชน กล่าวถึงการออกมาเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังในการบริหารจัดการเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่จนผ่านหนังสือ “ทำไม ? น้ำท่วมใหญ่ ถล่มเมือง” ว่าต้องการบอกเล่าความจริงถึงที่มาของเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ก่อนน้ำจะเข้ามาในกรุงเทพ ฯ กระทั่งสุดท้ายแล้วน้ำได้ถูกระบายออกให้หมดไปได้อย่างไร     
 
          และในปี 2555 นี้จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีกหรือไม่ ซึ่งในฐานะที่เป็นผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และวิศวกร อีกทั้งยังเป็นประธานคณะทำงานด้านกำหนดการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเชิงเทคนิค ซึ่งอยู่ในคณะทำงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานคร ถือเป็นหน้าที่ที่จะออกมาชี้แจง และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนได้รับทราบ เข้าใจ ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องครบถ้วน ผ่านหนังสือเล่มนี้ อย่างไรก็ตามหวังว่าในอนาคตเหตุการณ์มหาอุทกภัยเช่นครั้งนี้จะไม่ย้อนกลับมาอีก
 
          เข้มสุดขีด เต็มสาระ กล้าหาญ สมฉายา รองผู้ว่าฯสายฮาร์ดคอร์ จริงๆ
 
          อย่าประมาท อย่านิ่งนอนใจ อย่าวางใจน้องน้ำ หยิบหนังสือ“ ทำไม?น้ำท่วมใหญ่ ถล่มเมือง” มาอ่าน แล้วก็คงทำใจ แถมต้องตักทรายใส่กระสอบ สะสมน้ำอาหาร วางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ป้องกันบ้านเรา เมืองเรา ด้วยตัวของเราเอง
...................
(หมายเหตุ 'น้ำลดตอผุด'...ใครคือ'ต้นตอ'!!น้ำท่วมใหญ่ถล่มเมือง:เรื่องเด่นประเด็นดัง)