
ขอเวลานอก:'เอ-สุรเวช'แชะภาพสวยต่างมุมมอง
คอลัมน์ ขอเวลานอก : 'เอ-สุรเวช' แชะภาพสวยต่างมุมมอง : เรื่อง ... วันวิสา โรจน์แสงรัตน์ - ภาพ ... สุกล เกิดในมงคล
ด้วยความที่เป็นหนุ่มผู้พิสมัยการเดินทางท่องเที่ยวเดินทางเอามากๆ การเก็บภาพความประทับใจจากสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งเหตุการณ์พิเศษที่ประสบพบเจอจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง นั่นเองเป็นที่มาให้นักธุรกิจหนุ่มคลื่นลูกใหม่ไฟแรงเจ้าของธุรกิจส่งออกและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล เรสเตอท์รองต์ จำกัด "เอ" สุรเวช เตลาน หันมาให้ความสนใจการถ่ายภาพ และเริ่มศึกษาวิธีการถ่ายภาพและเทคนิคต่างๆ อย่างจริงจัง จนปัจจุบันกลายเป็นงานอดิเรกที่เจ้าตัวสารภาพว่าโปรดปรานมาก
หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ จากประเทศสหรัฐอเมริกา หนุ่มเอก็กลับมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกขนมที่คุณพ่อตรีทิพย์และคุณแม่วารุณีเปิดมานานหลายปี และเมื่อปีที่ผ่านมาเจาก็เริ่มสนใจธุรกิจอาหารญี่ปุ่น และหันมาจับงานนี้อย่างจริงจัง โดยเลือกทำร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ ชื่อร้านโมโมพาราไดซ์ เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และไม่นานนักสาขาที่ 2 ก็ตามมาติดๆ ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ และจากการที่ต้องเดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยๆ บวกการเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศต่างๆ ที่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเริ่มต้นเรียนรู้การถ่ายภาพจึงเริ่มต้นขึ้น
"ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว เมื่อก่อนเวลาไปไหนก็จะพกเจ้ากล้องคอมแพ็กซ์ตัวเล็กๆ ไปด้วย เพื่อเก็บภาพเล็กๆ น้อยๆ เพราะผมเชื่อมาตลอดว่าภาพถ่ายที่เราถ่ายออกมาจะไม่สวยเท่ากับที่ตาเรามองเห็น จึงไม่ได้เน้นเรื่องนี้มากนัก จนเมื่อราว 4 ปีก่อน ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว พอมีกล้องรุ่นใหม่ๆ ออกมาในตลาด จึงเริ่มสนใจมากขึ้นจนในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อกล้องถ่ายรูปตัวแรก พร้อมทั้งเริ่มศึกษาข้อมูลและเทคนิคต่างๆ อย่างจริงจังทั้งจากอินเทอร์เน็ต และคนรอบข้างที่ถ่ายภาพมาก่อน" ทายาทนักธุรกิจชื่อดดังเล่าถึงที่มาของงานอดิเรกสุดโปรด
หลังจากที่ศึกษาข้อมูลและเก็บภาพในหลากหลายสไตล์ หนุ่มเอก็ค้นพบว่าสไตล์ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดคือ "สแน็ปช็อต" เป็นการเดินถ่ายภาพ มองหามุมที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ แต่ละคนก็ต่างมุมมองกันไป แต่สไตล์นี้ต้องอาศัยความใจเย็น แต่ละภาพที่ได้จะเกิดขึ้นด้วยจังหวะที่พอเหมาะพอดีเท่านั้น
"ผมชอบภาพหนึ่งฝีมือของผมเองถ่ายที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย จุดที่ได้ภาพนี้เป็นสถานีรถไฟที่มีคนพลุกพล่านมากๆ ผมมองหามุมและรออยู่นานกว่าจะได้ภาพนี้ ในภาพมีเพียงคนสองคน ดูแล้วสื่อถึงอารมณ์เหงาของคนในเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี จะเรียกว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของผมเลยก็ว่าได้ ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นภาพเด็กหญิงขอทานถ่ายที่นครวัด คงเป็นช่วงที่เด็กคนนี้กำลังเหนื่อยแล้วนั่งพักพอดี ภาพนี้มุมมันสวยมาก องค์ประกอบของภาพ บรรยากาศรอบข้าง หน้าของเด็กผู้หญิงมองแล้วให้ความรู้สึก คือผมว่าทุกส่วนมันดูแล้วเข้ากันดี"
ตากล้องมือสมัครเล่นเล่าอย่างออกรส พร้อมทยอยหยิบผลงานออกมานำเสนอด้วยความภูมิใจตลอด 4 ปีที่เริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพ สะสมประสบการณ์และอุปกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันนี้เขามีกล้องถ่ายภาพถึง 4 ตัว พร้อมอุปกรณ์อีกครบครัน เพื่อเลือกใช้ได้ตามโอกาสที่เหมาะสม ด้วยเขาให้เหตุผลว่าบางครั้งกล้องตัวใหญ่ให้ภาพสวยคมชัดกว่าก็จริงอยู่ แต่ถ้าต้องเดินทางไปในสถานที่ที่ยากต่อการพกพา ก็ต้องเปลี่ยนใช้ตัวที่ขนาดเล็กกว่า ทั้งนี้ก็มีหลายทริปที่ต้องพกไปมากกว่าหนึ่งตัวด้วย
"ตัวแรกเป็นกล้องดีเอสแอลอาร์ขนาดใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ภาพที่ได้จะสวยงามและดีกว่าตัวอื่นๆ ที่สำคัญใช้บ่อยและถนัดมือที่สุด แต่บางครั้งไม่สะดวกในการพกพาจึงต้องมีขนาดเล็กที่เปลี่ยนเลนส์ได้ติดไว้อีกหนึ่งตัว ส่วนตัวที่สามเป็นกล้องคอมแพ็คซ์แบบเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ แต่ให้ภาพที่มีคุณภาพดีใกล้เคียงกับกล้องดีเอสแอลอาร์ทีเดียว ซึ่งตัวนี้เหมาะมากสำหรับทริปที่ต้องทำงานด้วย ส่วนตัวสุดท้ายเป็นกล้องตัวเล็กสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ ที่พกพาไปด้วยทุกครั้งที่ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมทางทะเล" หนุ่มเอ สาธยาย
แต่ถึงนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อคนนี้จะข้องแวะกับการถ่ายภาพมาหลายปี จนรู้เทคนิคต่างๆ มากมาย แต่กระนั้นเขาก็ออกตัวว่า การถ่ายภาพเป็นเพียงงานอดิเรกที่ทำให้เขาได้ผ่อนคลายจากงานประจำที่ทำอยู่เท่านั้น ส่วนเรื่องที่จะพัฒนาไปถึงขั้นจัดแสดงผลงาน หนุ่มเอบอกว่ายังไม่เคยคิด แต่หากในอนาคตมีโอกาสเหมาะก็อาจไปร่วมแจมกับช่างภาพคนอื่นๆ เช่นกัน
"การถ่ายภาพทำให้ผมมีความสุขครับ ทั้งยังเป็นงานอดิเรกที่ช่วยให้ผมใจเย็นขึ้น มีสมาธิและมีความอดทนสูงขึ้นด้วยครับ เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครจะถ่ายภาพสวยในครั้งแรกที่จับกล้องแน่ เราต้องใจเย็น ตั้งใจรอที่จะจับภาพแต่ละภาพ ก็เหมือนกับการทำงาน ไม่ว่าเราจะทำงานที่ไหน ถ้าเราอดทนและใจเย็น บริษัทก็จะเติบโตไปได้ และเมื่อบริษัทเติบโตคุณก็จะเติบโตไปควบคู่กับบริษัทแน่นอน อย่างตัวผมเองต้องรับผิดชอบงานหลายอย่าง ต้องตัดสินใจหลายเรื่อง ทุกเรื่องที่ออกจากปากเราจะกลายเป็นนโยบาย ถ้าวันนี้ตัดสินใจอย่างหนึ่ง อีกวันจะมาเปลี่ยนใจ ก็ทำให้เกิดความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะพูดอะไรออกไป" หนุ่มเอกทิ้งท้ายการสนทนาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนเดินหน้าเก็บภาพสวยๆ ต่อไป
---------------------
(หมายเหตุ : คอลัมน์ ขอเวลานอก : 'เอ-สุรเวช' แชะภาพสวยต่างมุมมอง : เรื่อง ... วันวิสา โรจน์แสงรัตน์ - ภาพ ... สุกล เกิดในมงคล)