ข่าว

กระเป๋า-ตะกร้าจาก"ปอมนิลา" 
ผลิตภัณฑ์ทำมือชาว"ผาน้ำทิพย์"

กระเป๋า-ตะกร้าจาก"ปอมนิลา" ผลิตภัณฑ์ทำมือชาว"ผาน้ำทิพย์"

07 พ.ค. 2552

หลังจากกลุ่มหัตถกรรมผาน้ำทิพย์ ได้ระดมสมาชิกประมาณ 20 คน มารวมกลุ่มทำอาชีพหลากหลายจนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะทำขนม ซึ่งช่วงแรกดูจะไปได้สวย แต่เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานการผลิตจากทางภาครัฐก็ตามมา สุดท้ายต้องเบนเข็มไปทำอาชีพอื่น จนมาลงตัวที่ทำผล

  กฤษณา ชาภูธร วัย 48 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมบ้านผาน้ำทิพย์ หมู่ 8 ต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เล่าว่า ว่างเว้นจากการทำนา ก็มีการรวมตัวสมาชิกในหมู่บ้านราว 20 คน ตั้งกลุ่มแม่บ้านขึ้น พร้อมระดมหุ้นคนละ 50 บาท เพื่อทำขนมขบเคี้ยวขาย อาทิ ครองแครง กล้วยฉาบ นางเล็ด แต่ทำไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มยุ่งยากและมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องมาตรฐานการผลิตที่ไม่ได้รับ อย. เรื่องสถานที่ผลิต สถานที่จัดเก็บ สุดท้ายต้องเลิกการทำขนมไป

 กระทั่งปี 2545 กฤษณาไปดูงานที่ จ.นครปฐม เห็นชาวบ้านที่นั่นสานตะกร้าจากปอมนิลาเคลือบใยสังเคราะห์ จึงลองฝึกทำดู ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็สามารถสานตะกร้าได้ หลังจากดูงานจึงปรึกษากับสมาชิกกลุ่ม และได้หันมาผลิตผลิตภัณฑ์จากปอมนิลาจนถึงปัจจุบัน

 กฤษณาบอกว่า จากนั้นได้เริ่มสั่งซื้อวัตถุดิบหลัก คือ ปอมนิลาเคลือบสังเคราะห์จาก จ.นครปฐม ราคาม้วนละ 300-500 บาท แล้วแต่ขนาด ซึ่งมีหลากหลายสีสัน โดยผลิตภัณฑ์หลักๆ ได้แก่ ตะกร้าถือ ราคาเริ่มต้น 350-450 บาท ตะกร้าเสื้อผ้าใบละ 500-600 บาท และกระเป๋าถือ 250-350 บาท ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและลวดลาย โดยลวดลายส่วนใหญ่จะเป็นการออกแบบเอง เช่น ลายดอกงู ลายดอกพิกุล ลายปู ลายเกลียว ลายขิด เป็นต้น

 "ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผลิตขึ้นนั้น ทำมาจากวัตถุดิบที่แปลกแตกต่างออกไป ทำให้ในปี 2547 กลุ่มได้รับการคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับจังหวัด 2 ดาว ปี 2549 ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และปี 2550 ได้รับการคัดสรรระดับ 3 ดาว เมื่อนำสินค้าไปจำหน่ายตามงานโอท็อปต่างๆ จึงมียอดขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4-5 หมื่นบาท เมื่อแบ่งรายได้ให้สมาชิกในกลุ่มจะมีรายได้คนละกว่า 2,200 บาทต่อสัปดาห์"

 กฤษณาบอกว่า ถึงตอนนี้ซึ่งเศรษฐกิจฝืดเคือง แม้จะไม่ค่อยมีงานแสดงสินค้าโอท็อป แต่กลุ่มก็ได้ผลิตกระเป๋าจำหน่ายตามงานต่างๆ เช่น งานไหมขอนแก่น งานของดี อ.ภูผาม่าน และงานที่ อบต.จัดขึ้น ซึ่งรายได้ไม่แน่นอน เมื่อมีเวลาว่างทั้งเธอและสมาชิกกลุ่มก็จะไปเป็นผู้ฝึกทำผลิตภัณฑ์จากปอมนิลา ทำให้มีหน่วยงานภาครัฐติดต่อให้ไปเป็นวิทยากรและสาธิตการทำผลิตภัณฑ์เป็นประจำ

 "ที่ผ่านมาได้ฝึกสอนทำผลิตภัณฑ์จากปอมนิลา ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคที่ 6 ขอนแก่น สถานที่ราชการทั้งในและจังหวัด รวมถึง อบต.ที่ได้รับการจัดสรรงบด้านการส่งเสริมอาชีพ ก็ได้ติดต่อมาเพื่อให้ไปฝึกสอนอาชีพให้ ทำให้ใน 1 สัปดาห์จะได้ค่าฝึกสอนวันละ 500 บาท ส่วนลูกมือจะได้วันละ 200 บาท แต่เราก็จะมีรายได้เสริมคือ การนำปอมนิลามาจำหน่ายให้แก่ภาครัฐ เพื่อเป็นวัตถุดิบใช้ฝึกสอน รายได้สุทธิจากการจำหน่ายเชือกก็ตกอยู่ครั้งละ 7,000-8,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่เลี้ยงตนเองได้"

 ไม่ว่าวิกฤติเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มโอท็อปมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่กฤษณาก็ปรับตัวให้เข้ากับสภาพ จากเดิมที่เน้นผลิตเพื่อขาย ปัจจุบันก็หันมาเป็นวิทยากรเพื่อฝึกสอนอาชีพ ซึ่งมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่หลังการฝึกอาชีพแล้วหันไปทำเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้แก่คนเหล่านี้


"มยุรี อัครบาล"