ข่าว

ชาวระนองไม่ประมาทคำทำนาย'ด.ช.ปลาบู่'

ชาวระนองไม่ประมาทคำทำนาย'ด.ช.ปลาบู่'

31 ธ.ค. 2554

ชาวระนองไม่ประมาทคำทำนายของ 'ด.ช.ปลาบู่' จัดเวรยามเฝ้าระวัง

             31 ธ.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข่าวคำทำนายของ ดช.ปลาบู่ ที่ทำนายว่าในคืนวันที่ 31 ธ.ค. จะพิบัติภัยอย่างรุนแรงครั้งสำคัญของโลก ทั้งแผ่นดินไหวรวมถึงพิบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับแผ่นดินไหว ได้สร้างความหวาดวิตกให้กับชาวบ้านในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิในเขตพื้นที่ จ.ระนอง ที่เคยประสบภัยสึนามิเมื่อปี 2547 ที่กลัวว่าเหตุการณ์ร้ายจะกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

             นายสมชาย หัสจักร ชาวบ้าน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง กล่าวว่า จากกรณีที่พื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดระนอง ซึ่งเคยประสบเหตุสึนามิ ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์โศกนาศกรรม ทำให้ชาวบ้านที่เคยประสบเหตุในพื้นที่เสี่ยงภัย ส่งผลให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงกระแสข่าวลือต่างๆ ยิ่งเพิ่มความวิตกดกังวลให้กับชาวบ้านมากยิ่งขี้น แม้ว่าเหตุการณ์และปัจจัยต่างๆยังไม่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกหรือไม่ แต่พบว่าขณะนี้ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้ที่เคยประสบเหตุต่างอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม

             ประกอบกับช่วงรอบปีที่ผ่านมาพบมีการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในปัจจุบัน ทำให้ชาวบ้านในเขตพื้นที่หมู่บ้านเสี่ยงภัย ซึ่งเป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลอันดามัน เกิดความวิตกว่าจะเกิดพิบัติภัยสึนามิที่อาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเช่นเมื่อเหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา ดังนั้นในช่วงคืนวันที่ 30 ธ.ค.-31 ธ.ค. แต่ละหมู่บ้านจึงมีการจัดเวรยามคอยเฝ้าระวังและแจ้งเหตุ รวมถึงทีมช่วยเหลือ และจุดอพยพหลบภัยหากเกิดพิบัติภัยเกิดขึ้น "

             “จังหวัดระนองตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลด้านอันดามัน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะประสบกับพิบัติภัยสึนามิอีกครั้ง เนื่องจากพบว่าแผ่นเปลือกโลกด้านนี้ยังมีการกดทับ อีกทั้งตั้งอยู่ในแนวของแผ่นดินไหว พบว่ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อม และลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินให้น้อยที่สุด การไม่ประมาท ตื่นตัว และเตรียมความพร้อม น่าจะเป็นแนวทางการรับมือต่อสถานการณ์ได้ดีที่สุด”

             สำหรับ15 ชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่เคยประสบพิบัติภัยสึนามิเมื่อปี 2547 ประกอบด้วยชุมชนบ้านเกาะคณฑี ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง,บ้านเกาะพยาม ม.2 ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง,บ้านเกาะคณฑี  ม.2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง,บ้านนาพรุ ม.2 ต.นาคา อ.สุขสำราญ,บ้านเกาะช้าง ม.2 ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง,บ้านบางมัน ม.1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ,บ้านในกรัง ม.9 ต.จ.ป.ร.  อ.กระบุรี,บ้านบางลำพู  ม.3 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์,บ้านบางกล้วยนอก ม.3 ต.นาคา อ.สุขสำราญ, บ้านชิมี ม.8 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์,บ้านเกาะตาครุฑ ม.4 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง, บ้านแหลมนาว ม.6 ต.นาคา อ.สุขสำราญ,บ้านชาคลี  ม.1 ต.บางหิน อ.กะเปอร์,บ้านเกาะสินไห ม.4  ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง

 

7 วันอันตรายระนองตายแล้ว 1 ราย

             วันเดียวกัน นายชาสันต์ คงเรือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่าทาง ปภ.ระนองโดย ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดระนอง สรุปอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2554-30 ธ.ค. 2554 พบมีผ้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00น.คืนวันที่ 30 ธ.ค. 2554 เป็นเยาวชน ประสบอุบัติเหตุรถ

             จักรยานยนต์เฉี่ยวชน โดยพบว่าผู้ขับขี่มีอายุเพียง 15 ปี ขับขี่โดยไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมที่จะประชุมร่วมเพื่อปรับแผนการทำงานเนื่องจากพบว่าผู้ขับขี่รถ จยย.และรถยนต์มีพฤติกรรมที่ไม่เคารพกฏวินัยจราจร และเมาสุราในระหว่างการขับขี่ สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติภัยร้ายแรง ซึ่ง จ.ระนองตั้งเป้าจะต้องไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะนี้ได้เกิดเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว

             สำหรับจังหวัดระนองได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดระนอง ปี พ.ศ. 2555 บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตามมาตราการ 3ม 2 ข 1ร ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2554 ถึง วันที่ 4 ม.ค. 2555 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 7 วัน โดยมีเป้าหมายการดำเนินการให้ลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ให้เหลือน้อยที่สุดหรือให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในเทศกาลปีใหม่ 2555 โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ไม่ควรเกิดจำนวนอุบัติเหตุเกิน 17 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่เกิน 18 คน และต้องไม่มีผู้เสียชีวิตตามนโยบายร่วมกันลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์ (Zero Accident)

             อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ สถิติคนไทยเสียชีวิตบนท้องถนนประมาณวันละ 30 คน แต่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีคนไทยสังเวยชีวิตบนท้องถนนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากการตรวจสอบสถิติอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย พบว่าเมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 358 คน การเสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วงวันฉลองมากกว่าวันเดินทางไป-กลับ สาเหตุคือดื่มแฮลกอฮอล์และไม่สวมหมวกนิรภัย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนถนนสายรอง จากปัญหาดังกล่าวทางจังหวัดระนองจึงได้ปรับบทบาทของจุดบริการ เป็นจุดสกัดแทน เพื่อลดจำนวนผู้ที่เมาแล้วขับ พร้อมกำชับ จนท.ตำรวจให้เข้มงวดกวดขันในการใช้กฏหมาย โดยการร่วมมือกับท้องถิ่นเพื่อตั้งด่านตรวจ จับกุมผู้ที่เมาแล้วขับ