ชาวบางบัวนัดไล่พระตุ๊ดเต้นโคโยตี้ | คมชัดลึก

             12ม.ค.2555 หลังมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า พระใกล้รุ่ง รุจิธัมโม อายุ 39 ปี พรรษาที่ 15 พระลูกวัดบางบัว เขตบางเขน กทม. มีพฤติกรรมเล่นโคโยตี้ภายในวัดนั้น ล่าสุดมีการเปิดเผยเอกสารหนังสือ 2 ฉบับ ลงวันที่ 9 ธ.ค.2554 โดยฉบับแรก นายสกุล ชื่นใจเล็ก ฝ่ายการเงิน นายคารม เจียมบุรเศรษฐ์ ฝ่ายนวกรรม และนายเจริญ บุญช่วย ฝ่ายศาสนพิธี ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของวัดบางบัว ได้ทำหนังสือถึงพระสิทธินายก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อกล่าวหากล่าวเจ้าอาวาสวัดบางบัว เขตบางเขน บกพร่องหรือละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ โดย

               1. ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่สมควร เนื่องจากการปลดไวยาวัจกรทั้ง 3 คนก่อนหน้านี้นั้น เพราะได้ทำหน้าที่ในการสอดส่องการงานแก่วัดบางบัว และเมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่จะนำความเสียหายมาสู่พระพุทธศาสนา ก็ได้แจ้งต่อเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ชาวบ้านพบว่ามีพระสงฆ  สามเณร ภายในวัดเสพยาหรือค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การที่ตำรวจเข้าตรวจค้นพบพระสงฆ์ สามเณร 4 รูป มีสารเสพติดก็ได้ลาสิกขาออกไป หรือการที่พบพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่คล้ายหญิง เต้นรำหน้ากุฏิ หรือ พบคฤหัสห์อาศัยเข้ามามากหน้าหลายตาอยู่เป็นประจำ แต่เรื่องนี้เจ้าอาวาสบกพร่อง โดยที่ไม่มีการสอบสวน แต่กลับเชื่อคำยุยงคำครหาที่ว่าร้ายไวยาวัจกรทั้ง 3 คน จนนำไปสู่การมีคำสั่งเจ้าอาวาสที่ 1/2554 ลงวันที่ 20 ก.ย.2554 ให้ปลดไวยาวัจกรทั้ง 3 คนออกจากหน้าที่โดยที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะเขตบางเขน(วัดเสมียนนารี) ซึ่งการถอดถอนดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 18 (พ.ศ.2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกร หมวดที่ 2 ข้อที่ 13

               2. บกพร่องการสอดส่องการปกครองบรรพชิต และคฤหัสถ์ ซึ่งพำนักอยู่ในวัด คือ การบกพร่องการสอดส่องการเข้าสอบและการเข้าพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม 3 ประโยค ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2554 พระใกล้รุ่ง รุจิธัมโม พระลูกวัดบางบัว ได้เข้าพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม 3 ประโยค แต่เมื่อตรวจสอบจากระบบสารสนเทศของแม่กองบาลีสนามหลวง พบว่าพระใกล้รุ่ง รุจิธัมโม ได้สมัครเข้ารับการสอบเปรียญธรรม 3 ประโยค ณ สนามสอบพระวิหารหลวง วัดสุทัศฯ แต่ไม่ได้เข้ารับการสอบ และไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นผู้สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ซึ่งพบว่าพระสงฆ์ที่สอบได้นั้น มีชื่อว่า พระใกล้รุ้ง รุจิธัมโม อายุ 29 ปี พรรษาที่ 5 สังกัดวัดศรีใคร ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ โดยมีสำนักเรียน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้เกิดความสงสัยว่าเจ้าอาวาสไม่ได้สอดส่องการเข้าสอบ รวมทั้งการเข้าพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม 3 ประโยคของพระใกล้รุ่ง และอาจจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่คณะสงฆ์และศาสนาได้

               ขณะเดียวกันเจ้าอาวาสบกพร่องการสอดส่องพระสงฆ์ที่พำนักในวัดให้ปฏิบัติตามธรรมวินัย เนื่องจากการที่พบพระสงฆ์บางรูปมีกิริยาคล้ายหญิงในที่เปิดเผยจึงไม่สมควร อีกทั้งผิดพระธรรมวินัย ซึ่งมีการแจ้งต่อเจ้าอาวาสแล้ว แต่ก็ไม่มีการตักเตือน สั่งสอน หรือลงโทษ

               3. มิได้มีการทำบำรุงดูแลรักษาศาสนสมบัติของวัดตามกำลังและความสามารถ หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมานั้นมีทรัพย์สินของวัดหลายการ เช่น พัสดุ โต๊ะเก้าอี้ เครื่องใช้ภายในสำนักงานฌาปนสถานที่อาจยกขึ้นที่สูงให้พ้นน้ำได้ ก็ไม่ได้มีการสั่งการให้ป้องกัน จนทำให้ศาสนสมบัติของวัดดเสียหายและต้องจัดซื้อใหม่ ทำให้วัดเสียเงินในทางที่ไม่ควร

               ทั้งนี้ขอให้มีการสอบสวนพฤติกรรมเจ้าอาวาสวัดบางบัว ว่าบกพร่องหรือละเมิดจริยาของพระสังฆาธิการหรือไม่ พร้อมขอความเป็นธรรม โดยให้เพิกถอนหรือกลับคำสั่งของเจ้าอาวาสวัดบางบัวที่ถอดถอนทั้ง 3 คนออกจากการทำหน้าที่ไวยาวัจกร

               สำหรับหนังสือฉบับที่ 2 ไวยาวัจกรทั้ง 3 คนยื่นต่อเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ แม่กองพิธีสนามหลวง เพื่อขอให้ความกระจ่าง หลังมีการตรวจสอบไปยัง www.infopali.net «Öè§ <http://www.infopali.net%20%20%20«Öè§> เป็นระบบสารสนเทศของสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง ประจำปี 2554 ก็ไม่พบว่า พระใกล้รุ่ง รุจิธัมโม อายุ 39 ปี พรรษาที่ 15 พระลูกวัดบางบัว โดยสำนักเรียนเขตบางเขน-จตุจักร เป็นผู้สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค แต่กลับพบรายการจากระบบดังกล่าวแสดงชื่อของพระใกล้รุ้ง รุจิธัมโม อายุ 29 ปี พรรษาที่ 5 สังกัดวัดศรีใคร ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ โดยมีสำนักเรียน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งขอให้เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ แม่กองบาลีสนามหลวง โปรดสั่งการให้มีการตรวจสอบว่าเกิดความผิดพลาด บกพร่อง ส่อไปในทางทุจริต หรือความถูกต้องแล้ว เพื่อหายเคลือบแคลงใจ อีกทั้งให้รู้ว่าพระสงฆ์รูปดังกล่าวกระทำการฝ่าฝืนคำสั่ง ระเบียบปฏิบัติ ด้วยการแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จไม่ถูกต้องตรงกับความจริงในการสมัครเข้ารับการสอบซ้อนกัน 2 แห่ง อันเป็นการหลอกลวงพระเดชพระคุณเพื่อให้ได้รับการสอบ ด้วยวิธีการแจ้งชื่อ แจ้งอายุ แจ้งพรรษา ให้คลาดเคลื่อนไปจากความจริง ด้วยเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากคณะกรรมการควบคุมการสอบ , จากสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวงต่อเมื่อสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวงได้ประกาสชื่อให้เป็น ผู้สอบประโยคบาลีสนามหลวงได้แล้ว จึงจะแจ้งให้มีการแก้ไขชื่อหรือรายการอื่นๆ ให้ตรงความจริงเพื่อเข้ารับตราตั้งในพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม 3 ประโยค ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงคณะสงฆ์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องและสุจริตให้เกิดความเสียหาย

               โดยหากมีความทุจริตกระทำผิด ก็เป็นการฝ่าฝืน ประกาศเรื่อง ห้ามนักเรียนลงชื่อเข้าสอบบาลีสนามหลวงหลายแห่ง ที่ประกาศเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2502 อีกทั้งแม่กองบาลีสนามหลวง ก็ได้มีประกาศ เรื่องให้นักเรียนมีหนังสือสุทธิไปแสดงในเวลาสอบบาลี โดยผู้เข้าสอบต้องมีหนังสือสุทธิแสดงเวลาเข้าสอบ หากปรากฎว่าหนังสือสุทธิของนักเรียนรูปใดมีพิรุธ น่าสงสัยว่าผู้ถือหนังสือสุทธินั้นจะไม่ใช่คนเดียวกับผู้ที่มีชื่อในบัญชีให้สอบ กรรมการผู้กำกับห้องสอบนำหนังสือสุทธินั้นเสนอ ประธานกรรมการ ณ สถานที่สอบ เพื่อสอบสวน และเมื่อเสร็จแล้วให้รายงานแม่กองบาลีสนามหลวงทราบด้วย

               ทั้งนี้ไวยาวัจกรทั้ง 3 คน ขอให้ตรวจสอบว่าพระใกล้รุ่ง รุจิธัมโม สังกัดวัดศรีใครมีรูปท่านอยู่จริง และจำพรรษาในสังกัดวัดศรีใครหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบนั้น การสอบบาลีสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวงจะให้สำนักเรียนในต่างจังหวัดส่งรายชื่อผู้สอบมาทางอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะจัดส่งเอกสารตามมาในภายหลัง โดยที่ผู้สอบต้องกรอกข้อมูลในเอกสารด้วยตัวเอง ซึ่งกระบวนที่ผิดพลาดก็คงเกิดขึ้นตั้งแต่ต่างจังหวัดที่พบว่ามีการฮั้วกันตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะสำนักเรียนอำนาจเจริญที่ปกปิดข้อมูล และหากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็จะพบความผิดตั้งแต่วัดเสมียนนารี ที่เป็นสำนักเรียนเขตบางเขน-จตุจักร จนถึงวัดศรีใคร จ.อำนาจเจริญ

               อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว ไวยาวัจกรทั้ง 3 คนเห็นว่าเป็นการทุจริตในการเข้าสอบ อีกทั้งการสอบดังกล่าวก็เป็นการรู้ข้อสอบกันอยู่แล้ว และการทุจริตนั้นก็เพื่อใช้เป็นการประกอบตำแหน่งในทางสงฆ์ที่จะขึ้นในตำแหน่งสูงต่อไป

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 ม.ค. เวลา 12.00 น. ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่วัดบางบัวได้นัดชุมนุม เพื่อขับไล่พระใกล้รุ่ง โดยขณะนี้ได้เตรียมมวลชนไปร่วมชุมนมจำนวนมากพอสมควรไปร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว